ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา
กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา
วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ไม่สนใจสายตาเจ้าหน้าที่ หรือชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณนั้น
ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่า มีบ่อนการพนันในชุมชนแห่งนี้ ทำให้คนในครอบครัวติดการพนัน จนเกิดความขัดแย้งในครอบครัวอยู่เป็นประจำ และรู้สึกไม่มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิต
พนักงานฝ่ายปกครองจึงได้ทำการสืบสวน พบบ่อนการพนันแห่งนี้อยู่ในซอยพหลโยธิน 52 เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าเล่นพนันไฮโล และมีเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้สำหรับเล่นพนันออนไลน์ ภายในมีการจัดการอย่างเป็นระบบ รับฝากโทรศัพท์ ให้บริการอาหารเป็นอย่างดี มีประตูทางออกหลายทาง พร้อมที่จะหลบหนีเจ้าหน้าที่ เดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพียง 300 เมตร
ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงได้เริ่มปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” โดยขณะเข้าจับกุม มีพนักงานของบ่อนที่อยู่บริเวณทางเข้า คอยเฝ้าระวังและพยายามส่งสัญญาณด้วยวิทยุสื่อสารเข้าไปด้านในบ่อน แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเสียก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมบุกเข้าไปทลายด้านในบ่อน พบนักพนันจำนวนมากวิ่งหนีกันแตกกระเจิง เพื่อจะออกตามทางที่บ่อนได้สร้างไว้ แต่ไม่สามารถออกได้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังปิดกั้นทุกทางออกไว้แล้ว
ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้ พบว่าบ่อนแห่งนี้มีเจ้ามือเป็นคนไทยและคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา โดยมีการผลัดเปลี่ยนเจ้ามือกันเป็นกะสลับกันไปตลอดทั้งวัน สามารถจับเจ้ามือและนักพนันได้กว่า 70 คน พร้อมของกลางเงินสดมูลค่ากว่า 800,000 บาท นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่ามีเงินหมุนเวียนภายในบ่อนการพนันนี้อีกเป็นมาก
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การจับกุมบ่อนการพนันครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาดโดยเสมอมา ขอเน้นย้ำว่าการกระทำใดที่ผิดกฎหมายและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกประเภท พนักงานฝ่ายปกครองพร้อมที่จะบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองอย่างเต็มที่ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสบ่อนการพนัน หรือเรื่องอื่นใดที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอ หรือร้องเรียนผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลข 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครองได้สืบสวนมาหลายเดือนแล้ว หลังจากประชาชนร้องเรียนว่ามีบ่อนการพนัน เปิดใกล้รถไฟฟ้า BTS และมีการเปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ร้องเรียนเป็นบุคคลในครอบครัวของนักพนันเอง เนื่องจากสุดทนกับบุคคลในครอบครัวที่มีผีพนันเข้าสิง จนทำให้ครอบครัวต้องเป็นหนี้เป็นสิน
จากการตรวจสอบพบผู้เล่นและผู้จัดประมาณ 70 คน มีหลบหนีไปได้ประมาณ 5-6 คน เนื่องจากมีประตูลับสำหรับเข้าออกด้านหลังบ่อน สำหรับบ่อนดังกล่าว มีทั้งคนไทยและคนกัมพูชาเป็นเจ้ามือ มีการแบ่งกะกันระหว่างเจ้ามือคนไทยและเจ้ามือชาวกัมพูชา คนที่จะเข้าเล่นในพื้นที่บ่อนดังกล่าวได้จะต้องมีเงินติดตัวอย่างน้อย 3,000 บาทขึ้นไป
โดยภายในบ่อนมี โต๊ะพนัน 1 โต๊ะ ตู้เซฟ ชิปแลกเงิน ตู้นับเงิน คอมพิวเตอร์จำนวน 10 ตัว สำหรับพนันออนไลน์ ทั้งฟุตบอลต่างประเทศ บาคาร่า และการพนันอื่นๆ มีเงินสดหมุนเวียน วันละ 800,000 บาท
อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนยังพบบ่อนดังกล่าว มีความเชื่อมโยงไปยังบ่อนในประเทศกัมพูชาด้วย.-414.-สำนักข่าวไทย