“นันทนา” โดดขวางอีกรอบเลือก “กกต.-ตุลาการศาล รธน.” ทำประท้วงวุ่น
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.09 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 22 ก.ค.-“นันทนา” โดดขวางอีกรอบเลือก “กกต.-ตุลาการศาล รธน.” ทำประท้วงวุ่น “สว.อมร” ถามพบแพทย์ไหม หลังอภิปรายวนเวียนซ้ำซาก ขณะ “สว.วุฒิพงษ์” แฉมีคำสั่งให้เลือกคนเดียว ตีตกอีกคน ประชุมลับก่อนลงมติ
การประชุมวุฒิสภา ที่มีพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม เดินหน้าพิจารณาวาระสำคัญคือการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คนและกรรมการการเลือกตั้ง 1 คน หลังจากที่คณะกรรมาธิการสามัญทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วุฒิสภา ได้เสนอรายงานผลการตรวจสอบประวัติฯ โดยเป็นการพิจารณาลับก่อนที่จะลงมติ
ทั้งนี้ ในตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการลงมติ 2 รายชื่อ คือ ศาสตราจารย์ร้อยตำรวจเอกสุธรรม เชื้อประกอบกิจ อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สังกัดคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯ ในสาขาผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี เพื่อมาแทน ศ.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธาน ศาล รธน.
อีกหนึ่งคน คือ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และอดีตอธิบดีกรมทางหลวง ที่ผ่านการคัดเลือกในสาขา ผู้ทรงคุณวุฒิที่รับหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า หรือตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี เพื่อมาแทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่พ้นจากตำแหน่งเพราะอยู่ครบวาระ
โดยนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย ว่าการอภิปรายของตนหวังว่าจะไม่ได้รับการขัดขวางจากสมาชิกเพราะกำลังใช้เอกสิทธิ์ของการเป็นสว.รักษาผลประโยชน์ของประชาชนผู้จ่ายเงินเดือนให้กับสว.ทุกคนในที่นี้ ก่อนที่จะ หยิบยกการพิจารณา ของคณะกรรมการไต่สวนและสืบสวนของ กกต.ชุดที่ 26 และ DSI ที่มีการพิจารณาคดีฮั้วเลือกสว. จำนวน 229 ราย ซึ่งเป็นสว.ถึง 138 ราย เกือบ 3 ใน 4 ของสว.ทั้งสภา ขณะนี้สำนวนอยู่ในมือกกต.และจะส่งฟ้อง ศาลอาญาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไป แต่ในวันนี้สมาชิกวุฒิสภาทุกคนจะลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งกกต.นี่ไม่ขัด กันเกินไปกับคดีที่กำลังเป็นผู้ถูกกล่าวหาอยู่หรือ
“ท่านไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือหากกกต.พิจารณาคดีฮั้วสวเป็นคุณกับท่าน ประชาชนจะรู้สึกอย่างไรแล้วกระบวนการยุติธรรมในประเทศนี้ยังมีอยู่หรือหากเป็นเช่นนั้นแล้วองค์กรอิสระจะยังเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้อีกหรือขณะเดียวกันท่านก็จะลงมติเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 2 ตำแหน่งที่ว่างลง แต่ก็ใช้ตำแหน่งสวเป็นผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่านายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง ร้องว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก้าวก่ายแทรกแซงในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสว.และขอให้บุคคลเหล่านี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ลงชั่วคราว แต่สมาชิกวุฒิสภาทุกคนที่ถูกกล่าวหาจากคณะกรรมการไต่สวนชุดที่ 26 ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่บางหรือ” นางสาวนันทนา กล่าว
โดยในระหว่างที่ น.ส.นันทนา กำลังอภิปรายอยู่ ได้มีสมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นประท้วง โดยระบุว่าเป็นการอภิปรายซ้ำซากเนื่องจากเมื่อวานนี้ ได้มีการประชุมลับในเรื่องนี้ไปแล้ว ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่าการอภิปรายของนางสาวนันทนา ยังไม่เข้าข่ายเกี่ยวกับการชะลอการเลือกองค์กรอิสระ
