โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

รับมืออย่างไร? เมื่อคุณมีคนรักเป็น Mama’s boy

Health Addict

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Health Addict
เรียนรู้วิธีรับมือกับความสัมพันธ์เมื่อคุณมีคนรักเป็น Mama's boy

เคยได้ยินมั้ย? เรื่องของการมีคนรักเป็นลูกคนโต ลูกคนกลาง หรือลูกคนเล็ก ที่แต่ละคนก็ต่างมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง วันนี้เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งคาแรคเตอร์ของการมีคู่รักเป็น Mama’s Boy กันบ้าง ว่าจะมีข้อดีข้อเสียอะไร พร้อมเรียนรู้วิธีสานสันพันธ์ให้ความรักเฮลธ์ตี้ แฮปปี้แบบฟอร์เอฟเวอร์

จุดเริ่มต้นของคำว่า Mama’s Boy Mama’s boy หรือ Mommy’s Boy หมายถึง ผู้ชายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแม่มากจนเกินไป จนอยู่ในเลเวลที่อาจทำให้ขาดอิสระในการใช้ชีวิต ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจหรือแม้แต่การสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ โดยคำว่า ‘Mama’s Boy’ นี้ถูกพูดถึงตั้งแต่ปี 1900s ในลักษณะเชิงดูถูกผู้ชายที่ถูกเลี้ยงอย่างทะนุถนอมเกินไป ซึ่งในสังคมตะวันตกสมัยนั้น มีค่านิยมว่าผู้ชายจะต้องแข็งแรง มีความเป็นผู้นำ และอิสระ จึงทำให้ผู้ชายที่ติดแม่ดูไม่แมน บวกกับสื่อในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มักจะใช้ตัวละคร Mama’s boy เป็นเด็กผู้ชายที่อ่อนแอ กลายเป็นภาพจำ จนมาถึงในปัจจุบัน คำนี้ก็ยังคงถูกใช้ในเชิงแซวหรือตำหนิ โดยเฉพาะในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก แต่ในบางสังคมอย่างเอเชียหรือลาติน ก็มองว่าการที่ลูกชายรักและเคารพแม่ ก็เป็นเรื่องที่ดี
Mama’s Boy ก็มีดี ข้อดีของการมีคนรักเป็น Mama’s Boy ก็คือเมื่อเขาถูกเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดจากคนเป็นแม่ ก็ไม่แปลกที่เขาจะซึมซับด้านอ่อนโยนจากแม่ จึงทำให้เขาเป็นคนที่อ่อนโยน มี empathy สูง ชอบใส่ใจคนรอบข้าง และไม่แข็งกร้าวจนเกินไป ผู้ชายกลุ่มนี้มักจะจริงจังกับการสร้างครอบครัว เพราะเขามองว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญของชีวิต ในขณะเดียวกันเขาจะเป็นคนที่เข้ากับผู้ใหญ่ได้ค่อนข้างดี ด้วยคาแรคเตอร์ที่เป็นคนนอบน้อม เคารพผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ จึงทำให้เขากลายเป็นคนที่อบอุ่นและน่าเอ็นดูในสายตาของผู้ใหญ่ได้ไม่ยาก และอีกข้อสำคัญที่อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่ฟันธงได้ 100% แต่ก็มีความเป็นไปได้ คือ เราเชื่อว่าด้วยความใกล้ชิดกับแม่ เขามักจะถูกปลูกฝังเรื่องความผูกพันและความซื่อสัตย์ต่อครอบครัว เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ ‘รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’
แต่ข้อเสีย…ก็ต้องระวัง! ทุกอย่างมีด้านบวกและด้านลบเสมอ Mama’s boy มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิตโดยมีอิทธิพลมาจากแม่ เช่น การงาน การเงิน การใช้ชีวิต จนทำให้บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าเขาไม่โต และถ้าเขาเคยชินกับการพึ่งพาแม่ทั้งร่างกายและอารมณ์ เขาก็อาจจะพึ่งพาคุณในแบบเดียวกันมากเกินไป จนทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย หรือเหมือน ‘มีลูก’ มากกว่ามีแฟน รวมถึงคุณมีโอกาสที่จะตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่อึดอัด คุณอาจจะเจอกับสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าถูกลดความสำคัญ และหากคุณตกลงปลงใจแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน ก็อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคตได้
ถ้ารับมือให้เป็น…ก็จะเห็นอนาคตร่วมกัน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าข้อเสียที่พูดมานั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ทุกคู่ ทุกบ้าน แต่เป็นเพียงสิ่งที่เราลิสต์มาให้ดูว่าอาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้สิ่งที่จะช่วยให้เราอยู่ในความสัมพันธ์แบบเฮลธ์ตี้ได้นั่นก็คือ ขั้นแรกเราต้องประเมินระดับความใกล้ชิดก่อน เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีรับมือให้ความสัมพันธ์แฮปปี้ตลอดรอดฝั่ง
ซึ่งถ้าพูดกันโดยอ้างอิงถึงทฤษฎีความผูกพัน (Attachment Theory) และ แนวคิดเรื่อง boundary ก็สามารถแบ่ง ‘ระดับความผูกพันกับแม่’ ให้เห็นเป็นภาพได้เป็น 4 ระดับ คือ

