ชายแดนสระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชารื้อรั้วลวดหนาม กองทัพบกยืนยันนำกลับคืนแนวเดิมแล้ว
เวลา 13.00 น. เกิดเหตุชาวกัมพูชาหลายสิบคนรวมตัวที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่ตึงเครียดอีกครั้ง
รายงานระบุว่า ฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสายระดมชาวบ้านเข้ามารวมตัวในพื้นที่พิพาท โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชาร่วมอยู่ด้วย ขณะเดียวกันมีกลุ่มชาวกัมพูชาพยายามรื้อรั้วลวดหนามที่ทหารไทยขึงไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ พร้อมขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดเมื่อมีรายงานว่าฝั่งกัมพูชาเปิดเพลงเสียงดังในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าเป็นการปลุกขวัญและกระตุ้นให้ผู้ชุมนุมเกิดความฮึกเหิม โดยขณะนี้ยังคงมีการเผชิญหน้าของประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ขณะที่กองกำลังทหารไทยได้เสริมกำลังตรึงพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุบานปลาย
ต่อมา เวลา 16.52 น. พลตรีวิธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยกัมพูชาใช้ประชาชนเป็นผู้รื้อลวดหนามแทนกำลังทหาร ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ และเป็นการรุกล้ำอธิปไตยไทย
พลตรีวิธัย ระบุว่า ลวดหนามดังกล่าวเป็นแนวชั่วคราวที่กองทัพบกไทยติดตั้งเพื่อรักษาความมั่นคงในพื้นที่ และได้ดำเนินการนำลวดหนามกลับคืนในแนวเดิมแล้ว เพื่อยืนยันสิทธิ์ในเขตแดน พร้อมย้ำว่ากองทัพจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยคำนึงถึงอธิปไตยของไทยและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศควบคู่กันไป
พร้อมกันนี้กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. โดยกองกำลังบูรพาได้ดำเนินการวางแนวลวดหนามเพื่อความปลอดภัยชั่วคราว ให้กับคณะจังหวัดสระแก้วในการตรวจพื้นที่ของประชาชน ในการเข้าทำการประเมินรายละเอียดที่ดินของประชาชน ในพื้นที่บ้านหนองจาน เพื่อเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยชั่วคราว และจำกัดขอบเขตพื้นที่ชายแดน การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกรอบการปฏิบัติด้านความมั่นคง โดยมิได้มุ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือกระทบกระทั่งกับฝ่ายใด
ปัจจุบัน กองกำลังบูรพา ได้เข้าพูดคุยชี้แจงในการดำเนินการการวางแนวลวดหนามเพื่อความปลอดภัยชั่วคราว เพื่อมิให้ฝ่ายกัมพูชาเข้าใจผิด หลังจากมีการตรวจพื้นที่ของ คณะจังหวัดสระแก้วในการตรวจพื้นที่ของประชาชนเรียบร้อยแล้ว หน่วยได้ดำเนินการปรับให้ดำรงสภาพเหมือนเดิม
กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายไทยได้พูดคุยชี้แจงการปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์บานปลายและรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