24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2568
>> ต้นไม้ยักษ์ล้มขวางถนนหน้าศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง ถนนทุ่งกลมตาลหมัน จ.ชลบุรี
09.30 น. ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยารายงานว่า เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มโค่นลงมาบริเวณ ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง ถนนทุ่งกลมตาลหมัน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ส่งผลให้รั้วหมู่บ้าน และพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย อีกทั้งบางส่วนยังล้มขวางถนน กีดขวางการจราจร
เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลห้วยใหญ่เร่งเข้าดำเนินการใช้เครื่องจักรและเลื่อยยนต์ตัดกิ่งไม้ เคลียร์เส้นทางเพื่อเปิดการสัญจรของประชาชนให้กลับมาเป็นปกติ
สำหรับต้นไม้ดังกล่าว เป็นต้นไม้เก่าแก่มีอายุหลายสิบปี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่คู่กับศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้าน ทั้งชาวไทยเชื้อสายจีนและคนในพื้นที่ เคารพนับถือ และมากราบไหว้ขอพรเป็นประจำ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตกใจให้กับชาวบ้าน เนื่องจากต้นไม้ถือเป็นสัญลักษณ์คู่ศาลมายาวนาน
>> ทหารเขมร บุกป่วนคณะผู้สังเกตการณ์ฯของไทย ระหว่างลงพื้นที่ “ช่องอานม้า-อนุสาวรีย์ตาอม”
12.17 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม เดินทางลงพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบ กรณีการรุกเข้ามาตัดลวดหนามของฝ่ายกัมพูชา ถือเป็นการทำลายความไว้วางใจ และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
โดยบริเวณดังกล่าวเป็น ตลาดช่องอานม้า เคยเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าที่ให้กัมพูชานำสินค้าขึ้นมาค้าขาย แลกเปลี่ยนกับไทยมานานกว่า 20 ปี และพื้นที่ตรงนี้ เป็นพื้นที่ที่มีข้อตกลงตาม MOU43 ที่ห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง แต่กัมพูชาได้ขึ้นมาก่อสร้างบ้านเรือน และสร้างครอบครัวรวมถึงอนุสาวรีย์ตาอม
เมื่อมีการสู้รบที่ผ่านมา ทำให้ทางการไทยสามารถที่จะกระชับพื้นที่ และเข้าควบคุมพื้นที่ที่เป็นขอบเขตของไทยกลับคืนได้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นตลาดชุมชนชายแดนกัมพูชากว่า 80 หลังคาเรือนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่บริเวณช่องอานม้า ถูกล้อมด้วยรั้วลวดหนามหีบเพลง
เมื่อคณะทูตสังเกตการณ์ชั่วคราวเดินทางมาถึง มีทหารชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงท่าทีไม่พอใจว่า ไม่มีการแจ้งให้ทราบก่อนว่าจะมีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวเข้ามา ขณะที่ทหารไทยก็พยายามเจรจาพูดคุย
>> รวบ "ตี๋ ลำปาง" ตีนแมว ย่องเบาลักรถฯ ใช้ไขควงอันเดียว ก่อเหตุทั่วลำปาง
12.29 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ร่วมกันจับกุม นายวอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฐาน "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์คือเมื่อประมาณเดือน มิ.ย. 68 ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาพักอาศัยอยู่ภายในหอพัก ได้จอดรถจยย. ไว้ใต้หอพัก แต่ไม่ได้ล๊อกบริเวณคอรถ จากนั้นเมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้รถจักรยานยนต์ ปรากฎรถหายไปแล้ว ต่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีผู้ต้องหาในคดีนี้เข้ามาจูงรถ จยย. หนีไป จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน โดยจากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมดังกล่าวในหลายแหล่งในเขตพื้นที่ จ.ลำปาง โดยที่มีผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไว้แล้วเป็นจำนวนกว่า 4-5 คดี
กระทั่งต่อมาเมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> แถลงการณ์ สำนักพระราชวัง พระอาการประชวร เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ฉบับที่ 5
12.33 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตามที่สำนักพระราชวัง ได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย และทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาตั้งแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ และแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่าทรงมี พระอาการแทรกซ้อนด้วยการติดเชื้อที่รุนแรงในพระกระแสโลหิตในวันที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น
คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ได้รายงานเพิ่มเติมว่า จากที่ทรงมีพระอาการติดเชื้อรุนแรง และคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังมีความดันพระโลหิตต่ำอยู่ คณะแพทย์ยังต้องต้องถวายพระโอสถเพื่อกระตุ้นความดันพระโลหิต ร่วมกับพระโอสถปฏิชีวนะและการใช้อุปกรณ์ทดแทนการทำงานของพระวักกะ (ไต) และช่วยหายพระทัย คณะแพทย์ยังต้องเฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
>> ครม. เห็นชอบบันทึกความร่วมมือจัดหาแรงงานศรีลังกา มาทดแทนกัมพูชา
12.40 น. นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง การจัดหาแรงงานมาทดแทนแรงงานชาวกัมพูชา ที่เดินทางกลับประเทศ ระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบอนุมัติบันทึกความร่วมมือในการจัดหาแรงงานศรีลังกา มาทดแทน ซึ่งตอนนี้เป็นประเทศที่มีความพร้อมสามารถส่งแรงงานมาได้ทันที 10,000 ราย แต่ขณะนี้มีผู้ที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 30,000 ราย ซึ่งจะนำแรงงานกลุ่มนี้เข้ามาเสริม รวมถึงจะมีรายงานในกลุ่มอื่นๆอีก อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเนปาล
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ จะส่งผลให้โรงงานปิดตัวและเกิดการว่างงานมากขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนมองว่าไม่น่ามีปัญหา ในประเทศไทยมีมากพอสมควร เพียงแต่ว่าหากไม่เลือกงาน ก็เชื่อว่ามีงานทำทุกคน เรามั่นใจว่ามาตรการภาษีสหรัฐฯ ไม่ส่งผลต่อตลาดแรงงานของไทย
>> เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี อนุญาตให้ "พระอลงกต" ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตามที่ได้ยื่นหนังสือไว้ ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
13.27 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี มีหนังสือที่ 022/2568 เรื่องให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง โดยมีรายละเอียดว่า
ด้วยพระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) ฉายา ติกฺขปญโญ อายุ 65 พรรษา 38 วิทยฐานะ น.ธ.โท เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535
จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) ฉายา ติกฺขปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
>> ทหารเก็บกู้ทุ่นระเบิด พบโทรศัพท์บนภูมะเขือ เจอคลิปทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด PMN-2
19.20 น. ผู้สื่อข่าว มีรายงานว่า ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ที่สนับสนุนการปฏิบัติงานการเก็บกู้ และกวาดล้างฯ ได้ตรวจพบโทรศัพท์ของทหารกัมพูชา ที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ)
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำโทรศัพท์มาชาร์จแบตเตอรี่ และตรวจสอบภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ โดยพบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายทหารกัมพูชาถือทุ่นระเบิด PMN-2 ซึ่งในคลิปพูดภาษาเขมร คาดว่าเป็นการแนะนำการใช้งาน ก่อนลักลอบนำไปฝังดิน เจ้าหน้าที่จึงได้นำโทรศัพท์ ส่งให้ทางหน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ถือว่าเจ้าหน้าที่ นปท.ทร. มีไหวพริบที่ดีมาก เมื่อพบหลักฐานแล้วรีบตรวจสอบ ที่สำคัญภาพในโทรศัพท์ ระบุไว้ด้วยว่าถ่ายวันไหน ถือเป็นหลักฐานชั้นดีทีเดียว
>> “ภูมิธรรม” หารือทางโทรศัพท์กับประธานอาเซียน และนายกฯ มาเลเซีย ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา
19.31 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า วันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับ ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะประเด็นการดำเนินงานของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว
การพูดคุยในครั้งมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย โดยรองนายกรัฐมนตรีฯ เน้นย้ำว่า ฝ่ายไทยยืนยันให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ดำเนินงานตามหลักการและกรอบการดำเนินงานตามที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป สมัยวิสามัญ ได้ตกลงกันไว้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ซึ่ง IOT ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการดำเนินงาน โดยหากมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานของ IOT ก็สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม GBC ครั้งต่อไปในเดือนหน้า เพื่อประเมินผลต่อไป
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ ยังได้ขอบคุณประธานอาเซียนและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่มีส่วนช่วยผลักดันให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี และแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนท่าทีของไทยในการแสวงหาทางออกอย่างสันติและบนพื้นฐานของกรอบการหารือทวิภาคีไทย-กัมพูชาต่อไป
