โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธรรมะ

ประกาศสำนักเลขาธิการมส. แนวปฏิบัติส่งมอบข้อมูลวัด ต้องใช้วิธี ‘ละมุนละม่อม-ห้ามข่มขู่’

เดลินิวส์

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม รับพระบัญชา “สมเด็จพระสังฆราช” ประกาศแนวปฏิบัติส่งมอบข้อมูลวัด ทั้งโปรดให้พศ. เรียนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสั่งการให้เป็นไปตามหลักการต่อไป

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้ลงนามใน ประกาศสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เรื่อง แนวปฏิบัติในการส่งมอบข้อมูลของวัดตามข้อหารือเบื้องต้นในที่ประชุมคณะกรรมการ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 222/2568 ระบุว่า สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม รับพระบัญชา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) โปรดให้ประกาศว่าตามที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงในพระพุทธศาสนา ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 222/2568 ลงวันที่ 22 ก.ค.2568 ได้มีมติขอความร่วมมือและขอรับทราบข้อมูลในด้านต่างๆ ของวัด นั้น ต่อมาเกิดความปรากฏว่า มีแนวปฏิบัติที่ลักลั่นกันและอาจมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความระส่ำระสาย รู้สึกเป็นภัยคุกคาม เกิดความปริวิตกในคณะสงฆ์ จึงขอให้ดำเนินการซักซ้อมความเข้าใจและประสานรายละเอียดยังส่วนราชการต่างๆ เพื่อความกระจ่างร่วมกัน ดังนี้

1.ในกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สมควรสอบถามพศ. หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) หรือบูรณาการความร่วมมือกันในการจัดทำฐานข้อมูล ทั้งนี้ หากมีปัญหา อุปสรรค หรือข้อสงสัยเป็นรายจำเพาะกรณี ให้พศจ.สอบถามแนวปฏิบัติมายังพศ.เพื่อจักได้พิจารณาตอบข้อสงสัยต่อไป

2. บรรดาข้อมูลส่วนบุคคล รวมไปถึงบัญชีธนาคารซึ่งเป็นบัญชีส่วนบุคคล อันเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีกฎหมายคุ้มครอง หน่วยราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจขอความร่วมมือในการขอข้อมูลได้ ในกรณีเจ้าของบัญชียินยอม

3. เมื่อสอบถามจากพศ.หรือบูรณาการร่วมกันแล้ว พบว่า จำเป็นต้องขอข้อมูลตามข้อ 1 และข้อ 2 ตลอดจนข้อมูลอื่นด้วยการเข้าไปในบริเวณศาสนสถานต้องดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายและจารีตประเพณี กล่าวคือ 3.1 ต้องประสานงาน ด้วยวิธีการอันละมุนละม่อม และเหมาะสม ในฐานที่เจ้าพนักงานไปขอความอนุเคราะห์ข้อมูลจากพระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้ที่มิได้กระทำความผิดตามกฎหมาย มิได้เป็นอาชญากร หรือมิได้เป็นผู้ต้องสงสัย การเข้าบริเวณพื้นที่วัดเพื่อขอข้อมูลต้องมีการประสานงานล่วงหน้า ใช้กิริยาวาจาที่เหมาะสมตามมารยาทสังคมไทย ซึ่งฆราวาสพึงปฏิบัติต่อพระภิกษุสามเณร และไม่เข้ามาในบริเวณวัดในเวลาวิกาล หรือกระทำการใดๆ ให้เกิดทัศนคติเชิงลบ ก่อให้เกิดภาวะหวาดวิตกในหมู่พุทธบริษัท อันทำให้ความสามัคคีและสายสัมพันธ์ของบ้าน วัด และระบบราชการ ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมไทย ต้องถูกกระทบกระเทือน 3.2 หากมีการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลต้องดำเนินการบนหลักการพื้นฐานเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากเจ้าอาวาสไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถข่มขู่ หรือบังคับให้ส่งมอบข้อมูล หากมีการข่มขู่หรือบังคับ อาจเข้าข่ายกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 3.3 พึงเข้าใจร่วมกันในเชิงนโยบายว่าการขอรับข้อมูล เป็นการขอความร่วมมือ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มิใช่เป็นการตรวจสอบเพราะเกิดกรณีการกระทำความผิดตามกฎหมาย

4. ให้พศจ.ประสานความร่วมมือกับคณะสงฆ์ ในการเฝ้าระวังสังเกต ถวายความรู้ และป้องกันมิให้เกิดพฤติการณ์ที่อาจมีมิจฉาชีพ หรือบุคคลผู้ไม่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย อาจใช้โอกาสนี้กระทำการข่มขู่ หลอกลวง หรือบังคับพระภิกษุสามเณรหรือวัดให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลจำเพาะของวัด โดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย หรือยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย หรือมิเป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมหรือตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาสงฆ์

5. มติมหาเถรสมาคมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านศาสนสมบัติ เป็นแนวทางภายในที่มหาเถรสมาคมกำหนดเป็นมาตรฐานกลาง สำหรับวัดที่มีความพร้อมและวัดที่มีศาสนสมบัติมาก สำหรับวัดที่ยังไม่มีความพร้อม ให้อนุวัตตามความเหมาะสม การดำเนินการตามมตินี้ จึงมิได้มีเจตนารมณ์ให้เกิดภัยต่อคณะสงฆ์ แต่เป็นการวางแนวทางเพื่อป้องกันมิให้เกิดการทุจริตอันเนื่องด้วยศาสนสมบัติของวัด ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา และเป็นการปกป้องคุ้มครองวัดและพระภิกษุสามเณรซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยพระธรรมวินัยและกฎหมาย

6. มีพระบัญชาโปรดให้พศ. เรียนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสั่งการให้เป็นไปตามหลักการต่อไป กับทั้งเชิญพระบัญชาไปแจ้งมหาเถรสมาคม ในการประชุมมหาเถรสมาคม ในวันที่ 13 ส.ค.2568 รับทราบและให้คณะสงฆ์ถือปฏิบัติ ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแล้ว ให้นำมติมหาเถรสมาคมดังกล่าว กราบทูลทราบฝ่าพระบาทด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

“ทอฟฟีสีน้ำเงิน” บรรลุข้อตกลงยืม “กรีลิช” เสริมแนวรุก

30 นาทีที่แล้ว

‘พระพยอม’ เตือนอย่าไว้ใจคน! ปล่อยให้มาเปิดบัญชีรับเงินแทนวัด

32 นาทีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ EOD ศรีสะเกษทำลายวัตถุระเบิดตกค้าง 2 ลูกในพื้นที่ชายแดน สกัดภัยชาวบ้าน

52 นาทีที่แล้ว

‘ดิว อริสรา’ ผุดธุรกิจใหม่ ‘ครัวบ้านดิว’ แต่เจอดราม่า ราคาไม่สมกับรสชาติ?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธรรมะอื่น ๆ

‘สมเด็จธงชัย’ นำคณะสงฆ์ 2,670 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวาย ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

เดลินิวส์

สพฐ. ยันสอบ ‘รอง ผอ.สพท.’ โปร่งใส พบใช้ ‘วุฒิปลอม’ ในส่วนสอบครูผู้ช่วย

เดลินิวส์

สุดอาลัย ‘พระอาจารย์ช้าง’ ผู้บุกเบิกเผยแผ่พุทธศาสนาในอาร์เจนตินา มรณภาพแล้ว

เดลินิวส์

‘อว. แฟร์ 2025’ เปิดโลก ‘Mythophobia-ผีอาเซียน’ จากจักรวาลผีสู่จักรวาลนฤมิต

เดลินิวส์

ขอบคุณ ‘ตำรวจ’ ชะลอเก็บข้อมูลวัด เสนอ 3 แนวทางฟื้นวิกฤติศรัทธาพุทธศาสนา

เดลินิวส์

โหรรัตนโกสินทร์ เตือน คน 7 ประเภทที่ดึงดูดวิญญาณ

สยามนิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไทยร้อง ‘UN-ประธานอนุสัญญาออตตาวา’ จี้จัดการ ‘กัมพูชา’ ดื้อใช้ทุ่นระเบิด

เดลินิวส์

‘ทักษิณ’ ร่วมงานวันเกิดแม่ ‘พิชัย นริพทะพันธุ์’ อายุครบ 88 ปี

เดลินิวส์

‘สาว 19’ มือสาดนํ้ากรดย่องมอบตัว อ้างแค้นพาแฟนใหม่มาเย้ยถึงที่

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...