โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

กัมพูชาแถลงต่อ UNSC ประเด็นไหน "ขัดแย้ง" กับความจริงของไทย

Amarin TV

เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา
Spotlight รวบรวมประเด็นแถลงของฝั่งกัมพูชาในห้องประชุม UNSC ที่นิวยอร์ค มีประเด็นสำคัญอะไรบ้างที่ขัดแย้งกับคำแถลงของทางการไทย

UNSC ปัดคำร้องกัมพูชา ไม่ถือเป็นภัยคุกคามสันติภาพ

การประชุมลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่เกิดขึ้นสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เวลาประมาณ 9.00 น. ของสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับกลางดึกเวลา 02.00 น.ของไทย หลังจากที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ส่งหนังสือร้องขอการประชุมฉุกเฉิน ซึ่งผลการประชุมออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่ประชุมซึ่งมีประเทศสมาชิก 15 ประเทศ รวมทั้งไทยและกัมพูชาเข้าร่วม ได้สรุปให้ ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจ และ แก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาสันติวิธี พร้อมสนับสนุนบทบาทของอาเซียนตามกฎบัตรอาเซียน โดยย้ำว่าสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ถือเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ จึงไม่มีการออกเอกสารหรือมติพิเศษจาก UNSC

กัมพูชาโจมตี ไทยใช้ F-16

ก่อนที่ผลการประชุมจะออกมาในรูปแบบนี้ กระทรวงต่างประเทศของไทยได้เปิดเผยเนื้อหาถ้อยแถลงทั้งหมด ที่กล่าวโดยนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ

แต่ในฝั่งของกัมพูชาไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาต่อสาธารณะ มีเพียงการแถลงข่าวของนายชุม สุนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ โดยเนื้อหาบางส่วน และการรายงานข่าวของสื่อหลักกัมพูชา ระบุไว้ดังนี้

คำแถลงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาต่อ UNSC: คำกล่าวสุนทรพจน์ของกัมพูชาใน UN เน้นย้ำการโจมตีอย่างหนักของไทยด้วยเครื่องบินขับไล่ F-16 และระเบิดพวง

นายชุม สุนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ระหว่างการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผู้แทนถาวรของกัมพูชาประจำนครนิวยอร์ก ซึ่งกล่าวต่อหน้าประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงการโจมตีขนาดใหญ่ของไทยต่อกัมพูชา โดยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 รถถัง ระเบิดพวง และอาวุธหนัก ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหายต่อแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม

“ผู้แทนถาวรของกัมพูชาได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการรุกรานครั้งใหญ่ของไทยในดินแดนกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมุ่งเป้าไปที่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทพระวิหาร พร้อมทั้งใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงเครื่องบิน F-16 และระเบิดพวง” นายสุนทรีกล่าว

กัมพูชายังเน้นย้ำถึงพลเรือนที่เสียชีวิตและความเสียหายของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมที่เกิดจากการโจมตีของไทย ในคำกล่าวสุนทรพจน์ กัมพูชาได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข รวมถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ

นอกจากนี้ เขายังอ้างถึงรายงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เผยแพร่ก่อนการประชุม ซึ่งระบุว่า

  • กัมพูชาได้ยื่นขอจัดการประชุมฉุกเฉินอย่างเป็นทางการก่อนที่ไทยจะตอบสนอง ในขณะที่ไทยไม่เคยร้องขอการประชุมดังกล่าว
  • นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ได้เสนอการหยุดยิง ซึ่งกัมพูชายอมรับ ไทยได้ตกลงในตอนแรก แต่กลับเปลี่ยนจุดยืนในภายหลัง

ชวนจับโป๊ะ อะไรบ้างไม่ตรงไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีความตึงเครียดขึ้น โดยมีเหตุการณ์ปะทะกันหลายครั้ง และทั้งสองฝ่ายมีประเด็นที่พูดไม่ตรงกันหลายจุด มีประเด็นสำคัญอะไรบ้างที่ไม่ตรงกัน

