2 นักธุรกิจร้อง ปปป.ถูกผัวเมียอ้างใกล้ชิดอดีต รมต.หลอกลงทุน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 0.26 น. • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทบก.ปปป. 22 ก.ค. – “ธนกฤต” พา 2 นักธุรกิจรับเหมา ร้องทุกข์ ปปป. ให้ตรวจสอบคนอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย หลอกลงทุนโครงการรัฐสูญเงิน 7 ล้านบาท พบเบื้องต้นเข้าข่ายผิดฉ้อโกง รอตรวจสอบเป็น จนท.รัฐจริงหรือไม่
นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข พร้อม ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรคพร้อม พานางสาวทิพยาภรณ์ อายุ 45 ปี และนายณภัทรพล อายุ 43 ปี สองสามีภรรยานักธุรกิจรับเหมา เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เพื่อเอาผิดสามีภรรยาอ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย หลอกลวงเงินเพื่อรับงานโครงการพันล้าน และหลอกลวงอีกหลายกรณี ความเสียหายประมาณ 7 ล้านบาท
ภายหลังจากการพูดคุยรับเรื่องใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที นายกองตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า ทางพรรคพร้อมได้พาผู้เสียหายเข้ามาพบตน จึงพาผู้เสียหาย มาร้องทุกข์กับทาง บก.ปปป. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีนี้เนื่องจากมีการแอบอ้างเรื่องต่างๆ ทั้งอ้างตัวเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย แอบอ้างเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลเรื่องโครงการของรัฐหลายโครงการ และเรื่องซองประมูลโครงการต่างๆ รวมถึงการซื้อรถให้กับผู้ใหญ่ที่อ้างว่าเป็นอดีตรัฐมนตรีที่ต้องใช้รถในการลงพื้นที่ ซึ่งเป็นรถ BMW มือสอง มูลค่า 1,668,000 บาท พร้อมเงินสด 200,000 บาท
นายกองตรี ธนกฤต บอกอีกว่า นอกจากนี้ยังพาผู้เสียหายไปพบนายพลทหารท่านหนึ่ง ยศ “พล.ท.” ซึ่งต้องมีการตรวจสอบว่าเป็น พล.ท. ในราชการหรือนอกราชการ หรือเป็น พล.ท. จริงหรือไม่ รวมยังมีเรื่องของการแจ้งให้เป็นคณะกรรมาธิการรัฐสภา รวมถึงยังมีเรื่องของการซื้อวุฒิการศึกษาให้จ่ายเป็นงวด และการใช้เอกสารของทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการทำบัตรที่แสดงตัวให้เห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ยังใช้สัญลักษณ์ประทับตราของกระทรวงมหาดไทยในการประทับตราต่างๆ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ จึงได้พาผู้เสียหายเข้ามาพบกับตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบว่าบุคคลที่แอบอ้างนั้นมีตัวตนและเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวรัฐมนตรีจริงหรือไม่ และจะเข้าองค์ประกอบความผิดอะไรบ้าง
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยกับผู้เสียหาย พบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ต่างกรรมต่างวาระ ส่วนการตรวจสอบการทุจริตเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐมีอยู่หนึ่งโครงการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ซึ่งจะต้องลงไปตรวจสอบว่ามีโครงการดังกล่าวจริงหรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ นอกจากนี้ยังให้กองบังคับการปราบปรามเข้ามาดูเรื่องของการฉ้อโกง เนื่องจากว่ามีการกระทำความผิดหลายพื้นที่หลายครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายหลายครั้ง เบื้องต้นตำรวจจะตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับสินบน หรือฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเรื่องอุปโลกน์ขึ้นมาลอยๆ จะเป็นเรื่องฉ้อโกง. -419- สำนักข่าวไทย