จากนั้นนางสาวนันทนา อภิปรายต่อว่า ตนถามว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะเลือกตุลาการไปตัดสินคดีที่ มีส่วนได้เสียคู่กรณีจะคิดอย่างไร ประชาชนจะคิดอย่างไรนี่เป็นการจงใจที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวหรือไม่ ดังนั้นเหมาะสมแล้วหรือที่จะทำหน้าที่ลงมติเกี่ยวกับองค์กรอิสระทั้งหลาย ดังนั้นเพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์และเพื่อความสง่างามแห่งวุฒิสภาสว. ทั้งหลายควรยุติการลงมติใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ คดีฮั้วสว.แม้ว่าตนเองและสว. อิสระ จำนวน 62 คนจะไม่ได้เป็นผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแต่เพื่อความสง่างามแห่งวุฒิสภาอิสระทั้งหมดยินดีที่จะสละเอกสิทธิ์
จากนั้นสมาชิกวุฒิสภาหลายคนได้มีการลุกขึ้นประท้วงนางสาวนันทนาเนื่องจากประเด็นที่อภิปรายมีความซ้ำซากบุคคล และได้มีการพูดคุยกันไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งมาติดที่ประชุมใหญ่ก็ให้เดินหน้าโหวตเลือกกรรมการองค์กรอิสระ ดังนั้นจึงไม่ควรหยิบยกประเด็นนี้มาพูดอีก
ขณะที่หนึ่งในผู้ประท้วงนางสาวอมร ศรีบุญนาค สว.ประท้วงประธาน ว่าวันนี้ประธานแข็งน้อย อยาก ให้ประธานแข็งมากกว่านี้ ตนฟังเรื่องนี้มาทุกวัน คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว สมาชิกวุฒิสภาหลายคนเป็นบุคลากรทางการแพทย์ คนที่ฟังซ้ำๆพูดซ้ำๆ ควรไปปรึกษา
จากนั้นนางสาวนันทนาได้ใช้สิทธิ์พาดพิง ว่าตนเองผิดจริยธรรมโดยมองว่าสว.คน คนที่กล่าวหาตนเอาตนเองเป็นเกณฑ์หรือไม่ ข้อกล่าวหาแบบนี้รุนแรงและไม่เหมาะสมไร้จริยธรรมโดยสิ้นเชิง และตนก็จะดำเนินการหากมีการกล่าวหาตนเองต่อหน้าที่ประชุมแบบนี้ไม่ยอมและไม่สยบยอม และเมื่อนางสาวนันทนาเริ่มอภิปรายในเรื่องเดิมต่อประธานในที่ประชุมจึงขอวินิจฉัยว่านางสาวนันทนา อภิปรายเรื่องเดิมซ้ำซาก และไม่อนุญาตให้อภิปรายต่อ ทำให้มีสมาชิกวุฒิสภาประท้วง และผู้อภิปรายต้องการที่จะอธิบายต่อ จนเกิดความวุ่นวาย ประธานในที่ประชุมจึงปิดไมค์ทั้งผู้ประท้วงและผู้อภิปราย ก่อนที่จะบอกให้นางสาวนันทนานั่งลง และดำเนินการให้สว.อภิปราย ตามระเบียบวาระต่อ
โดยนาวาตรีวุฒิพงษ์ พงษ์สุวรรณ สว. ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็นคนดีทั่ง 2 คน เพราะมีความรู้ความสามารถผ่านการสรรหามาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้รับข่าวสารมาว่า มีคำสั่งให้เลือกคนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้ส่วนตัวก็สนิทกับประธานสรรหา คบกันมาเป็น 10 ปี แต่วันนี้อาจจะไม่คบกันแล้ว ย้ำว่า ในยุคปัจจุบัน เมื่อทำอะไรไปแล้วย่อมถูกตรวจสอบโดยประชาชนและบุคคลอื่นๆ ซึ่งหากมีจิตใจที่โปร่งใส มีหิริโอตัปปะ ก็ไม่เป็นอะไร ดังนั้นขอให้ สว. ทุกคนอ่านให้ละเอียด ก่อนจะลงคะแนนในสิ่งที่ควร
นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. อภิปรายว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักคือหลักเรื่องของความ ที่ยังไม่ได้มีการตัดสิน ต้องมองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะมีโอกาสตัดสินผิด จะไปลงโทษก่อนตัดสินเป็นเรื่องที่ไม่ควร ขณะที่ เห็นว่า การยอมให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI องค์กรอยู่ใต้กำกับกระทรวงยุติธรรม มาดำเนินการ บีบคั้นองค์กรอื่นในการทำงาน เป็นเรื่องเข้าข่ายแทรกแซง ซึ่งตามหลักการ ต้องการแก้การตรวจสอบ คือให้องค์กรอิสระเป็นผู้ตรวจสอบ สส. สว.
“วันนี้เราอาจจะสะใจ แต่วันข้างหน้าอาจเป็นคนที่โดน ต่อไปการตรวจสอบการได้มาซึ่งสส.อาจจะไม่ต้องใช้กกต.ใช้ DSI ตรวจสอบไม่ต้องมีแล้วกกต. แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบ ผมไม่ได้ปฏิเสธอำนาจของสว. แต่ การให้ความเห็นชอบตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญแต่สว. 92 คนเป็นผู้ร้อง พันตำรวจเอกทวี สอดส่องและนายภูมิธรรมเวชยชัย” นายเทวฤทธิ์ กล่าว
จากนั้นก็ได้มีสมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นอภิปรายอย่างกว้างขวางและเริ่มพิจารณารายงานที่เป็นรายงานลับต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย