ผลสำรวจชี้ธุรกิจสุขภาพ-ความงาม คือ ‘Soft Power’ เปลี่ยนเกมเศรษฐกิจไทย
คนไทย 58.24% หนุน Soft Power ธุรกิจสุขภาพ-ความงาม มองว่ามีศักยภาพสูงที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทยในอนาคต
ผลสำรวจจากสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พบประชาชน 1,128 คนทั่วประเทศ (สำรวจระหว่างวันที่ 15-18 ก.ค.) ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า Soft Power คือยุทธศาสตร์สำคัญที่ประเทศไทยควรเร่งนำมาใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในระดับโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมการท่องเที่ยว และเทศกาลระดับโลก ถูกมองว่าเป็นแนวทางที่ช่วยขับเคลื่อน Soft Power ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังเชื่อมั่นว่า ธุรกิจสุขภาพ ความงาม และการดูแลสุขภาพแบบไทย มีศักยภาพสูงมากในการเป็นกำลังสำคัญผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับประเด็นคำถาม มีดังต่อไปนี้
ประเทศไทยควรใช้ Soft Power เป็นยุทธศาสตร์หลักในการสร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในเวทีโลกอย่างไร
อันดับ 1 ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและเทศกาลระดับโลก 70.78%
อันดับ 2 ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น อาหาร แฟชั่น ดนตรี ภาพยนตร์ 68.12%
อันดับ 3 ใช้สื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์เผยแพร่ความเป็นไทยสู่โลก 57.64%
Soft Power เรื่องใดที่ประชาชนเห็นว่ามีศักยภาพสูงสุดในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในอนาคต
อันดับ 1 ธุรกิจสุขภาพ ความงาม และการดูแลสุขภาพแบบไทย คิดเป็น 58.24%
อันดับ 2 ดนตรี ศิลปะ แฟชั่น และภาพยนตร์ คิดเป็น 55.85%
อันดับ 3 ศิลปิน-นักออกแบบร่วมสมัย และอุตสาหกรรมดิจิทัลครีเอทีฟ คิดเป็น 53.63%
มหาวิทยาลัยไทยควรมีบทบาทอย่างไรในการพัฒนา Soft Power ของประเทศ
อันดับ 1 เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม คิดเป็น Soft Power 61.08%
อันดับ 2 เป็นเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม จัดนิทรรศการ การแสดง งานเทศกาลวัฒนธรรมไทย คิดเป็น 59.40%
อันดับ 3 เปิดหลักสูตรหรือวิชาเกี่ยวกับ Soft Power ไทย คิดเป็น 51.24%
นักศึกษาไทยควรมีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริม Soft Power ของประเทศ
อันดับ 1 เป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ คิดเป็น 64.18%
อันดับ 2 มีส่วนร่วมในงานวิจัยหรือโครงการด้าน Soft Power ร่วมกับมหาวิทยาลัย คิดเป็น 62.50%
อันดับ 3 เป็นนักสร้างสรรค์เนื้อหา (content creator) ที่เชื่อมโยงความเป็นไทยกับโลก คิดเป็น 58.33%
มหาวิทยาลัยไทยมีศักยภาพที่จะขับเคลื่อน Soft Power ให้เกิดผลกระทบในระดับนานาชาติหรือไม่
อันดับ 1 มีศักยภาพในบางสาขา แต่ยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม คิดเป็น 43.97%
อันดับ 2 มีศักยภาพและควรได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 29.08%
อันดับ 3 ศักยภาพยังไม่เพียงพอ ควรเน้นสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ คิดเป็น 20.66%
อันดับ 4 ยังไม่สามารถประเมินได้ คิดเป็น 6.29%
ประชาชนอยากเห็นความร่วมมือด้านใดมากที่สุดระหว่างมหาวิทยาลัยไทยกับต่างประเทศในการพัฒนา Soft Power
อันดับ 1 มีหลักสูตรความร่วมมือระดับนานาชาติ คิดเป็น 65.72%
อันดับ 2 ร่วมวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้าน Soft Power คิดเป็น 56.66%
อันดับ 3 ผลิตบุคลากรคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ คิดเป็น 54.53%
เรื่องที่เกี่ยวข้อง