โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

จับตา 15 ส.ค. DSI เสนอคดีหักหัวคิวแรงงานกัมพูชา 1.8 แสนคน เข้าบอร์ดให้มีมติ 2 ใน 3 พิจารณาเป็นคดีพิเศษ

เดลินิวส์

อัพเดต 15 สิงหาคม 2568 เวลา 2.45 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
จับตาศุกร์ 15 ส.ค. “DSI

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ค.68 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ นายจินกร แก้วศรี รอง ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น 4 จุดเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ เป็นผู้ดำเนินการรับต่อใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานสัญชาติกัมพูชา ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อรวบรวมเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานกัมพูชา รายละ 2,500 บาท จำนวน 1.8 แสนคน โดยพบว่ามีเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าคนไทยและคนต่างด้าวเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา ทั้งยังพบความเกี่ยวข้องระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐของไทยและกัมพูชา ต่อมาพนักงานสืบสวนยังได้มีการเรียกสอบปากคำพยานต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มนายจ้าง ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน รวมถึงกรรมการบริษัทเอกชน ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี นอกจากนี้ กลุ่มบัญชีม้าคนไทยในนามบุคคลและนิติบุคคลก็ได้มาให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสืบสวนเรียบร้อยแล้ว ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. รายงานความเคลื่อนไหวภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยความคืบหน้า ว่า ภายหลังจากคณะพนักงานสืบสวนดำเนินการสอบสวนปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่องครบ 1 เดือน ขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนที่ 27/2568 เตรียมนำสำนวนคดีสืบสวนเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อให้มีการอภิปรายข้อเท็จจริง เหตุสมควรเสนอให้คณะกรรมการฯ มีมติ 2 ใน 3 หรือ 15 ราย จากกรรมการทั้งหมด 22 ราย รับเป็นคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) หรือการเป็นคดีความผิดทางอาญาอื่น ในฐานความผิดฉ้อโกง-อั้งยี่ เนื่องด้วยไม่ใช่ฐานความผิดตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายดีเอสไอ จึงต้องเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กคพ.

รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุอีกว่า สำหรับเรื่องสืบสวนกรณีหักหัวคิวแรงกัมพูชา จนเป็นเหตุสมควรให้เสนอเข้าบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติ 2 ใน 3 พิจารณารับเป็นคดีพิเศษนั้น เนื่องจากได้มีคณะบุคคลมีพฤติการณ์ไปหลอกลวงบรรดาบริษัทจัดหางานซึ่งดำเนินธุรกิจในฐานะนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ นายจ้าง/ผู้ได้รับอนุญาต (บนจ.) ว่าจะต้องมีการจ่ายเงินของแรงงานต่างด้าวกัมพูชารายละประมาณ 2,500-2,550 บาท จึงจะต่อใบอนุญาตแรงงานผ่านระบบออนไลน์ เพื่อทำงานต่อภายในราชอาณาจักรไทยได้ หรือเรียกว่าเป็นการยื่นบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว (Name List) บันทึกเข้าสู่ระบบกระทรวงแรงงาน ซึ่งหากมีการจ่ายเงินดังกล่าวก็จะทำให้แรงงานเข้าถึงขั้นตอนอื่นถัดไปได้ เช่น การทำประกันสังคม การตรวจสุขภาพร่างกาย การทำหนังสืออนุมัติวีซ่าทํางาน (Calling Visa) เป็นต้น ทำให้เหล่านายจ้างต้องโอนเงินแทนค่าหัวคิวแรงงานกัมพูชาไปยังบัญชีธนาคารม้าปลายทางจำนวนมาก รวม 180,000 ราย เป็นเงินกว่า 450 ล้านบาท ถ้าไม่โอนจ่ายค่าส่วนต่างนี้ ระบบจะไม่สามารถอนุมัติได้ รายชื่อจะค้างอยู่แบบนั้น ทั้งนี้ คณะพนักงานสืบสวนได้สอบปากคำพยาน และพบว่ามีเส้นทางการเงินของเหล่านายจ้างที่ต้องโอนจ่ายค่าหัวคิวรายงานกัมพูชาไปยังบัญชีม้าปลายทางจริง จึงสรุปเบื้องต้นว่าเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง และอั้งยี่

รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุต่อว่า กรณีที่มีการอ้างว่าจะต้องจ่ายค่าส่วนต่างเพื่อต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวทางระบบออนไลน์ โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทางซึ่งเป็นบัญชีม้านั้น ถือเป็นการฉ้อโกง ด้วยเหตุที่ว่าเงินเหล่านั้นไม่ได้ตกสู่แผ่นดินหรือเข้าหลวง แต่กลับไหลออกนอกระบบ เข้าสู่กระเป๋าของคนนอก ถือเป็นการหลอกลวงเอาเงินของผู้อื่น เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ กระทบต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดี

รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุด้วยว่า ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้กลุ่มนายจ้างสีขาวได้มีการเข้ามาให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่า หลังจากที่ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนเรื่องดังกล่าว ทำให้บรรดารายชื่อแรงงานต่างด้าวกัมพูชาที่ยังคงมีชื่อค้างอยู่ในระบบ กลับถูกอนุมัติต่อใบอนุญาตการทำงานในราชอาณาจักรต่อไปได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าส่วนต่าง 2,500 บาท ตามที่กล่าวอ้างก่อนหน้านี้ เช่นนี้ก็ถือเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าจริง ๆ มันไม่ต้องจ่ายเงิน ระบบก็บันทึกข้อมูลต่อได้ อย่างไรหากมีการรับเป็นคดีพิเศษแล้ว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะได้มีการไปสอบสวนถึงฟังก์ชันการทำงานของระบบบันทึกข้อมูลแรงงานต่างด้าวกัมพูชาว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยส่วนประชาสัมพันธ์ รายงานว่า ด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย ประธานกรรมการคดีพิเศษ ได้เห็นชอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ จัดการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 4/2568 ในวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. เวลา 15.00-16.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เจ้ากรมพระธรรมนูญ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายกสภาทนายความ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง อีก 9 ราย ร่วมเป็นคณะกรรมการ และมี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการและเลขานุการ ในการประชุมมีวาระรับคดีอาญาเป็นคดีพิเศษ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

6 เกจิดังถกคุย 450 พระวัดป่าวาระพิเศษ เคร่งพระธรรมวินัยแก้สงฆ์เสื่อม

31 นาทีที่แล้ว

ผกก.สังขละฯ จมูกไว จับคนขับ 10 ล้อขนส่งสินค้า 3 คันรวด บุหรี่เถื่อน 300 หีบ มูลค่า 2 ล้าน

32 นาทีที่แล้ว

หอสมุดแห่งชาติจีนจัดนิทรรศการ แสดงเอกสารหายากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

36 นาทีที่แล้ว

ปูตินชมความพยายามของ “รัฐบาลทรัมป์” ในการหาทางยุติสงครามยูเครน

45 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

รวบกรรมการบริษัทค้าของเก่า ออกใบกำกับภาษีปลอม 2,000 ฉบับ เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

Khaosod

ตั้งรางวัล 1 หมื่นแจ้งเบาะแสตามคืนผ้าไหมยายวัย 70 ปี หล่นหายขณะอพยพ

Amarin TV

ระทึกกลางห้าง! โจรบุกบุกเดี่ยว จี้ร้านทอง กวาดสร้อยข้อมือ 163 บาท หลบหนี

สยามนิวส์

ตร.ไม่ให้ประกัน "ทิดสฤษดิ์-ภูธินี" คดียักยอกเงินวัด ฝากขัง 15 ส.ค.

Thai PBS

อย่าเล่นกับ เอกนัฏ จับจริง ส่งชุดสุดซอย บก.ปทส. DSI จับโจรลักของกลาง ช่วงดึกที่ ปราจีนบุรี

WeR NEWS

จอนนี่มือปราบ ยันไม่มีเจตนาบุกรุก หลังยื่น 2 แสนประกันตัว น้อมรับผิด วอนอย่าซ้ำเติม

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

แค่รองไม่พอ! รร.วัดลิงขบ สร้างชื่ออีก คว้าแชมป์ ‘เปตอง’ รุ่นเยาวชนอีกถ้วย

เดลินิวส์

‘ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม’ เผยประสบการณ์ลูกค้าแปลกล้ำเส้น โอดงงใครเป็นคนสอน!

เดลินิวส์

ยายวัย 76 ปีสุดงง ถูกอบต.ปิดประกาศรื้อถอนรั้วเมทัลชีทใน 30 วัน อ้างคูน้ำสาธารณะ

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...