ดันร่าง พ.ร.บ. “ทรัพย์อิงสิทธิ” เปิดทางเช่าอสังหาฯ ยาว 99 ปี
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมที่ดิน อยู่ระหว่างการยก ร่างพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ ฉบับใหม่ โดยได้เริ่มต้นการเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วย ทรัพย์อิงสิทธิ ซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดล่าสุด ให้หน่วยงานของรัฐสามารถก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเป็นเจ้าของหรือได้รับโอนจากบุคคลอื่นได้ โดยมีกำหนดเวลาไม่เกิน 99 ปี
ทั้งนี้มีเหตุผลสำคัญเพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำอสังหาริมทรัพย์ของตนออกมาใช้ประโยชน์ให้ประชาชนและเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ โดยที่กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของหน่วยงานของรัฐ และให้ทรัพย์อิงสิทธิเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่หน่วยงานของรัฐสามารถใช้เป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงปัญหาการถือครองอสังหาริมทรัพย์ไว้แทนคนต่างด้าว และปัญหาอุปทานคงค้างของอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระดับสูงด้วย
สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. มีรายละเอียดดังนี้
แก้ไขบทนิยามคำว่า “อสังหาริมทรัพย์” หมายความว่า ที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานของรัฐที่มีเอกสารหรือหลักฐานอื่นที่แสดงกรรมสิทธิ์
กำหนดให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยวิธีงบระมาณ และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐตามที่กำหนดในกฎกระทรวง พร้อมทั้งเพิ่มเติมกรณีที่หน่วยงานรัฐประสงค์ที่จะขอก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิ
ขณะเดียวกันยังกำหนดให้มีการขอก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 99 ปี โดยสามารถก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิเฉพาะบางส่วนในอสังหาริมทรัพย์ของหน่วยงานของรัฐได้
รวมทั้งกำหนดให้เอกชนสามารถโอนอสังหาริมทรัพย์ของตนให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 99 ปี โดยมีหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
เช่นเดียวกับกำหนดอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการจดทะเบียนก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิและการออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์การจดทะเบียน การออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ การยกเลิกทรัพย์อิงสิทธิ และการเพิกถอนหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิให้เป็นไปตามกฎกระทรวง
พร้อมทั้งกำหนดห้ามมิให้ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิที่เป็นคนต่างด้าวตามมาตรา 5/2 วรรคสองแห่งกฎหมายว่าด้วยการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบเกษตรกรรม และกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. มีข้อจำกัดสิทธิของคนต่างด้าวอันต้องกำหนดบทเฉพาะกาล
ทั้งนี้ กรมที่ดิน ระบุว่า ประโยชน์ที่คาดว่าประชาชนจะได้รับจากการมีกฎหมาย ฉบับนี้ คาดว่า จะช่วยให้ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิสามารถใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ของหน่วยงานของรัฐได้มากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ สามารถใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์มาสร้างสินทรัพย์ประเภทใหม่ (New Asset Class) เป็นระยะเวลายาวนานขึ้น และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศษฐกิจ อย่างเต็มที่
ขณะที่ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานของรัฐเฉพาะบางส่วนเท่าที่มีความจำเป็นได้ รวมทั้งให้การจดทะเบียนก่อตั้งทรัพย์อิงสิทธิและการออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานรัฐที่มีหลักฐานนอกเหนือจากโฉนดที่ดินและหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และยังมีการจำกัดสิทธิในการใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของคนต่างด้าวด้วย
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ก่อนหน้านี้ว่า ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงข้อมูลรายละเอียดของร่างกฎหมาย ซึ่งตามขั้นตอน หากร่างกฎหมายดังกล่าวปรับปรุงข้อมูลแล้วเสร็จ กระทรวงมหาดไทยจะต้องส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพ.ร.บ.เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล (ครน.) พิจารณา
จากนั้นครน.จะสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะก่อนส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ หาก ครม. ให้ความเห็นชอบแล้ว ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งร่างกฎหมายไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันและระยะเวลาที่เหลือนั้น นางมนพร คาดว่าร่างกฎหมายนี้จะไม่ทันเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ และอาจต้องรอการพิจารณาในสมัยประชุมหน้า