  • ระดับปกติ (Healthy Bond) ในระดับนี้ลูกชายจะมีความรักและเคารพแม่ แต่สามารถใช้ชีวิตแยกออกมาได้ อาจจะปรึกษาแม่บ้างในบางเรื่อง แต่ก็จะตัดสินใจด้วยตัวเองเป็นหลัก ซึ่งถ้าเป็นความผูกพันในระดับนี้คุณจะได้ผู้ชายที่อบอุ่น และดีต่อความสัมพันธ์
  • ระดับพึ่งพาเล็กน้อย (Mind Dependence) ลูกชายในกลุ่มนี้จะให้แม่มีอิทธิพลแค่ในบางเรื่อง เช่น การเงิน การงาน อาจจะมีลังเลบ้างเวลาต้องเลือก ‘แม่ vs แฟน’ แต่ก็ยังปรับตัวได้ ซึ่งถ้าเราเข้าใจ ก็ยังอยู่ในเลเวลที่จะบริหารจัดการความสัมพันธ์ได้
  • ระดับพึ่งพาปานกลาง (Strong Dependence) แฟนใครที่อยู่ในเลเวลนี้ จะสังเกตว่าเขาจะต้องขอความเห็นแม่ในทุกๆ เรื่องของชีวิต แม้แต่เรื่องส่วนตัว และจะไม่ค่อยมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างแม่ แฟน และตัวคุณ ทำให้มีโอกาสที่แม่ของเขาจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ได้ง่าย ซึ่งถ้าไม่แก้ไข ก็อาจนำไปสู่การขัดแย้งในอนาคตได้
  • ระดับพึ่งพาสูงสุด หรือผูกพันแบบ enmeshment (Extreme Enmeshment) เตรียมตัวจอสระอึ้ง จึ้งได้เลย เพราะถ้าคุณมีแฟนที่ผูกพันกับแม่ในระดับนี้ อาจจะสูดหายใจลึกๆ ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ เพราะสำหรับผู้ชายกลุ่มนี้ แม่คือศูนย์กลางชีวิตแทบทุกด้าน เขาจะรู้สึกผิดมากถ้าไม่ทำตามที่แม่บอก แม้ว่าสิ่งนั้นจะขัดกับความต้องการตัวเองหรือคู่รัก ซึ่งพฤติกรรมนี้จะทำให้คู่รักรู้สึกถูกลดความสำคัญอยู่บ่อยๆ จนอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่อย่างการหย่าร้างได้ในที่สุด
    เมื่อประเมินระดับแล้วพบว่าคนรักของคุณเป็น Mama’s Boy ในระดับเบาหรือกลาง ควรใช้การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาแต่ไม่แตกหัก สิ่งสำคัญคือชี้ให้เห็นว่าการที่เขาติดแม่จนเกินไป หรือให้แม่มีอิทธิพลกับเขามากเกินไป มันอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ของคุณและเขา รวมถึงการสร้างขอบเขตอย่างนุ่มนวลในเรื่องต่างๆ เช่น การเงิน การใช้ชีวิต เป็นต้น และอีกเทคนิดนึงที่สำคญคือเมื่อมีปัญหา อย่าเผชิญหน้าโดยตรง แต่ควรให้เขาเป็นตัวกลาง เป็นคนคุย เพื่อลดแรงปะทะหรือการเข้าใจผิดต่างๆ รวมถึงหาโอกาสในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับแม่ เพราะบางครั้งการที่ทำให้แม่รู้สึกว่าคุณใส่ใจ รักและดูแลแม่และลูกชายของเขาได้ดี แม่ก็อาจลดการควบคุมลงไปเอง แต่ถ้าประเมินแล้วพบว่าคู่รักของคุณอยู่ในระดับ Extreme แล้วล่ะก็ อาจถึงเวลาที่ต้องลองย้อนถามตัวเองดูว่า คุณโอเคกับชีวิตคู่ที่มีแม่ของเขาอยู่ในความสัมพันธ์นั้นด้วยหรือเปล่า ถ้าคุณยอมรับข้อนี้ได้ก็เดินหน้าต่อ แต่ถ้าไม่ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปเติบโต
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Health Addict

เทรนด์ผู้หญิงยุคใหม่ ฝากไข่ตอนอายุเท่าไหร่ดี?

05 ส.ค. เวลา 02.10 น.

‘อาหารฟังก์ชั่น’ ตัวช่วยเติมเต็มในวันที่อยากดูแลตัวเองให้ดีขึ้น

16 ก.ค. เวลา 04.45 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

สมศักดิ์ ปัดริบเงินโรงพยาบาล 3 % ปมเขียนเวชระเบียนไม่สมบูรณ์

ฐานเศรษฐกิจ

จีนเปิดตัวโรงพยาบาล AI แห่งแรก ดูแลผู้ป่วยได้ถึง 3000 รายต่อวัน

TNN ช่อง16

จีนเตรียมเปิดตัว "หุ่นยนต์อุ้มบุญ" นวัตกรรมที่มาพร้อมคำถามถึงการมีอยู่ของมนุษย์

BT Beartai

ชวนเยาวชนนอกระบบการศึกษาสู่การมีงานทำ ผ่านโคราชโมเดล

กรุงเทพธุรกิจ

คกก.โรคติดต่อฯ เร่งรัดกวาดล้าง 4 โรคป้องกันได้ด้วยวัคซีน

ฐานเศรษฐกิจ

ปัญหาสุขภาพจากปัญหานอนไม่หลับ แพทย์แนะรู้สาเหตุรักษาหายขาดได้

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทำไงดี...เมื่อเกิดสงสัยว่าคุณใช่ครั้งแรกของเธอรึป่าว?

Health Addict

“ไม่ทำการบ้านนาน” ร่างกายอาจมาพร้อม 6 สัญญาณเตือนนี้!

Health Addict

หลังเสร็จกิจกรรม...เช็กยังไงว่าล้างของเล่นลับสุดโปรดได้ 'สะอาด' พอ

Health Addict
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...