  • ใครคือตัวต้นเรื่อง

ฝ่ายไทย: เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 68 กองทัพบก โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาขุดคูเลตในพื้นที่อ้างสิทธิ์บริเวณช่องบก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการ ฝ่ายไทยได้จัดชุดประสานงานเพื่อไปเจรจาแต่กัมพูชาเริ่มใช้อาวุธ ทำให้ไทยต้องตอบโต้

ฝ่ายกัมพูชา: กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ โดยอ้างว่าไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนในสนามเพลาะ ซึ่งเป็นฐานทัพของกองทัพกัมพูชามาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย ขณะฮุน เซนเล่นใหญ่โพสต์สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะส่งทหารและอาวุธหนักไปที่ชายแดน

  • การอ้างสิทธิเหนือพื้นที่และแผนที่

ฝ่ายกัมพูชา: กัมพูชาอ้างอิงและยึดถือ แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 (หนึ่งต่อสองแสน) ที่จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมาธิการผสมระหว่างสยามและฝรั่งเศส เนื่องจากแผนที่นี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เคยใช้อ้างอิงในการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในปี พ.ศ. 2505 ในหลายพื้นที่พิพาท โดยเฉพาะบริเวณเขาพระวิหารและ “สามเหลี่ยมมรกต” มักจะล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ไทยเคยถือครอง ทำให้กัมพูชาได้เปรียบหากยึดตามแผนที่นี้

ฝ่ายไทย: โต้แย้งว่า แผนที่ปี พ.ศ. 2450 ซึ่งกัมพูชาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการอ้างสิทธิเหนือดินแดนนั้นไม่ถูกต้อง ไทยยืนยันและยึดถือ แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 (หนึ่งต่อห้าหมื่น) ซึ่งเป็นแผนที่ที่ละเอียดกว่า และจัดทำโดยกรมแผนที่ทหารของไทย ไทยโต้แย้งว่าแผนที่ 1:50,000 มีความแม่นยำสูงกว่าในการแสดงภูมิประเทศจริง โดยเฉพาะแนว สันปันน้ำ (watershed line) ซึ่งไทยเชื่อว่าเป็นหลักการที่ตกลงกันไว้ตามสนธิสัญญาในการปักปันเขตแดน

  • กับระเบิด ของใหม่หรือของเก่า?

ฝ่ายไทย: ฝ่ายไทยเชื่อว่าทุ่นระเบิดที่ตรวจพบและทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บนั้นเป็น ทุ่นระเบิดที่เพิ่งวางใหม่ และไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่หลงเหลือจากสงคราม โดยเฉพาะมีการระบุถึงทุ่นระเบิดประเภท PMN-2 อีกทั้งเส้นทางลาดตะเวนเป็นเส้นทางที่ทหารไทยต้องปฏิบัติการเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว จึงไม่ใช่ระเบิดที่หลงเหลือมาจากสงครามอย่างแน่นอน

ฝ่ายกัมพูชา: ทางการกัมพูชายืนยันว่าทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบนั้นเป็นทุ่นระเบิดเก่า ที่ยังคงตกค้างอยู่ในพื้นที่ชายแดนจากสงครามในอดีต และไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิดใหม่ตามที่ไทยกล่าวอ้าง นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าพื้นที่ชายแดนหลายร้อยกิโลเมตรในอาณาเขตของกัมพูชายังคงเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด

  • ต่างฝ่ายต่างยัน ไม่ได้เปิดฉากยิงก่อน

ฝ่ายไทย: ยืนยันอย่างหนักแน่นว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน ในทุกเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นวันที่ 24 กรกฎาคม 68 โดยทหารไทยได้มีจากส่งทีมเจรจาแจ้งว่าจะปิดปราสาทตาเมือนธมเพื่อความปลอดภัย แต่ทหารกัมพูชาเข้ามาประชิดลวดหนามที่กั้นพร้อมอาวุธ ก่อนจะเปิดฉากยิงทหารไทยในช่วงเช้า เป็นเหตุให้กองทัพไทยต้องโจมตีเพื่อป้องกันตนเอง

