เหลืออีก 4 ศพ วัดพระบาทน้ำพุพิสูจน์ไม่ได้ศพใคร พ้อเหลือเงิน 10 ล้าน หวั่นไม่พอใช้จ่ายในวัด
เหลืออีก 4 ศพ วัดพระบาทน้ำพุพิสูจน์ไม่ได้ศพใคร พ้อเหลือเงิน 10 ล้าน หวั่นไม่พอใช้จ่ายในวัด สำนักพุทธลพบุรี เร่งตรวจสอบปมใบสุทธิ หลวงพ่ออลงกต
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามนายสามารถ ศรีทรง รองปลัดเทศบาลเมืองเขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี ถึงเรื่องกำหนดที่จะฌาปนกิจ 20 ศพที่ถูกดองไว้ที่วัดพระบาทน้ำพุ
นายสามารถ เผยว่า วันนี้พูดคุยกับท่านพระครูนวกรรมาธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดน้ำจั้น รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ สรุปว่าขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะตรวจสอบอัตลักษณ์ศพที่ถูกดองไว้อีก 4 ศพ หลักฐานไม่ตรงกับเจ้าหน้าที่ทางวัดพระบาทน้ำพุให้มา จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นใคร แต่ถึงอย่างไรก็จะดำเนินการฌาปนกิจศพที่สามารถตรวจสอบอัตลักษณ์ได้ไปก่อนภายในเร็วๆ นี้ สำหรับศพที่ยังไม่เผาจะดำเนินการเก็บใส่โลงไว้ก่อน เพื่อไม่ให้อุจาดตาประชาชนที่มาเห็นและทำตามกฏกระทรวงด้วย
วันนี้วัดพระบาทน้ำพุนำเงินมาเสียค่าปรับสำหรับศพที่ถูกดองไว้ที่อาคารศาลาธรรมสังเวช 20 ศพ จำนวนศพละ 1,000 บาทเป็นเงิน 20,000 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนศพที่จะถูกฌาปนกิจ ที่ประชุมจะหากำหนดการอีกครั้ง
นายสามารถ ศรีทรง รองปลัดเทศบาลเมืองเขาสามยอด เผยอีกว่า วันนี้ตนกับรักษาการ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุหารือกันว่า วัดพระบาทน้ำพุมีเงินอยู่ในบัญชี 10 ล้านบาทเท่านั้น เงินจำนวนนี้ไม่ได้เยอะ เพราะค่าใช้จ่ายภายในวัดพระบาทน้ำพุนั้นมากมาย มีบุคลากรภายในวัด 200 คน ที่จะต้องใช้จ่ายวันละ 1 หมื่นบาท ยังมีค่าประกอบเลี้ยง เฉลี่ยหัวละ 45 บาทต่อคน รวมเดือนละ 1 หมื่นบาท สำหรับค่ากระแสไฟภายในวัด อีกเดือนละ 4 แสนบาท
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ค่าใช้จ่ายที่ระบุมายังไม่รวมค่าใช้โครงการธรรมรักษ์นิเวชน์ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ซึ่งมีบุคลากรอีกกว่า 400 คน โดยเห็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุเปรยว่า ถ้าเป็นเช่นนี้จะเอายังไงกับวิถีชีวิตพนักงานหรือบุคลากร รวมทั้งผู้ป่วยเอดส์อีก ถึงเวลานั้นอาจจะตัวใครตัวมันแล้ว
ขณะที่นายฤทธิชัย เศษเพ็ง ประธานมูลนิธิแท็กซี่กรุงเทพมหานคร รวมกลุ่มนำเอากระปุกแท็กซี่อุ้มบุญ ที่ประชาชนหยอดเหรียญใส่กระปุก เพื่อร่วมทำบุญกับโครงการที่กลุ่มแท็กซี่ทำขึ้นมา เพื่อที่นำมาถวายกับวัดพระบาทน้ำพุ
นายฤทธิชัย กล่าวว่า วันนี้พวกตนนำเอากระปุ๋กอุ้มบุญที่ตทำขึ้นมาเอง เพื่ออยากทำบุญร่วมกับวัดพระบาทน้ำพุ แต่กระปุกนี้พวกตนทำขึ้นมาเองได้เอาของวัดพระบาทน้ำพุไปบอกบุญ ขอย้ำว่าทำกันออกแบบกระปุกขึ้นมาเอง และไม่มีผลประโยชน์กับวัดพระบาทน้ำพุด้วย โครงการของพวกตนนั้นจะนำเอาเงินมาถวายวัดทุกเดือน แต่ไม่มากนัก เดือนนึงหมื่นกว่าบาทเท่านั้น บอกก่อนว่าโครงการที่พวกตนทำขึ้นมานี้ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มแท็กซี่ที่เป็นข่าว ไม่มีผลประโยชน์กับวัดแ ไม่มี 70-30 แต่อย่างใด
ส่วนนายวีระ จำลอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี เปิดเผยถึงการตรวจสอบใบสุทธิของหลวงพ่ออลงกตว่า โดยธรรมเนียมถ้าจะบวช ผู้บวชต้องไปให้ข้อมูลและแสดงตัวพร้อมหลักฐานยืนยันกับพระอุปัชฌาย์ จากนั้นจะทำบัญชีผู้บวชใหม่ ส่วนประเด็นการใช้ชื่อผู้อื่นต้องดูวัตถุประสงค์ว่ามีเจตนาอะไร หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ในวันนี้ประเด็นนี้ยังไม่ค่อยชัดเจน ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องทางทะเบียนราษฎรให้ความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งการกรอกข้อมูลใบสุทธิในอดีตไม่มีให้ระบุเลข 13 หลัก
เมื่อถามว่าหากย้อนดูถึงเรื่องเจตนา การนำข้อมูลคนอื่นมาใช้ ถือว่าไม่บริสุทธิ์ใช่หรือไม่ นายวีระ ตอบเพียงว่า ใช่ ส่วนขณะที่มายื่นก็ไม่ทราบว่าหลวงพ่ออลงกตมีหลักฐานอะไรมาให้ดู แต่คาดว่าน่าจะมีการยื่นหลักฐาน ประกอบการให้ข้อมูล แต่จะใช้คำว่าผิดพลาดตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ ต้องดูการให้ข้อมูลกับพระอุปัชฌาย์ และหากตรวจสอบว่าตั้งใจสวมข้อมูลคนอื่น ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
นายวีระ กล่าวว่า ส่วนมีการใช้เลข 13 หลักไปจัดตั้งกองทุน จะมีความผิดเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ก็ต้องดูว่าใครได้รับผลประโยชน์ และต้องไปดูเจตนาอีกครั้ง ส่วนใบสุทธิของพระที่นำไปใช้ธุรกรรม ก็ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานไหนรับ อีกทั้งในบางครั้งอาจจะมีการนำหลักฐานอย่างอื่นประกอบคู่กันส่วนใบสุทธิใบเก่า ยังไม่ได้เห็นข้อมูลว่ามีการใช้เลขบัตรประชาชนใด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เหลืออีก 4 ศพ วัดพระบาทน้ำพุพิสูจน์ไม่ได้ศพใคร พ้อเหลือเงิน 10 ล้าน หวั่นไม่พอใช้จ่ายในวัด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th