ทำเนียบขาวเล็งถก 3 ผู้นำที่บูดาเปสต์ ทรัมป์รับ ปูตินไม่สนใจปิดดีล
ทำเนียบขาวเล็งถก 3 ผู้นำที่บูดาเปสต์ ทรัมป์รับ ปูตินไม่สนใจปิดดีล
Politico รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และบุคคลใกล้ชิดว่า ทำเนียบขาวเล็งที่จะใช้กรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการี เป็นสถานที่จัดการประชุมไตรภาคีระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน
Politico รายงานด้วยว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดที่ประเทศฮังการี โดยเมืองหลวงของประเทศในยุโรปกลางแห่งนี้กลายเป็นตัวเลือกแรกของทำเนียบขาว
การผลักดันให้เกิดการประชุมทวิภาคีและไตรภาคีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ได้พบกับปูตินที่อะแลสกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม และให้การต้อนรับเซเลนสกีพร้อมด้วยผู้นำยุโรป องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนตกเหนือ (นาโต) และคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทรัมป์ยอมรับว่าความขัดแย้งนี้ยากที่จะแก้ไข ทั้งยังยอมรับว่าประธานาธิบดีปูตินอาจไม่สนใจที่จะยุติการสู้รบ พร้อมกล่าวว่า เราจะได้รู้กันเกี่ยวกับท่าทีของปูตินในอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้า เป็นไปได้ว่าเขาไม่ต้องการทำข้อตกลง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ปูตินจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาเปิดกว้างต่อแนวคิดการเจรจาตรงกับยูเครน แต่ในวันรุ่งขึ้น นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ลดทอนความมุ่งมั่นที่ดูจะคลุมเครืออยู่แล้วลงไปอีก
ลาฟรอฟระบุว่า การประชุมใดๆ ก็ตามจะต้องได้รับการเตรียมพร้อมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการหารือระดับผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นจึงดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมด
ด้านดมิทรี โปเลียนสกี รองผู้แทนรัสเซียประจำสหประชาชาติ บอกกับบีบีซีว่า ไม่มีใครปฏิเสธโอกาสในการเจรจาโดยตรง แต่ไม่ควรเป็นการประชุมเพียงเพื่อที่จะบอกว่ามีการประชุมเกิดขึ้นเท่านั้น
เมื่อวันที่ 19 สิงกาคม มีรายงานว่าปูตินได้เสนอต่อทรัมป์ว่าเซเลนสกีสามารถเดินทางไปมอสโกเพื่อเจรจากับเขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนไม่น่าจะยอมรับ ทำให้มองว่าข้อเสนอดังกล่าวอาจเป็นพียงกลวิธีของรัสเซียในการเสนอทางเลือกที่เคียฟไม่สามารถตกลงได้
การเจรจาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้ทรัมป์มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความซับซ้อนของสงคราม และช่องว่างระหว่างข้อเรียกร้องของมอสโกและจุดยืนของเคียฟ
หลังการประชุมของทรัมป์กับเซเลนสกีและผู้นำยุโรปในวันจันทร์ รัสเซียได้เปิดการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือนต่อยูเครน โดยกองทัพอากาศยูเครนระบุว่ามีการยิงโดรน 270 ลำและขีปนาวุธ 10 ลูก ขณะที่กระทรวงพลังงานยูเครนรายงานว่า การโจมตีทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงงานพลังงานในแคว้นโปลตาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันแห่งเดียวของประเทศ
ขณะที่ทรัมป์ยืนยันว่า เขาตัดสินใจที่จะไม่ส่งกองกำลังสหรัฐลงพื้นที่ไปยังยูเครน แต่สหรัฐอาจให้การสนับสนุนทางอากาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อยุติสงครามของรัสเซียในประเทศ
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐภายใต้ข้อตกลงสันติภาพจะมีลักษณะอย่างไร เช่นเดียวกับการสนับสนุนทางอากาศที่ทรัมป์ระบุถึง ซึ่งอาจมีหลายรูปแบบ เช่น ระบบป้องกันขีปนาวุธ หรือเครื่องบินขับไล่ในการบังคับใช้เขตห้ามบิน
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่า การสนับสนุนทางอากาศเป็นทางเลือกและเป็นไปได้ แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทรัมป์ เธอไม่ได้ให้รายละเอียดใดเพิ่มเติม
“ประธานาธิบดีได้ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีทหารสหรัฐลงพื้นที่ยูเครน แต่เราสามารถช่วยในการประสานงาน และอาจให้หลักประกันด้านความมั่นคงในรูปแบบอื่นแก่พันธมิตรยุโรปของเราได้” ลีวิตต์กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทำเนียบขาวเล็งถก 3 ผู้นำที่บูดาเปสต์ ทรัมป์รับ ปูตินไม่สนใจปิดดีล
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th