"ภูมิธรรม" อวยพร "อนุทิน" พาประเทศหลุดพ้นกรอบเดิม ปัดเขากระโดง-ฮั้ว สว.ล้างแค้น
วันนี้ (9 ก.ย.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลใหม่ ว่าขณะนี้มีความชัดเจนแล้วและมีการโปรดเกล้าฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จึงเป็นภาระหน้าที่ของรัฐมนตรีใหม่ โดยขออวยพร เพราะท่านมาด้วยวิถีทางและเสียงข้างมาก ขอให้ท่านทำหน้าที่เต็มที่ และทำให้ประเทศชาติการเมืองหลุดพ้นกรอบเดิมๆ ที่เป็นปัญหาและทุกคนเข้าใจอยู่อยากให้สิ่งต่างๆ เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
หวังว่าท่านทำหน้าที่ในเกียรติประวัติของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างดี อยากให้ท่านจัดการปัญหาที่คั่งค้างที่เรายังทำไม่เสร็จ ให้ท่านทำต่อเนื่อง
นายภูมิธรรม ยังระบุถึงบทบาทหลังจากนี้คือกลับไปทำงานพรรค ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียมการเป็นฝ่ายค้านหรือเตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ยังไม่ได้คุยกัน แต่วันนี้การประชุมพรรคเพื่อไทยคงได้พูดคุยกัน ซึ่งได้คุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าพรรคเพื่อไทยยังมีต้นทุนอยู่มาก ยังแข็งแรง อย่างน้อย สส.ในพื้นที่เรามีปริมาณจำนวนหลักร้อยบวกลบ รวมถึง สส.มีความแข็งแรงในพื้นที่
เมื่อถามว่า ที่ได้คุยกับ น.ส.แพทองธารว่าตระกูลชินวัตรยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ยังพร้อมเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่มีตำแหน่งใดๆ แล้ว อยากให้ สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าเรายังอยู่ จะทำหน้าที่ในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และให้ประเทศชาติอยู่เหมือนเดิม ส่วนรายละเอียดต้องมีการพิจารณาปรับปรุง การดำเนินงานในพรรคอีกครั้งหนึ่ง แกนนำและรัฐมนตรีก็จะเข้ามาทำงานในพรรค
ทั้งนี้ยังไม่เชื่อว่า สส.จะมีไหลออกจนกว่าจะเห็นในวันเลือกตั้ง เพราะวันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไหลออกไปไหนแล้ว และเชื่อว่า สส.ในพรรค และสมาชิกพรรคมีจุดยืน หลายคนอยู่กับเราตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ยังผูกพันกับประชาชนในพื้นที่ จึงเชื่อว่า คนที่เป็นเลือดแท้จะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคต่อไป แน่นอนว่าพรรคอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนจุดอ่อน ข้อบกพร่องที่เราเห็นอยู่ และยอมรับว่า ที่ผ่านมาคนที่เป็นรัฐมนตรีมีโอกาสเข้าไปดูแลช่วยในพรรคน้อย เข้าไปในวันประชุมพรรค แต่บางทีก็ไม่ได้เข้าเพราะภารกิจของพวกเราเข้ามาในช่วงที่ประเทศมีวิกฤต ซึ่งก็จะกลับเข้าไปในพรรค
เชื่อมั่นว่า คนส่วนใหญ่ของพรรคยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ส่วนจะมีอย่างอื่นไป ถือเป็นเอกสิทธิ์ เป็นการตัดสินใจของแต่ละท่านเชื่อว่าในช่วงนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะผู้นำพรรค และแกนนำก็ยังยืนหยัดอยู่กับพรรค
เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยขอดึงคำร้องกลับเพื่อแก้ไขเรื่องรายชื่อและเนื้อหาใหม่หลัง สส.เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พ้นสมาชิกภาพ สส.จากการทำข้อตกลง MOA ซึ่งจะเข้าข่ายครอบงำการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่า เข้าใจว่าเอามาดูในรายละเอียดที่ยังไม่เรียบร้อย ไม่ได้หมายถึงว่าจะถอนหรือไม่ถอน ซึ่งเท่าที่ตนทราบเป็นการนำมาดูข้อระเบียบต่างๆ และความเหมาะสม
สำหรับระยะเวลาแค่ 4 เดือนในการติดตามผลงานรัฐบาลก็ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และเข้มแข็ง ที่ได้ประกาศจุดยืนไปแล้วว่าเราเคารพกติกาประชาธิปไตย เมื่อเราเป็นรัฐบาลก็มีหน้าที่บริหารประเทศให้ดีที่สุด เมื่อเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมศักดิ์ศรีในการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องให้อยู่ในกระบวนการที่ดีที่สุด
ส่วนกรณีคดีข้อพิพาทเขากระโดง และฮั้ว สว.นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่าอยากทำความเข้าใจว่า มันไม่ใช่เรื่องความแค้น หรือความไม่พอใจกันในส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ซึ่งเขากระโดงเป็นเรื่องของการเอาที่ดินที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ออกกฤษฎีกาคุ้มครอง เพราะฉะนั้นมันเป็นของหลวงตั้งแต่ต้น ไม่อาจจะเปลี่ยนไปเป็นของคนอื่นได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องทำ
และมั่นใจว่าประชาชนคนไทยจะคอยจับตามองอยู่ ตนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่สามารถไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้ ถ้ามีก็จะอยู่ในสายตาของประชาชน แล้วอยู่ในสายตาของ สส.ทุกคนว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้หายไปโดยที่ดินของรัฐ ถูกเบียดบังไป ตนไม่เชื่อว่าประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ขนาดกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี ก็ยังไปไม่รอด ซึ่งก็มีรายละเอียดที่คล้ายกัน ส่วนเรื่องฮั้ว สว. เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อกระบวนการและสถาบันของประเทศอย่างรุนแรง เราปล่อยให้เกิดขึ้นก็ทำให้ประชาธิปไตยในประเทศ จากนี้ถ้ายังไม่สามารถดำเนินการเอาผิดก็จะถูกทำให้เลอะเลือน และทำให้เสียหายกับประเทศได้ซึ่งควรต้องทำ
"2 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำลายสถาบันศาล สถาบันยุติธรรม ทำลายประเทศ อย่างไรก็ต้องทำให้ได้ ไม่ใช่ว่าเป็นจุดตายหรือไม่ใช่จุดตายถ้าเขาทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่ตายหรอก แต่หากเอาที่คืนหลวงไม่ได้ ทำให้เรื่องฮั้ว สว. หายไปก็เป็นจุดตายอยู่ที่เขาเลือก"
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ระบุถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีใหม่ ว่าไม่ขอวิจารณ์ เป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง และรับผิดชอบในสิ่งที่เลือก
อ่านข่าว :
"อนุทิน" ส่งชื่อ ครม.ให้ สลค.ตรวจสอบแล้ว คาดจบในสัปดาห์นี้
“พล.อ.ณัฐพล” รับ “อนุทิน” ทาบทาม นั่ง รมว.กลาโหม
"บวรศักดิ์" นั่งรองนายกฯ ครม.อนุทิน 1 ชื่อครบส่งตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน