ชวนเยาวชนนอกระบบการศึกษาสู่การมีงานทำ ผ่านโคราชโมเดล
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการฝึกอบรมสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพผู้ทำงานกับเยาวชน (Youth Worker) ตามแนวทาง “โคราชโมเดล” โดยมี ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟประเทศไทย, พัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและ พิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล รักษาการประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ผู้บริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมในพิธี ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์โคราช จังหวัดนครราชสีมา
ประเสริฐ กล่าวว่า การเลือกโคราชเป็นพื้นที่นำร่องถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะขยายผลไปทั่วประเทศ โครงการนี้ไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหาเยาวชนนอกระบบ แต่ยังสร้างกำลังคนคุณภาพที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งจะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เหลื่อมล้ำยังรุนแรง!! กสศ. เสนอ 'ลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์ทุกช่วงวัย'
สคช.ปั้น '5 มาตรฐานอาชีพ' รองรับกำลังคนในตลาดแรงงานอนาคต
มาตรฐานอาชีพผู้ทำงานกับเยาวชน
จุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า สคช. ในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศที่จัดทำมาตรฐานอาชีพ และให้การรับรองคนด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ผ่านมาได้ร่วมกับยูนิเซฟ จัดทำมาตรฐานอาชีพผู้ทำงานกับเยาวชนเพื่อเป็นเกณฑ์ในการฝึกอบรมและประเมินความสามารถให้กับบุคลากรที่ทำงานกับเยาวชน รวมทั้งเสริมสร้างโอกาสและความเท่าเทียมในการศึกษาและการจ้างงานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มเปราะบาง เพื่อเป็นการต่อยอดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
การอบรมครั้งนี้นับว่าสอดคล้องกับแนวทาง “Thailand Zero Dropout” ที่ตั้งเป้าลดปัญหาเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้เป็นศูนย์ โดยเริ่มต้นด้วยการจัดอบรม 2 หลักสูตร ได้แก่ ผู้ทำงานกับเยาวชน (Youth Worker) ระดับ 4 สำหรับครู ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น จำนวน 100 คน และช่างติดตั้งระบบเสียง ระดับ 3 สำหรับเยาวชนนอกระบบและนักศึกษาเทคนิค จำนวน 50 คน ซึ่งทุกคนจะได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง เพื่อต่อยอดสู่อาชีพและสร้างรายได้
"โคราชโมเดล" ช่วยเด็กและเยาวชนนอกระบบ
ด้านผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟประเทศไทย ชี้ว่า ปัญหาเยาวชนไทยอายุ 15-24 ปี ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การจ้างงาน หรือการฝึกอบรม ยังคงสูงถึง 12.8% และหลายคนขาดแรงจูงใจและโอกาสในชุมชนของตน “โคราชโมเดล” จึงเป็นความหวังที่จะสร้างเครือข่ายสนับสนุนและบุคลากรมืออาชีพเพื่อพาเยาวชนกลับสู่เส้นทางอนาคตที่มั่นคง โดยตั้งเป้าว่าในปี 2570 เด็กและเยาวชนนอกระบบกว่า 1 ล้านคน จะมีโอกาสกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา การฝึกอบรม หรือการจ้างงาน เรียกว่า โครงการเด็กทุกคนต้องได้เรียน
ทั้งนี้ การอบรมยังเชื่อมโยงสู่การสร้างกำลังคนคุณภาพเพื่อขับเคลื่อน Soft Power ด้านดนตรีและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ พร้อมวางรากฐานการขยายผล “โคราชโมเดล” สู่จังหวัดอื่น ๆ ต่อไป