กต. แถลงประณามกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย – จี้เยียวยาผู้เสียหาย
กต. แถลงประณามกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย แจงคณะทูต68 ประเทศ ย้ำพร้อมหารือทวิภาคี แต่ต้องรับผิดชอบ-เยียวยา
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงยืนยันจุดยืนของไทยต่อคณะทูตและผู้ช่วยทูตทหารจาก 68 ประเทศ ประณามกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา วางกับระเบิดในดินแดนไทย ณ ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบ เยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้งหมดบริเวณชายแดน
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวภายหลังการบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาให้แก่คณะทูต 93 คน จาก 68 ประเทศ โดยมีนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา (ด้านความมั่นคง), พลเอกศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) และนางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ร่วมบรรยายสรุป
นายนิกรเดชกล่าวว่า การบรรยายสรุปวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีทหารไทย 3 นายเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากการตรวจสอบของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ศบ.ทก. ยืนยันว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นใน พื้นที่อธิปไตยของประเทศไทย
โดยมี 5 ประเด็นหลักจากการบรรยายสรุป
1. ยืนยันกับระเบิดเป็นของกัมพูชา: การตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าวัตถุระเบิดที่พบไม่มีการใช้หรืออยู่ในคลังอาวุธของไทย แต่เป็น ทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประมวลจากข้อมูลและหลักฐานทั้งหมด นำไปสู่ข้อสรุปว่า เป็นทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา และถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
2.ประณามละเมิดอธิปไตย รัฐบาลไทยได้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการ ละเมิดอธิปไตย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักพื้นฐานสำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศตาม กฎบัตรสหประชาชาติ รวมถึงเป็นการละเมิดพันธกรณีภายใต้ อนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน
3.ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ: ด้วยหลักฐานที่รวบรวมและตรวจสอบอย่างรอบคอบจากฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการให้ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อประท้วงกัมพูชาใน 3 ประเด็นหลัก:
3.1 ละเมิดอธิปไตยของไทย
3.2 ไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา
3.3 ขอให้กัมพูชาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงความรับผิดชอบ เยียวยาผู้เสียหาย และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามที่เคยตกลงกันไว้
4.รายงานต่อประชาคมโลก กระทรวงการต่างประเทศ โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประธานการประชุมรัฐภาคีว่าด้วยการลดอาวุธ (การประชุมพันธอนุสัญญาว่าด้วยรัฐภาคีตามอนุสัญญาออตตาวา) เพื่อรายงานการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชาตามมาตรา 1 ของอนุสัญญา โดยย้ำว่าไทยต้องการใช้กลไกรัฐภาคีกับกัมพูชาเพื่อธำรงไว้ซึ่งอนุสัญญาออตตาวา และต้องการหารือทวิภาคีกับกัมพูชา
5.ยืนยันแนวทางการแก้ไขปัญหา ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำจุดยืนของไทยที่ยึดถือหลักปฏิบัติสากล กฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายสหประชาชาติ พร้อมยืนยันว่าไทยยังคงพร้อมที่จะพูดคุยหาทางออกกับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมหารือระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ได้ใช้โอกาสนี้ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะหลักการของไทยที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี
ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประจำเดือนกรกฎาคม และได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมของปานามา ซึ่งจะเป็นประธานคนต่อไปประจำเดือนสิงหาคม ทั้งสองประเทศเห็นพ้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาของไทยที่เน้นกลไกทวิภาคี และเห็นว่าหากมีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ก็จะต้องมีการแก้ไข
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'พล.ต.วันชนะ' แฉ 2 ผู้พันกัมพูชาเอี่ยววางทุ่นระเบิด ล้ำดินแดนไทย
- 'ภูมิธรรม' สั่งลดระดับความสัมพันธ์ เรียกทูตไทยกลับ ส่งทูตกัมพูชากลับประเทศ
- ผบ.ทบ. สั่งเตรียมแผน 'จักรพงษ์ภูวนาถ' ประณาม 'กัมพูชา' ลอบวางทุ่นระเบิดช่องอานม้า
ติดตามเราได้ที่