สรุปดราม่า บิวป่วยมะเร็ง จากขอรับบริจาค โดนจับผิดเรื่องเงินและความโปร่งใส
สรุปประเด็นดราม่าร้อนแรง บิวป่วยมะเร็ง จากขอรับบริจาค โดนจับผิดเรื่องเงินและความโปร่งใส จนเพจดังเผยข้อมูลจนเจ้าตัวต้องออกมาชี้แจง
16 ส.ค. 68 เพจเฟซบุ๊ก อรรถรส สรุปเรื่องราวดราม่า สรุปไทม์ไลน์ดราม่า “บิวมะเร็ง” จากการขอรับบริจาค สู่ข้อสังเกตเรื่องยอดเงินและความโปร่งใส
บิวเปิดรับบริจาค
โพสต์ระบุว่าตนป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 และมีภาวะซึมเศร้าร่วม
ขอรับบริจาคเพื่อใช้จ่ายค่ารักษา โดยเฉพาะ “ยามุ่งเป้า” เข็มละ 30,000 บาท รวม 18 เข็ม รวมยอด 520,000 บาท
บิวระบุว่า “ประกันสังคมไม่ครอบคลุม” ค่ายาดังกล่าว และตนไม่มีเงินพอจะสำรองจ่ายเอง จึงจำเป็นต้องขอรับบริจาค
ในโพสต์แนบภาพตนเองขณะสวมชุดผู้ป่วยของ“โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก (BHP) และระบุว่ามีแผนจะไปทำแมมโมแกรมเพิ่มเติมที่นั่น
เพจ “จ็อกจ๊อก” ตั้งข้อสังเกต
หลังจากบิวโพสต์ขอรับบริจาค เพจ “จ็อกจ๊อก” ได้แชร์โพสต์พร้อมแสดงความห่วงใย
แต่ต่อมาเริ่มมีหลายคอมเมนต์เข้ามาตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปิดรับบริจาค
เพจตั้งข้อสังเกตว่า บิวน่าจะมีสิทธิ์ในการรักษาผ่าน บัตรทองหรือประกันสังคม แต่กลับใส่ชุดผู้ป่วย “โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก (BHP) ที่เป็นโรงพยาบาลเอกชนซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
เพจย้ำว่าบิวอ้างว่าใช้ รพ.กรุงเทพในการตรวจ แต่ไม่ได้อธิบายให้ชัดว่า โรงพยาบาลที่รักษาหลักจริง ๆ คือ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ซึ่งรองรับสิทธิ์การรักษาได้
เพจย้ำว่า การนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า “บิวไม่ป่วย” แต่เพื่อประกอบให้เห็นภาพรวมของพฤติกรรม
มีประเด็นด้านประวัติและพฤติกรรมส่วนตัวที่เพจนำเสนอ
1. อ้างว่าเคยเป็นหมอศิริราช
2. เคยอ้างว่าถูกผู้ชายขข.
3. ตามรังควานแฟนใหม่ของผู้ชาย จนถูกฟ้อง – เป็นเหตุที่ทำให้มีคดีความติดตัว
4. ติดหนี้ประมาณ 70,000 บาท
5. เคยนัดเจอผู้ชายจากแอปฯ แล้วผู้ชายเห็นว่า “ไม่ตรงปก” จากนั้นบิวโพสต์ประจานผู้ชายคนนั้นบนโซเชียล
บิวออกมายืนยันว่าตนเป็นมะเร็งจริง พร้อมโชว์ภาพผลตรวจ
บิวได้โพสต์ชี้แจงว่า ตนไม่ได้โกหกหรือสร้างเรื่องเกี่ยวกับอาการป่วย โดยระบุว่าตนเป็นมะเร็งจริง และรักษาตัวมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ในโพสต์มีการแนบ ภาพฟิล์มอัลตราซาวด์เต้านม
บิวยืนยันว่าใส่ชุดผู้ป่วยของ โรงพยาบาลกรุงเทพ (BCH) จริง เนื่องจากมีการส่งตัวจากโรงพยาบาลหลักที่พิษณุโลกไปยัง รพ.กรุงเทพ เพื่อรอรับคิวตรวจและรับยาที่ รพ.กรุงเทพ
ภายหลังบิวโพสต์ใบรับรองแพทย์จาก รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ระบุว่าเป็นมะเร็งเต้านม และเข้ารับเคมีบำบัดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568
ระบุว่าใช้สิทธิ์ประกันสังคมในช่วงแรก และได้รับ “น้ำแดง” ไปแล้ว 4 เข็ม
