PANEL กางแผนรุกครึ่งหลังปี 68 ย้ายฐานผลิตใหม่ กำลังผลิตพุ่ง 4 เท่า คาดดันรายได้โตเกิน 40%
PANEL คาดผลงานครึ่งหลังปี 2568 จากที่ก่อนหน้านี้เดินหน้าย้ายฐานการผลิตสู่ “นิคมอุตสาหกรรมชุมนุมทรัพย์” เตรียมเปิดโรงงานใหม่เต็มรูปแบบเดือนตุลาคมนี้ หนุนกำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ดันรายได้ปีนี้โตเกิน 40% พร้อมปักธงปี 2569 เดินหน้าสร้างสถิติ All Time High ต่อเนื่อง ด้วยแผนขยายตลาดส่งออกเต็มกำลัง เสริมศักยภาพการแข่งขันและฐานรายได้ระยะยาวอย่างมั่นคง
นางจูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL ผู้นำระบบประตูห้องผ่าตัด ระบบประตูอัตโนมัติ ผนังบานเลื่อนกันเสียง และห้องเก็บเสียงเคลื่อนที่ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทฯพร้อมเดินหน้าย้ายโรงงานการผลิตจากคลองสองไปยังนิคมอุตสาหกรรมชุมนุมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างโรงงานมีความคืบหน้าไปกว่า 80% และเริ่มมีการทยอยสั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อนำเข้า โดยคาดว่าจะสามารถขนย้ายทรัพยากรและเปิดโรงงานใหม่ได้เต็มรูปแบบภายในเดือนตุลาคม 2568
“การเปิดโรงงานใหม่จะช่วยส่งเสริมผลประกอบการของบริษัทฯในทุกมิติ ช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาในการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตได้ 2.5-4 เท่าตัวในทันที และสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น หนุนผลงานโตก้าวกระโดด”
ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีการเตรียมทีมขายพร้อมรองรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโรงงานใหม่และเครื่องจักรใหม่จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของงานรับเหมาระบบห้องผ่าตัดและรับเหมางานตกแต่งภายในสูงขึ้น เนื่องจากสามารถผลิตสินค้าได้เองมากขึ้น ลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ในการสั่งซื้อสินค้าบางประเภทในส่วนของงานรับเหมาระบบห้องผ่าตัดและรับเหมางานตกแต่งภายใน
PANEL มั่นใจ Q4/68 พีคสุด หนุนรายได้ปีนี้โตเกิน 40% ลุยขยายตลาดส่งออกดันโตต่อเนื่องปี 69
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PANEL กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะไตรมาส 4/2568 จะเติบโตแข็งแกร่ง หลังโรงงานแห่งใหม่พร้อมเดินหน้าการผลิตได้เต็มรูปแบบ ผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตเกิน 40% สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามแผนงานที่วางไว้ และในปี 2569 แนวโน้มโตต่อเนื่อง จากการขยายกำลังการผลิตโรงงานใหม่ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี”
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์มากขึ้น จากปัจจุบันรายได้จากการส่งออกยังไม่ถึง 10%