>> ปกครอง ตำรวจพัทยาเข้ม ระดมกวาดล้างยาเสพติด ในสถานบันเทิงต่อเนื่อง
20.00 น. พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยนายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง นำกำลังฝ่ายปกครองและตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจเข้มสถานบันเทิงในเขตเมืองพัทยา ตามนโยบายปฏิบัติการ “No Drugs No Dealers ผนึกกำลังสร้างหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด”
เจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจปัสสาวะพนักงาน และนักท่องเที่ยวใน 3 สถานบันเทิงใหญ่ จุดแรก ตรวจ 152 คน (ชาย 97 หญิง 55) ไม่พบสารเสพติด จุดที่สอง เป็นไนท์คลับ ตรวจ 87 คน (ชาย 47 หญิง 40) ไม่พบสารเสพติด และ จุดที่สาม ตรวจ 79 คน (ชาย 50 หญิง 29) ไม่พบสารเสพติด ผลการตรวจไม่พบผู้ใช้สารเสพติดแม้แต่รายเดียว สร้างความพอใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ
ด้าน พ.ต.ท.สุชาติ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณผู้ประกอบการ และพนักงานทุกแห่งที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมย้ำให้ช่วยกันสอดส่องดูแล ไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติด อาวุธ หรือปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่ากฎหมายเข้ามาใช้บริการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวพัทยาให้ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ
>> รถกระบะ 2 คันและรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง กลางถนนหมายเลข 403 มีผู้เสียชีวิตหญิง 1 ราย
20.18 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่อนพิบูลย์ มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนหมายเลข 403 ช่วงบ้านควนรุย ในพื้นที่ ม.1 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา สภาพหน้ารถพังเสียหายอยู่บนเกาะกลาง, รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ไม่ทราบยี่ห้อ ป้ายทะเบียน นครศรีธรรมราช สภาพพังทั้งคันอยู่ในพงหญ้า และรถกระบะ อีซูซุ สีดำ สภาพพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง
ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหญิง 1 รายอายุ 27 ปี นำส่ง รพ.ร่อนพิบูลย์ และพบร่างของผู้เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 41 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์
>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล กลางถนนร่มเกล้า บาดเจ็บสาหัส จนท.เร่งทำ CPR แต่ไม่เป็นผล
20.40 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนร่มเกล้า ช่วงระหว่างซอยร่มเกล้า 5 - 7 ในพื้นที่ เขตมีนบุรี กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล นิสสัน อเมร่า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีเหลือง ป้ายทะเบียน สิงห์บุรี ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 รายอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 20 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
01.14 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.3 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 128 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> รถนั่งส่วนบุคคลพลิกคว่ำลงข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
01.49 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยหล่มสัก มีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคล เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนสายสระบุรี - หล่มสัก ช่วงโค้งบ้านบุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
อาสากู้ภัยร่วมกตัญญู จุดหล่มสัก คืบหน้าที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า สีขาว ป้ายทะเบียน สระบุรี ลักษณะพลิกคว่ำลงข้างทาง ตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 20 - 25 ปี สภาพร่างกระเด็นออกมาจากตัวรถ ส่วนภายในยานพาหนะ พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 20 - 25 ปี สภาพร่างติดค้างภายใน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถเพื่อนำร่างออกมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
02.09 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.7 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 299 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย