‘เที่ยวไทย’ ครึ่งปีหลัง สุดท้าทายเร่งปั๊มนักท่องเที่ยว 18 ล้านคน
ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ในด้าน “ความปลอดภัย” ของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย และยังมีผลต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกนี้
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าท้าทายอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือนี้ ในการที่จะขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นไปตามเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน และมีรายได้ 3 ล้านล้านบาท ตามที่ “สรวงศ์ เทียนทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศไว้เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา
ครึ่งปีแรก ต่างชาติ 16.8 ล้านคน
โดยจากข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรก (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2568) ของปี 2568 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมทั้งหมด 16,685,466 คน ลดลง 4.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 771,555 ล้านบาท ลดลง 2.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567
โดยตลาดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.มาเลเซีย 2,299,897 คน 2.จีน 2,265,556 คน 3.อินเดีย 1,183,899 คน 4.รัสเซีย 1,034,759 คน 5.เกาหลีใต้ 772,107 คน 6.สหราชอาณาจักร (UK) 572,061 คน 7.สหรัฐอเมริกา 551,105 คน 8.ญี่ปุ่น 509,263 คน 9.ไต้หวัน 499,806 คน และ 10.ลาว 498,939 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศลดลงต่อเนื่องทุกเดือน โดยเดือนมกราคมมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 3.7 ล้านคน กุมภาพันธ์ 3.1 ล้านคน มีนาคม 2.7 ล้านคน เมษายน 2.5 ล้านคน พฤษภาคม 2.2 ล้านคน และมิถุนายน 2.3 ล้านคน
จีนติดลบกว่า 40% ทุกเดือน
แหล่งข่าวในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นตลาดหลัก ๆ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในแดนลบ อาทิ เซาท์อีสต์เอเชีย -12.01% จีน -34% ฮ่องกง -25.92% เกาหลีใต้ -21.95% มัลดีฟส์ -22.98% เวียดนาม -25.40%
อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายตลาดที่มีการเติบโตอย่างชัดเจน อาทิ อินเดีย +49.90% ศรีลังกา +82.90% อิสราเอล +23.62% ตุรกี +23.61% อิหร่าน +154.56% จอร์แดน +72.38% สหรัฐอเมริกา +17.93% ปากีสถาน +26.36%
“ภาพรวมในช่วงที่ผ่านมาตลาดหลักอย่างจีนยังคงติดลบหนัก และต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยกุมภาพันธ์ ติดลบ 44.92% มีนาคม ติดลบ 48.17% เมษายน ติดลบ 46.74% พฤษภาคม ติดลบ 44.54% และมิถุนายน ติดลบ 41.94%”
พร้อมระบุว่า แนวโน้มที่เกิดขึ้นนี้นับเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ในฐานะหน่วยงานด้านการตลาดที่ต้องเร่งปั๊มตลาดให้มีนักท่องเที่ยวให้ได้ไม่ต่ำกว่า 18 ล้านคนในครึ่งปีหลัง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 35 ล้านคน
ประเทศคู่แข่งแย่งตลาด
แหล่งข่าวจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) รายหนึ่งวิเคราะห์ว่า นอกจากประเด็นเรื่องความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแล้ว ประเด็นที่ทำให้จำนวนต่างชาติของไทยลดลงต่อเนื่องเป็นผลมาจาก เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของประเทศต้นทางที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
หลายประเทศส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แทนการออกเดินทางไปต่างประเทศ
ปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคของโลก การเมืองแบ่งแยกชัดเจนระหว่างขั้วสหรัฐอเมริกาและจีน ปัญหาการเมืองที่กระทบการเดินทาง และการปิดน่านฟ้า รวมถึงความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยที่ลดลง
“ท่องเที่ยวไทยของเราขายแต่ของเดิม ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ขณะที่ประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม พัฒนาเร็วมาก เช่นเดียวกับญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฯลฯ ที่มีการพัฒนาตลอด ทำให้ไทยถูกแย่งตลาดไป”
ไม่เพียงแค่นี้ ในแง่ของต้นทุนการเดินทางของประเทศไทยก็ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรม-ที่พัก อาหาร ซึ่งเป็นไปตามต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ตลาดที่เติบโตยังชดเชยจีนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ปี 2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 34.5 ล้านคน ลดลงประมาณ 2.8% ต่ำกว่าที่ประเมินในช่วงต้นปี โดยตลาดนักท่องเที่ยวหลัก อาทิ จีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ยังคงชะลอตัว สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจากอินเดียหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงระหว่างอินเดียและปากีสถานน่าจะยังขยายตัวได้
ส่วนตลาดที่มองว่ายังเติบโตหลัก ๆ มาจากนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป อาทิ รัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร (UK) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสายการบินยุโรปมีการขยายเส้นทางการบินตรงและเพิ่มความถี่มาไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
แต่การเพิ่มขึ้นของตลาดเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการลดลงของตลาดสำคัญ ๆ โดยเฉพาะจีนได้
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ในด้านของรายได้ท่องเที่ยวจากชาวต่างชาตินั้น คาดว่าปี 2568 นี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.62 ล้านล้านบาท ลดลงประมาณ 3% จากปี 2567
ททท.รับปีนี้สุดท้าทาย
ด้าน “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่าททท.คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 35.5 ล้านคน ใกล้เคียงกับปี 2567 สร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศราว 1.83 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 10% เมื่อเทียบปี 2567
รวมกับรายได้ตลาดในประเทศ 1.17 ล้านล้านบาท ทำให้เป้าหมายรายได้รวมทั้งตลาดในและต่างประเทศปีนี้อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท เท่ากับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด
ส่วนนักท่องเที่ยวจีนคาดว่าน่าจะสามารถผลักดันไปได้ถึงประมาณ 6.7 ล้านคน ใกล้เคียงกับปี 2567
อัด 3.9 พันล้านกระตุ้นต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ททท.ได้เดินหน้าโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยววงเงิน 3,960 ล้านบาท จำนวน 7 โครงการ ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินรวมทั้งสิ้น 1.1 แสนล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติโครงการไปแล้ว
ประกอบด้วย 1.โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,760 ล้านบาท 2.โครงการกระตุ้นตลาดต่างประเทศวงเงิน 750 ล้านบาท 3.โครงการทำตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวปี 2568 วงเงิน 800 ล้านบาท 4.โครงการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยวพลัสไทยแลนด์วงเงิน 300 ล้านบาท
5.แผนประชาสัมพันธ์กระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2568 120 ล้านบาท 6.โครงการประชาสัมพันธ์สร้างการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพวงเงิน 80 ล้านบาท และ 7.โครงการกระตุ้นการใช้จ่ายการกระจายตัวเดินทางท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวเชียงใหม่-ลำพูน 150 ล้านบาท
“ยอมรับว่าภาพรวมของภาคการท่องเที่ยวของไทยปีนี้เจอกับปัจจัยท้าทายอย่างหนัก โดยนอกจากตลาดจีนที่ยังต้องเร่งเดินหน้าฟื้นความเชื่อมั่นแล้ว ตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูง อาทิ ตะวันออกกลางก็เริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดีนักจากปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์”
พร้อมย้ำว่า ททท.จะเดินหน้ากระตุ้นตลาดและแก้โจทย์ภายใต้ปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ให้ดีที่สุด และมีจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เคียง 35 ล้านคนตามเป้าหมาย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘เที่ยวไทย’ ครึ่งปีหลัง สุดท้าทายเร่งปั๊มนักท่องเที่ยว 18 ล้านคน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net