ฝ่ายกัมพูชา: แถลงว่ากองทัพไทยเปิดฉากโจมตี "โดยมีเจตนาและวางแผนล่วงหน้า" ตามแนวชายแดนกัมพูชาโดยการโจมตีดังกล่าวได้มุ่งเป้าไปยังพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่บริเวณปราสาทตาแกบและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งถือเป็น "การทำลายมรดกโลกโดยเจตนา"

  • กลไกแก้ปัญหา: เอะอะจะขึ้นศาลโลก

ฝ่ายกัมพูชา: ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ อีกครั้งเพื่อยุติข้อพิพาทเรื่องพรมแดน และขอให้ศาลโลกเป็นผู้ตัดสิน เนื่องจากกัมพูชาเคยได้รับชัยชนะในคดีปราสาทพระวิหารจากศาลโลกในปี พ.ศ. 2505 ทำให้เชื่อว่าการนำคดีขึ้นสู่ศาลโลกอีกครั้งอาจเป็นแนวทางที่ได้เปรียบ

ฝ่ายไทย: ได้ ปฏิเสธอำนาจศาล ในการพิจารณาคำร้องล่าสุดของกัมพูชา และยืนยันการใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล ประเทศไทยยืนยันมาโดยตลอดว่าจะใช้กลไกการเจรจาแบบทวิภาคี หรือการเจรจาแบบรัฐต่อรัฐโดยตรงเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาชายแดน ไทยมองว่าปัญหาเขตแดนเป็นเรื่องของอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งควรแก้ไขด้วยการเจรจาโดยตรงระหว่างคู่กรณี เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ยอมรับร่วมกันได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

นักข่าวเขมร โพสต์อ้าง คนไทยเรียกร้องให้สองประเทศหยุดยิง

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บทบาทใหม่ของ AI เมื่อแบรนด์ใช้สังเกตคน

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

ไทยแจ้งทรัมป์ เห็นชอบในหลักการหยุดยิง แต่อยากเห็นกัมพูชาตั้งใจจริง

กรุงเทพธุรกิจ

"ทรัมป์" โทรคุย "ฮุน มาเนต-ภูมิธรรม" ใช้ภาษีจี้ไทย-กัมพูชาหยุดยิง

Thai PBS

‘ทรัมป์’ ขู่ไทย-กัมพูชา หยุดยิง! ลั่นจะไม่เจรจาภาษีการค้า หากยังสู้รบกันอยู่

The Bangkok Insight

“ทรัมป์” คุยกัมพูชา-ไทย จะไม่เจรจาภาษีต่อถ้าไม่หยุดยิง

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

เขมรอ้าง ไทยโกหก ปัดยิงจรวดใส่ลาว พร้อมร่วมมือสอบสวน

MATICHON ONLINE

'ทรัมป์' โทรคุย 'ภูมิธรรม-ฮุน มาเนต' จะไม่เจรจาภาษีด้วย ถ้าไม่หยุดยิง

ฐานเศรษฐกิจ

ทรัมป์ต่อสายตรงรักษาการนายก ฯ ไทย ชี้เป็นการสนทนาที่ดี อาจเห็นสันติ4krเร็ว ๆ นี้

TNN ช่อง16

ทรัมป์ขอให้ผู้นำไทย-กัมพูชาหยุดยิง ขู่จะไม่ตกลงภาษีด้วย

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

"ทักษิณ" สวมเชิ๊ตเหลือง ลงพื้นที่อุบลฯ เข้าโรงครัวทำอาหารเมนูข้าวผัด

Amarin TV

"แพทองธาร" สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง-ราชินี ทรงห่วงใยกำลังพลราษฎร

Amarin TV

สื่อนานาชาติ เข้าใจไทยในยุทธวิธี ภารกิจ F-16 จำกัดวงเฉพาะพื้นที่ทหาร

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...