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาต่อด้วย “น้ำขาว” และ “ยามุ่งเป้า” ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและบางส่วนไม่ครอบคลุม
ยืนยันว่ามีประวัติการรักษาต่อเนื่อง และเปิดให้ตรวจสอบได้
บิวโพสต์ยอดบริจาคครั้งแรก (ประมาณ 5 แสนบาท)
บิวโพสต์แจ้งยอดเงินบริจาคที่ได้รับอยู่ที่ประมาณ 577,902.44 บาท โดยระบุว่าเป็นยอดรวมจากบัญชีต่าง ๆ ที่มีผู้โอนเข้ามาช่วยเหลือ
ระบุว่า ปิดรับความช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากยอดเพียงพอสำหรับค่ารักษาตามที่ตั้งไว้ 520,000 บาท
กล่าวขอบคุณทุกคนที่ร่วมบริจาค พร้อมระบุว่าเงินทั้งหมดจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์เรื่องการรักษา
เพจ “จ๊อกจ๊อก” ตั้งข้อสังเกตเรื่องยอดเงินบริจาคหายไป
เพจเผยภาพแชทแจ้งเตือนจากแอปธนาคารของบิว ที่แสดงยอดเงินรวมในบัญชี ณ วันที่ 15 ส.ค. อยู่ที่ 1,677,434.94 บาท
ไม่กี่นาทีต่อมา มีการแสดงยอดคงเหลือเพียง 577,902.44 บาท ทำให้เกิดคำถามว่า เงิน 1.1 ล้านบาทถูกโอนไปไหน
เพจตั้งข้อสังเกตว่า หากได้รับเงินเกินจากยอดที่ขอรับบริจาคไว้เดิม (520,000 บาท) ควรมีการแจ้งให้ชัดว่าจะนำส่วนเกินไปใช้ในเรื่องใด
การไม่อัปเดตยอดจริงในช่วงที่รับบริจาคต่อเนื่อง อาจทำให้ผู้บริจาคเข้าใจคลาดเคลื่อนและรู้สึกไม่โปร่งใส
ต่อมาบิวออกมาโพสต์ว่า ยอดบริจาคที่แท้จริงคือ 1.6 ล้านบาท
ระบุว่าเงิน 1.1 ล้านบาท ถูกโอนไปเก็บไว้ในบัญชีแม่ เพื่อใช้รักษาตัวในขั้นตอนต่อไป
โพสต์สลิปการโอนเงิน 1.1 ล้าน จากบัญชีตนเองไปบัญชีแม่
อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด และไม่ได้ใช้เงินไปกับเรื่องอื่น
เพจจ๊อกจ๊อกโพสต์ว่า ผู้บริจาคสามารถขอเงินคืนได้
ระบุว่าผู้ที่รู้สึกว่าเงินบริจาคไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ มีสิทธิ์ขอเงินคืน
ให้ข้อมูลทางกฎหมาย เช่น มาตรา 526 (ขอคืนกรณีเข้าใจผิด), มาตรา 343 (หลอกลวงประชาชน), และ พ.ร.บ.เรี่ยไร
ต่อมามีผู้บริจาคบางรายทักแชทไปยังบิวเพื่อขอเงินคืน แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ แม้จะเห็นว่าข้อความถูกเปิดอ่านแล้วก็ตาม
ภายหลังจากที่เพจจ๊อกจ๊อกโพสต์เปิดให้ผู้บริจาคสามารถทักไปขอเงินคืนได้
บิวได้ตอบกลับในคอมเมนต์หนึ่งว่า “ตอนนี้ไม่มีใครทักมาค่ะ”
เพจจ๊อกจ๊อกแนบภาพยืนยันว่ามีคนทักไปขอเงินคืนจริง
แนบภาพหน้าจอแชทที่มีผู้ส่งข้อความขอคืนเงิน พร้อมระบุว่าถูกบิวอ่านแล้วไม่ตอบ
ต่อมาบิวโพสต์ว่า ยินดีคืนเงินบริจาค แต่มีการจำกัดการแสดงความเห็นในโพสต์
โพสต์แจ้งว่ายินดีคืนเงินให้ทุกคน และใครต้องการให้ทักแชทมา
แต่โพสต์นั้น ปิดคอมเมนต์ และ จำกัดคนที่สามารถแสดงความเห็น ได้
เพจจ๊อกจ๊อกเรียกร้องให้บิวเปิดคอมเมนต์
ระบุว่าถ้าเจตนาบริสุทธิ์ ควรเปิดคอมเมนต์ให้ทุกคนสามารถเข้ามาขอคืนเงินบริจาคได้อย่างโปร่งใส
ชี้ว่าการปิดคอมเมนต์อาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่ต้องการติดต่อขอเงินคืน
เรื่องราวดราม่า ก็ประมาณนี้นะคะ
ขอบคุณเพจ อรรถรส