‘คงกระพัน’ CEO ปตท. ชูกลยุทธ์เด่น ผลประกอบการแกร่ง มุ่งสร้างกระแสเงินสดเพิ่ม 1 แสนล้าน!
"คงกระพัน" CEO ปตท. ชูกลยุทธ์เด่น ผลประกอบการแข็งแกร่ง มุ่งสร้างกระแสเงินสดเพิ่ม 1 แสนล้านบาทภายใน 2 ปีนี้ ย้ำ!! วิสัยทัศน์ "ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน"
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) หรือ PTT กล่าวว่า ปตท. ยังคงสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้วยวิสัยทัศน์ "ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน" โดยมีพันธกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุลและยั่งยืน
กลุ่ม ปตท. ยึดหลักการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างสมดุลใน 3 มิติ คือ การเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีการกระจายความเสี่ยง สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Security) การจัดหาแหล่งพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ (Affordability / Competitiveness) และการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การลดก๊าซเรือนกระจก (Sustainability) ดำเนินการศึกษา Eastern Thailand CCS Hub แล้วเสร็จ โดยมีการ FID โครงการ CCS ในแหล่งอาทิตย์ พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ
ด้านธุรกิจไฮโดรเจน ศึกษาโอกาสในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า พร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ในการจัดหาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวที่ผลิตในประเทศอินเดียสู่ประเทศไทยร่วมกับ Avaada Ventures Private Limited
สร้างความแข็งแรงจากภายใน ผ่านโครงการสำคัญที่จะช่วยยกระดับผลการดำเนินงาน เพิ่ม EBITDA Uplift และสร้างความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม ปตท. ในทุกมิติ ประกอบด้วย
- การบริหารความร่วมมือด้าน Supply Chain และ Marketing ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ D1 และ Project One (P1) เพื่อยกระดับ Synergy ภายในกลุ่ม ปตท. และเตรียมความพร้อมขยายตลาดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ทำเรื่อง Operational Excellence (MissionX) ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ (Lean Process) ควบคู่กับการทำ Change Management และ Best Practice Sharing เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
- ขับเคลื่อน Digital Transformation (Axis) โดยผลักดันให้เกิดการพัฒนา Use Cases สนับสนุนธุรกิจกลุ่ม ปตท. พร้อมทั้งพัฒนา Infrastructure และศักยภาพพนักงาน
- Asset Monetization (A1) การบริหารสินทรัพย์เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดของกลุ่ม ปตท. เพิ่ม Asset Optimization & Synergy และปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสม
- Financial Excellence (F1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งและวินัยทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุน สอดคล้องพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนความคืบหน้าการหาพันธมิตรร่วมทุนในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น (R&P) ว่า ขณะนี้ ปตท. อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสรุปคัดเลือกพันธมิตร (Shortlist Partner) ได้ภายในปลายปี2568 และตั้งเป้าดำเนินธุรกรรมให้แล้วเสร็จในปี 2569 แม้ว่าจะดึงพันธมิตรร่วมทุนเข้าถือหุ้นในธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น แต่ ปตท. ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท Flagship ในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นประกอบด้วยบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตกลงสัดส่วนการเข้าถือหุ้นของพันธมิตรร่วมทุนในบริษัท Flagship ดังกล่าว ซึ่งการดึงพันธมิตรใหม่เข้าร่วมถือหุ้นจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ โครงการ Genesis มีความก้าวหน้าดี มุ่งปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Flagship ซึ่งหลักการ คือ ปรับ Portfolio กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น เสริมความแข็งแกร่งให้บริษัท Flagships ท่ามกลาง Landscape Change และแสวงหา Long term Strategic Partners โดย ปตท. ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักในบริษัท Flagships
"ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าราคาน้ำมันดิบไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก ขณะที่มาร์จิ้นโรงกลั่นและปิโตรเคมียังทรงตัว แต่กลุ่ม ปตท. เชื่อว่าจะสามารถดำเนินโครงการต่างๆ ตามกลยุทธ์เพื่อเพิ่ม EBITDA ได้ตามเป้าหมาย" ดร.คงกระพัน กล่าว
ดร.คงกระพัน กล่าวอีกว่า ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2578 โดยลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วนธุรกิจ Non-Hydrocarbon มีความก้าวหน้าที่ดี เดินตามแผนกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุน โดยธุรกิจ Life Science ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ สร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเอง (Self-funding) โดยปตท.มีแผนนำบริษัทอินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาหาธุรกิจใหม่เพิ่มเติม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอินโนบิก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ปตท. ได้อนุมัติการขายหุ้นบริษัท Lotus Pharmaceutical Company Limited (Lotus) ไม่เกิน 2% ของจํานวนหุ้นที่ออกและจําหน่ายแล้วทั้งหมดผ่านตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (TWSE) ส่งผลให้อินโนบิกถือหุ้นใน Lotus อยู่ไม่ต่ำกว่า 36% เพื่อให้Lotusสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนเองในการขยายธุรกิจยา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 1 ปี ‘คงกระพัน’ นำทัพ ‘ปตท.’ มั่นใจเดินกลยุทธ์ถูกทาง สะท้อนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
- ‘ดร.คงกระพัน’ ติดอันดับ 1 ใน 100 ซีอีโอชั้นนำของโลก
- ‘ดร.คงกระพัน’ ซีอีโอ ปตท. คว้ารางวัล ‘สุดยอดผู้บริหารองค์กรแห่งปี 2024’
ติดตามเราได้ที่