SPA ลุยเมกะโปรเจกต์ ปักธงผู้นำเวลเนสไทย

หุ้นวิชั่น - SPA ลั่นครึ่งปีหลังสดใส! รับอานิสงส์ท่องเที่ยวหนุนยอดฟื้น เดินหน้าเมกะโปรเจกต์ Wellness Destination บนพื้นที่ 38 ไร่ “หาดตะวันรอน” พัทยา ทุ่มลงทุนกว่า 520 ล้าน ผสานสปา–เวลเนส–รีสอร์ท–คาเฟ่ ตั้งเป้า IRR 15% คืนทุนใน 8.5 ปี มั่นใจปักธงขึ้นแท่นผู้นำเวลเนสไทย ตอบโจทย์เมกะเทรนด์สุขภาพ ยกระดับรายได้ แบรนด์สู่สากล

นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 จะสดใสขึ้น รับแรงหนุนจากเทศกาลท่องเที่ยวในไตรมาส 3–4 ทั้งช่วงวันหยุดยาว วันชาติจีน ลอยกระทง คริสต์มาส ปีใหม่ ไปจนถึงตรุษจีน ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ บริษัทเดินหน้าโครงการ Wellness Destination บนพื้นที่ 38 ไร่ “หาดตะวันรอน” พัทยา ทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยมีสิทธิสัญญาเช่า 30 ปี และใช้เวลา 18 เดือนในการพัฒนา โครงการดังกล่าวประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) สวนสุขภาพครบวงจร ผสมผสานศาสตร์การดูแลสุขภาพดั้งเดิมและสมัยใหม่ ทั้งสปา เวลเนส และคลินิกกายภาพ 2) ที่พักกว่า 50 ห้อง รองรับลูกค้าแพ็กเกจค้างคืน และ 3) บริการอาหารและคาเฟ่ในป่า เปิดให้บริการแก่ทั้งลูกค้าในโครงการและบุคคลทั่วไป เพื่อเพิ่มทราฟฟิกและการรับรู้แบรนด์

สำหรับงบลงทุน แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ค่าซื้อสิทธิการเช่า 170 ล้านบาท (ชำระแล้ว), ค่าปรับปรุงและพัฒนา 350 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน และค่าเช่าตลอด 30 ปี โดยคาดว่าโครงการจะสร้างรายได้จากเวลเนส 60% และโรงแรม–ร้านอาหาร 40% แตกต่างจากโครงการทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าโครงการจะสร้างผลตอบแทนทางการเงิน (IRR) ราว 15% และใช้เวลาคืนทุนประมาณ 8.5 ปี โดยปีแรกคาดอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 60%

บริษัทคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในเมกะโปรเจกต์สำคัญที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ด้านสุขภาพและเวลเนส แม้ในช่วง 1–2 ปีแรกอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อาจยังไม่โดดเด่นจากภาระค่าเสื่อมและค่าเช่า แต่จะทยอยปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป โดยแหล่งเงินลงทุนโครงการนี้จะมามาจากเงินกู้สถาบันการเงินและเงินสะสมของบริษัท

สำหรับปีหน้า หรือปี 2569 บริษัทจะโฟกัสการผลักดันโครงการใหม่ Wellness Destination ให้เป็นรูปธรรม พร้อมปรับกลยุทธ์เปิดสาขาให้น้อยลงกว่าที่ผ่านมา แต่ยังคงเปิดกว้างหากได้โลเคชั่นที่มีศักยภาพ โดยปีนี้มีแผนเปิดสาขาทั้งหมด 10 แห่ง (ครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 4 แห่ง และครึ่งปีหลังทยอยเปิดอีก 6 แห่ง)

ทั้งนี้ SPA ย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดสปาเบอร์ 1 ของไทย มีส่วนแบ่งตลาดราว 5% จากมูลค่าตลาดรวม 30,000–60,000 ล้านบาท และเชื่อว่าตลาดสปา–เวลเนสยังมีโอกาสเติบโตสูงต่อเนื่อง โดยโครงการ Wellness Destination พัทยาจะเป็น “ไฮไลต์” ที่ช่วยยกระดับรายได้และภาพลักษณ์ของบริษัทให้ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพในอนาคต