ทีมทรัมป์พิจารณาแผนเข้าถึงแร่หายากในเมียนมา หวังดึงออกห่างจากอิทธิพลจีน
ทีมของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กำลังพิจารณาข้อเสนอหลากหลายแนวทาง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐฯ ที่มีต่อเมียนมาในระดับเชิงลึก โดยมีเป้าหมายเพื่อเบี่ยงเบนทรัพยากรแร่หายากของเมียนมาออกจากจีนซึ่งเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ ทั้งนี้จากข้อมูลของแหล่งข่าววงใน 4 รายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจรจา
แม้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีอุปสรรคด้านโลจิสติกส์มากมาย หากแนวคิดเหล่านี้ถูกผลักดันจริง สหรัฐฯ อาจต้องเจรจากับกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ KIA (กองทัพเอกราชคะฉิ่น) ซึ่งควบคุมแหล่งแร่หายากในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
หนึ่งในข้อเสนอที่เสนอให้สหรัฐฯ เจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมาเพื่อให้เกิดข้อตกลงสันติภาพกับ KIA ขณะที่อีกข้อเสนอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ตัดขาดการติดต่อกับรัฐบาลทหาร และเจรจาโดยตรงกับกลุ่ม KIA แทน ปัจจุบันสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับผู้นำทหารเมียนมาหลังจากการรัฐประหารเมื่อปี 2021
ผู้เสนอแนวคิดนี้รวมถึงนักล็อบบี้ธุรกิจสหรัฐฯ ผู้เคยให้คำปรึกษากับอองซาน ซูจี และผู้เชี่ยวชาญภายนอก โดยมีการหารือผ่านช่องทางไม่เป็นทางการกับกลุ่ม KIA
ขณะที่แร่หายาก (Rare Earths) เป็นกลุ่มแร่โลหะ 17 ชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมแม่เหล็กขั้นสูง เช่น เครื่องบินรบและอาวุธความแม่นยำสูง ซึ่งสหรัฐฯ ผลิตได้น้อยมากและต้องพึ่งพาการนำเข้า โดยจีนควบคุมความสามารถในการแปรรูปแร่เหล่านี้มากถึง 90% ทั่วโลก ตามข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA)
แผนการใดๆ ที่จะประสานงานกับรัฐบาลทหารเมียนมาจะถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางนโยบายสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีการคว่ำบาตรผู้นำทหารเหล่านั้นจากกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา ซึ่งวอชิงตันระบุว่าเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
แม้เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลทรัมป์จะเพิ่งยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบุคคลบางรายที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหาร แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่านี่ไม่ใช่สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยรวมต่อเมียนมา
ข้อเสนอที่หารือยังรวมถึงการลดอัตราภาษี 40% ที่ทรัมป์ขู่จะใช้กับเมียนมา การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลทหาร และการร่วมมือกับอินเดียเพื่อแปรรูปแร่หายากบางส่วน ตลอดจนการแต่งตั้งทูตพิเศษเพื่อขับเคลื่อนแนวทางเหล่านี้
หนึ่งในวงหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ในสำนักงานของ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี โดยมี อดัม คาสติโย อดีตประธานหอการค้าอเมริกันในเมียนมาและผู้บริหารบริษัทความมั่นคง เข้าร่วมหารือกับที่ปรึกษาด้านเอเชียและการค้าของแวนซ์ แม้แวนซ์จะไม่ได้เข้าร่วมด้วยตนเองก็ตาม
ภาพ: Pavel Bednyakov / Pool via Reuters / File Photo, Ken Cedeno / REUTERS
อ้างอิง: