C asean ครบ 10 ปี 'ฐาปน' ปลุกพลังอาเซียน ร่วมเติบโตยั่งยืน ท่ามกลางโลกผันผวน
ศูนย์ C asean จัดงาน C asean Forum 2025 (CaF 2025) ภายใต้หัวข้อ “Future of ASEAN: Empowering Growth Amid Geoeconomic Tensions” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 58 ปีของการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และครบรอบ 10 ปีของศูนย์ C asean โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (TSCN)
ภายในงานพบกับการรวมตัวของผู้นำระดับภูมิภาคจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ แนวคิด และโซลูชันในการเสริมสร้างความสามารถของอาเซียนในการเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
"ฐาปน สิริวัฒนภักดี" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานว่า C asean ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2015 ด้วยความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ในพลังของการเชื่อมโยงและความเป็นเอกภาพในภูมิภาคอาเซียน
“ตั้งแต่วันแรก เราได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทูตอาเซียนทุกประเทศ ซึ่งทำให้ C asean เติบโตขึ้นมาเป็นเวทีที่มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา เราเน้นการพัฒนาในด้านศิลปะ ธุรกิจ และวัฒนธรรม เพื่อเปิดพื้นที่ให้เกิดการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ สร้างความร่วมมือ และจุดประกายไอเดียใหม่ๆ เพื่อผลักดันภูมิภาคของเราให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
10 ปีแห่งการเติบโตและการสร้างชุมชน
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา C asean ไม่ได้เป็นแค่องค์กรหนึ่งในภูมิภาค แต่กลายเป็นเหมือนชุมชนที่มีชีวิต มีความหลากหลาย และเปิดกว้างจริงๆ
“เรามีคนจากหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งผู้ว่าราชการ นักการทูต ศิลปิน เยาวชนที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ไปจนถึงผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง พวกเขาทุกคนช่วยเติมพลังให้กับ C asean ตลอดมา”
เสียงที่หลากหลายเหล่านี้ ที่ช่วยกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดรับความคิดสร้างสรรค์ ชวนให้คนลุกขึ้นมามีส่วนร่วม และที่สำคัญคือมันส่งผลกระทบที่ดีต่อภูมิภาคของเราในระยะยาวด้วย”
การขยายบทบาทในระดับภูมิภาค
"ฐาปน" กล่าวต่อว่า C asean เริ่มต้นจากอะไรเล็กๆ ที่อาคารซีวิวทาวเวอร์ในกรุงเทพฯ วันนี้ได้ขยายออกไปถึง 6 ศูนย์ทั่วภูมิภาคแล้ว รวมถึงที่เจนไนในอินเดีย และฮานอยในเวียดนามด้วย ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของเราที่อยากมีบทบาทในระดับภูมิภาคให้มากขึ้นจริงๆ
“การเติบโตตรงนี้เกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าขาดความร่วมมือและแรงสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่ายที่เดินไปด้วยกันมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา”
โครงการเรือธง
“โครงการที่ผมอยากพูดถึงที่สุดก็คือ ‘C asean Consonant’ วงดนตรีที่ไม่ได้เป็นแค่กลุ่มศิลปิน แต่คือเวทีที่รวบรวมเสียงของ 10 ประเทศอาเซียนไว้ด้วยกัน ผ่านเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่สะท้อนวัฒนธรรมหลากหลายของเราในแบบที่งดงามจริงๆ”
ปลายเดือนสิงหาคมนี้ C asean Consonant จะได้ขึ้นเวทีที่งาน Osaka World Expo ในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียนให้โลกได้เห็น มันไม่ใช่แค่โชว์ธรรมดา แต่เป็นการบอกให้นานาชาติรู้ว่าเราเชื่อมโยงกันผ่านวัฒนธรรมได้อย่างลึกซึ้ง
“นอกจากโครงการนี้ แล้วเรายังมี CaF หรือ C asean Forum ประจำปี ซึ่งเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิด สร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นการพัฒนาที่ยั่งยืน มันไม่ได้เป็นแค่งานจัดเลี้ยงหรือเวทีเปิดตัว แต่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเรียนรู้จริง และเป็นแรงขับที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบจับต้องได้ในภูมิภาค”
ความร่วมมือคือหัวใจสำคัญ
"ฐาปน" กล่าวด้วยว่า สิ่งที่อยากเน้นเลยคือ ‘ความร่วมมือ’ C asean ให้ความสำคัญกับจุดนี้มาตลอด
“เราได้ร่วมงานกับหลายภาคส่วน ทั้งสถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมโครงการต่างๆ อย่างเช่น Vice City, AAM Youth Exchange และ Management Development”
โครงการเหล่านี้ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้ามพรมแดนจริงๆ เป็นพื้นที่ให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้ฝึกทักษะความเป็นผู้นำ พัฒนาและเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในระดับบุคคลระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย
วิสัยทัศน์เพื่อสันติภาพและความเจริญร่วมกัน
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้น วิสัยทัศน์ของ C asean ที่มุ่งสร้าง ‘ความร่วมมือเพื่อการเชื่อมโยง’ จึงยิ่งมีคุณค่าและสำคัญมากขึ้น
“สิ่งที่เราทำคือการรวบรวมผู้คนที่หลากหลาย มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างสร้างสรรค์ ร่วมเฉลิมฉลองความแตกต่างในแบบที่เราเข้าใจกันและกัน เพราะสิ่งเหล่านี้คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่สันติภาพและความก้าวหน้าร่วมกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ฐาปน กล่าวทิ้งท้าย