จับสึกแล้ว! รักษาการเจ้าอาวาสวัดดังมั่วสีกา หลังคลิปแชร์ว่อน หลักฐานชัดดิ้นไม่หลุด
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. คณะพระวินยาธิการ คณะสงฆ์ (มหานิกาย) อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.สภ.ท่าศาลา ช่วยราชการ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับคลิปที่เผยแพร่ในกลุ่มไลน์พระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นคลิปที่ปรากฏภาพของพระปรัชญา อายุ 26 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดดังเมืองนครศรีธรรมราช มั่วสีกา จึงนำคลิปดังกล่าวเข้าพบพระปรัชญา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยพระปรัชญา ได้ยอมรับว่าเป็นคลิปตัวเองกับสีกาจริง ทางพระวินยาธิการและเจ้าหน้าที่จึงขอให้พระปรัชญา ลาสิกขาพ้นจากความเป็นพระสงฆ์ ซึ่งพระปรัชญา ยินยอมลาสิกขาแต่โดยดี
ทั้งนี้ทราบว่าก่อนหน้านี้มีคลิปพระปรัชญาปรากฏการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันมาครั้งหนึ่งแล้ว ทางคณะสงฆ์ได้สอบสวนและลงโทษตามพระธรรมวินัย และให้โอกาสพระปรัชญาปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของตัวเอง แต่กลับมากระทำผิดซ้ำอีกครั้ง และยอมลาสิกขาหรือสึกพ้นความเป็นพระสงฆ์ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาส ในจังหวัดนครศรีธรรมราชกระทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรงเกิดขึ้นและเป็นข่าวทางสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องและหลายรายยอมสึกพ้นจากความเป็นพระ แต่มีอยู่ 3-4 รายที่ไม่ยอมสึก อาทิ วัดแห่งหนึ่งใน อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช, วัดใน ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช, วัดดังใน อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช และวัดแห่งหนึ่งใน ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่เจ้าอาวาสดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลหนึ่งใน อ.เมืองอีกด้วย
โดยชาวพุทธได้ถ่ายภาพ/คลิปเจ้าอาวาสวัดใน ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง ในชุดฆราวาส พร้อมเพื่อนอีก 1 คนกำลังนั่งรับประทานอาหารและดื่มเบียร์ในร้านข้าวต้มข้างโรงแรมไดมอนด์ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และสงสัยว่าเป็นเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ซึ่งในรุ่งเช้าอีกวันหนึ่งคนถ่ายคลิปซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดใน ต.โพธิ์เสด็จ ได้เข้ามาตรวจสอบภายในวัด พบเจ้าอาวาสห่มจีวรกำลังรับบริจาคสิ่งของจากญาติโยมอยู่ในวัด แต่พบว่าสวมใส่รองเท้ายางสีขาวคู่เดียวกับฆราวาสที่นั่งรับประทานอาหารและดื่มเบียร์ในร้านข้าวต้มข้างโรงแรมไดมอนด์ กลางเมืองสุราษฎร์ธานี จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งภาพ/คลิปให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากเจ้าอาวาสวัดใน ต.โพธิ์เสด็จ ที่นั่งหันหน้ารับประทานอาหารกับเพื่อนฆราวาสอีก 1 คนนั้น แท้จริงฆราวาสอีกคนที่นั่งหันหลังให้นั่งคู่กันในร้านอาหารก็เป็นพระสงฆ์เช่นกัน โดยเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.บางจาก อ.เมือง และมีตำแหน่งระดับเจ้าคณะตำบลหนึ่งใน อ.เมือง อีกด้วย เรื่องนี้ทาง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ โดยพระวินยาธิการได้เดินทางเข้าตรวจสอบแต่เจ้าอาวาสปฏิเสธว่า บุคคลที่ปรากฏในภาพ/คลิปไม่ใช่ตัวเอง และไม่ยอมลาสิกขาจากพระ ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกำหนดสรุปผลหรือมติการสอบสวนในวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยสรุปว่ายังไม่สามารถสรุปลงมติได้
ต่อมาเจ้าอาวาสวัดคงคาเลียบ ซึ่งเป็นพระวินยาธิการและ 1 ในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้โพสต์แจ้งความคืบหน้าการสอบสวนว่า คณะกรรมการไต่สวนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการไต่สวนและกฎหมายร่วมพิจารณาเอกสารหลักฐาน ได้กำหนดกระบวนการในการนำหลักฐานมาพิจารณา คณะกรรมการยังไม่สามารถชี้ตามพระวินัย โดยให้ผู้ที่ถูกกล่าวหานำเอกสารมาเพิ่มเติม ที่ประชุมมีมติให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นผู้ให้ข้อมูลเพียงผู้เดียว ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ของหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะมีการรวมตัวกันร้องเรียนคณะสงฆ์ระดับสูงและศูนย์ปกป้องพระพุทธศาสนาฯ สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง CIB และจะรวมตัวแจ้งความเอาผิดกับคณะสงฆ์ และสำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราชในข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ม.157) อีกด้วย.