"กัมพูชา" แถลงเชิญ 14 ทูตทหารต่างชาติ จาก 9 ประเทศ เยือนอุดรมีชัย ตรวจสถานการณ์ชายแดนหลังข้อตกลงหยุดยิง
เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 10 ส.ค. 68 พลโทมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 สิงหาคม 2568 กลุ่มอัครราชทูตทหารต่างชาติ 14 นาย จาก 9 ประเทศ จะเดินทางไปยังจังหวัดอุดรมีชัย เพื่อทำการตรวจสอบสถานการณ์จริงบริเวณชายแดนและผู้ลี้ภัยสงคราม หลังจากกัมพูชาดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทย
การประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) ที่จัดขึ้นที่มาเลเซีย ได้ดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้เห็นพ้องกันเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งรวมถึงการคงไว้ซึ่งการหยุดยิง การไม่เคลื่อนย้ายกำลังทหาร และการจัดตั้งกลุ่มผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่นำโดยมาเลเซีย เพื่อทำการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นที่จะลดความตึงเครียด ป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) เพื่อประสานงานการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังได้ร้องขอให้ปล่อยตัวทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวโดยกองทัพไทย
พลโทมาลี กล่าวว่า "ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568 กลุ่มอัครราชทูตทหารต่างชาติประจำราชอาณาจักรกัมพูชา (MACPP) ซึ่งประจำอยู่ในและนอกกัมพูชา ได้ออกเดินทางจากกรุงพนมเปญไปยังจังหวัดอุดรมีชัย เพื่อทำการตรวจสอบสถานการณ์จริงและที่พักของผู้ลี้ภัยสงคราม หลังจากกัมพูชาดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีตัวแทนจาก 9 ประเทศ รวม 14 นาย เข้าร่วมประกอบด้วย อัครราชทูตทหารจากออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ลาว และเวียดนาม"
พลโทมาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า "การตรวจสอบสถานการณ์จริงบริเวณชายแดนโดยอัครราชทูตทหารต่างชาติจาก 9 ประเทศนี้ นำโดยรองอธิบดีกรมการเมืองและการต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าภารกิจนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น การเข้าร่วมของประเทศพันธมิตรเหล่านี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการทำให้การหยุดยิงประสบความสำเร็จและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำสันติภาพ ความมั่นคง การร่วมมือ และการพัฒนามาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ"
ฝ่ายกัมพูชายังคงยืนยันความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด รวมถึงเจตนารมณ์และความเห็นพ้องระหว่างทั้งสองฝ่ายในการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 โดยทำงานร่วมกับฝ่ายไทย มาเลเซีย สมาชิกอาเซียน และพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงมีประสิทธิภาพและครบถ้วน รวมถึงการแก้ไขข้อพิพาททั้งหมดด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎบัตรอาเซียน