‘งบฯ69’ รีดไขมัน 8,920 ล้านบาท คืนกลับ 7หน่วยงาน ทำภารกิจสำคัญ
จับตาการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ. ) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง เป็นประธานกมธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสองและวาระสาม
โดย "วันมูหะมัดนอร์ มะทา" ประธานสภาฯ ออกหนังสือนัดประชุมสภาฯ ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค. นี้ ตามที่คณะกรรมการประสานงานสภาฯ ได้ตกลงร่วมกัน
สำหรับรายงานของกมธ.งบฯ 69 ที่เสนอต่อสภาฯ นั้น พบสาระสำคัญที่น่าจับตา โดยร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี2569 ที่ตั้งไว้ 3,780 ล้านล้านบาท กมธ.มีมติปรับลดทั้งสิ้นรวม 8,920 ล้านบาท
โดยทุกกระทรวงและส่วนราชการถูกปรับลดงบประมาณ ทั้งนี้มีกระทรวงและส่วนราชการที่ปรับลด สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.กระทรวงมหาดไทย ถูกปรับลด 2,148 ล้านบาท สำหรับรายการที่ปรับลดส่วนใหญ่เป็นค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้าง อาคารต่างๆ ของส่วนราชการ
2.หน่วยงานรัฐสภา ปรับลด 880 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวกับการจัดสัมมนาและอบรม ในพื้นที่ต่างๆ
3.กระทรวงคมนาคม ปรับลด 795 ล้านบาท
4.กระทรวงสาธารณสุข ปรับลด 693 ล้านบาท
5.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับลด 459 ล้านบาท
สำหรับงบประมาณที่ปรับลดนั้น ตามรายงานของกมธ. ได้จัดสรรให้ส่วนราชการตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอตามความเหมาะสม และจำเป็น รวม 8,690 ล้านบาท และจัดสรรให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ รวม 230 ล้านบาท
เติมเงิน 7หน่วยงาน 2 แผนงาน
โดยมีส่วนราชการที่ได้รับงบประมาณเพิ่มเติม 7 หน่วยงาน เพื่อใช้ภารกิจสำคัญและเฉพาะด้าน ประกอบด้วย
1.รัฐวิสาหกิจ ตั้งเพิ่มจำนวน 4,914 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างงานโยธาตามสัญญาสัมปทานฯโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรม กทม.
2.กระทรวงการคลัง ตั้งเพิ่มจำนวน 1,568 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569
3.งบกลาง ตั้งเพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นกรณีป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง และภารกิจจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ
4.กระทรวงแรงงาน ตั้งเพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสมทบกองทุนประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ มาตรา 39
5.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งเพิ่มจำนวน 153 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสนับสนุนการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
6. หน่วยงานของศาล ตั้งเพิ่มจำนวน 83 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานการพิจารณาพิพากษาคดีที่รวดเร็ว มีคุณภาพ
7.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ส่วนของวัสดุเชื้อเพลิงและหล่อลื่น
เพิ่ม20ล้านบาท บำบัดผู้ติดยา
นอกจากนั้นยังได้ตั้งเพิ่มในส่วนของ 2 แผนงาน ได้แก่ แผนงานบูรณาการ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ติดสารเสพติด ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดและพัฒนาพฤตินิสัย และ แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน 160 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายบุคลากร 6 หน่วยงาน อาทิ สำนักงานอัยการสุงสุด 78 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 32 ล้านบาท สำนักงานศาลปกครอง 27 ล้านบาท สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 13 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 6.9ล้านบาท
ลดงบ "การปกครองท้องถิ่น" 114ล้านบาท เติมให้ 4เทศบาล และ ปรับงบ "สธ." 70 ล้าน โยกให้ 13อบจ.พบ "พะเยา" เติมงบสูงสุดเกือบ10ล้านบาท
นอกจากนั้นแล้ว ตามรายงาน ของกมธ. ยังได้แจ้งรายละเอียดถึง การเปลี่ยนแปลงรายการของงบประมาณ ใน 2 หน่วยงาน คือ
1. กระทรวงมหาดไทย ที่พบการเปลี่ยนแปลงรายการ คือ ลดงบ ของ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลง 114 ล้านบาท และโยกไปเติมให้กับ 4 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลเมืองโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 35 ล้านบาท เทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 21 ล้านบาท เทศบาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ 23 ล้านบาท และ เทศบาลตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทา 33 ล้านบาท
2. กระทรวงสาธารณสุข พบการเปลี่ยนแปลงรายการ คือ ถูกลดงบส่วนของสำนักปลัดกระทรวงสาธธารสุข ลง 70 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง อาทิ อบจ.พะเยา 9.7ล้านบาท อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ 8.6 ล้านบาท อบจ.ตาก 7.8ล้านบาท อบจ.ยะลา 5 ล้านบาท อบจ.ร้อยเอ็ด 6 ล้านบาท เป็นต้น