DSI รับเป็นคดีพิเศษ ขบวนการลอบนำเข้า ฝุ่นแดง กว่า 10,000 ตัน มูลค่ากว่า 360 ล้านบาท พบใช้เอกสารราชการปลอม
วันนี้ (3 กรกฎาคม) ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ ทีมสุดซอย โพสต์ข้อมูลและภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกรณีการลักลอบนำเข้า ฝุ่นแดง หรือกากแร่ที่เข้าข่ายของเสียอันตรายจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้วในเลขที่คดี 70/2568
การเปิดโปงครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ที่ปรึกษาโครงการฯ DSI ถึงกรณีการนำเข้าฝุ่นแดง 700 ตัน จากประเทศโมร็อกโก ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และ DSI ร่วมกันเปิดตู้สินค้าที่ท่าเรือกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568
จากการสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีการใช้หนังสือราชการปลอม เพื่อลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ถึงมกราคม 2568 รวมปริมาณกว่า 10,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ากว่า 45 ล้านบาท โดยได้รับยกเว้นภาษีนำเข้า ทั้งที่เมื่อนำฝุ่นแดงเหล่านี้ไปหลอมสกัดเอาซิงค์ (สังกะสี) ออกมาและส่งขายต่างประเทศ จะสร้างมูลค่าได้ไม่ต่ำกว่าตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 36,000 บาทต่อตัน ทำให้มูลค่ารวมของฝุ่นแดงที่ถูกนำเข้าอยู่ที่ 360 ล้านบาท หากคิดตามราคาขายซิงค์ที่สกัดได้
จุดเริ่มต้นของคดีนี้เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อ บริษัท KMC 1953 จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้า ถูกอายัดตู้สินค้าเนื่องจากเจ้าหน้าที่สงสัยว่าสินค้าที่สำแดงเป็น ZINC CONCENTRATE อาจเป็นการสำแดงเท็จ จากการตรวจสอบสินค้าพบว่าผลวิเคราะห์และที่มาของเสียเข้าข่ายเป็นของเสียเคมีวัตถุตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้รายงานเรื่องนี้ต่อ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้ส่งทีมเข้าตรวจสอบเบื้องต้นที่บริษัท KMC 1953 จำกัด บริษัทฯ ให้การยอมรับและเปิดเผยข้อมูลของโบรกเกอร์ รวมถึงโรงงานปลายทางที่รับฝุ่นแดง
ในเดือนมีนาคม 2568 ทีมสุดซอยได้ร่วมกับ บก.ปทส. และ DSI ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบบริษัท KMC พร้อมยึดอายัดเอกสาร คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และกล้องวงจรปิด นอกจากนี้ยังได้สอบปากคำผู้บริหาร โดยบริษัท KMC ให้การว่ามีหุ้นส่วนชื่อ เจน สัญชาติจีน ทำหน้าที่เป็นนายหน้าจัดหาฝุ่นแดงจากหลายประเทศนำเข้ามายังประเทศไทย โดยมีบริษัทชิปปิ้งทำหน้าที่เดินเอกสารผ่านด่านศุลกากร
เมื่อนำฝุ่นแดงเข้ามาแล้ว จะมีบริษัทโบรกเกอร์ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท จีเอ็นฯ, บริษัท เวลธ์ฟิวชั่นฯ และบริษัท เจจีเอสฯ รับไปกระจายต่อให้กับโรงงานปลายทาง ได้แก่ บริษัท หัวจงฯ จังหวัดสมุทรสาคร, บริษัท เอฟเวอร์โกรวิ่งฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา และบริษัท จินฮุ้ยฯ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคนสัญชาติเดียวกับ เจน
ระหว่างการเข้าตรวจค้นบริษัท KMC ในช่วงเดือนมีนาคม 2568 ทีมสุดซอยยังพบเอกสารและหลักฐานว่ามีการพยายามส่งฝุ่นแดงเข้ามาในประเทศอีก 1 ล็อตในช่วงเดือนเมษายน 2568 กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงประสานไปยังกรมศุลกากรให้เฝ้าระวังตู้สินค้าจำนวน 36 ตู้
กรมศุลกากรได้ล็อกตู้สินค้าต้องสงสัยตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 และได้มีหนังสือแจ้งบัญชีสินค้าค้างของบริษัท KMC ประสานมายังกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อร่วมเปิดตู้สินค้าตรวจสอบ ซึ่งผลปรากฏว่าเป็นฝุ่นแดงกว่า 700 ตันที่มาจากประเทศโมร็อกโก
ขณะนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำลังดำเนินการผลักดันฝุ่นแดงล็อตดังกล่าวกลับประเทศต้นทาง และได้ร่วมกับกรมศุลกากรร้องทุกข์กล่าวโทษไปยัง DSI ให้รับเป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการนี้อย่างถอนรากถอนโคน
ในส่วนของหนังสือราชการปลอมที่ออกโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และเอกสารปลอมอีกหลายฉบับที่ตรวจพบในสำนักงานฯ นั้น ได้มีการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงการกระทำผิดวินัยร้ายแรง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการวินัย นอกจากนี้ยังมีการส่งเรื่องเพื่อดำเนินคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไปอีกด้วย
อ้างอิง: