เมียนมายังคง ‘มองโลกในแง่ดี’ แม้โดนกำแพงภาษี 40% จากสหรัฐ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่า โฆษกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐและสันติภาพ เปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า เมียนมาเสนอที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐลงเหลือ 0-15% จากเดิมที่ 88% และคาดหวังว่า ภาษีที่สหรัฐกำหนดจะลดลงเหลือ 0-7%
อย่างไรก็ตาม ลักษณะและช่องทางการหารือระหว่างสหรัฐกับเมียนมายังคงไม่ชัดเจน เนื่องจากรัฐบาลวอชิงตันได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อเหล่าผู้นำทหาร และสมาชิกคณะรัฐมนตรีของเมียนมาเกือบทั้งหมด
เมื่อเดือนที่แล้ว พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในจดหมายฉบับหนึ่ง และเปรียบเทียบการรัฐประหารของกองทัพ กับข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือกตั้งของผู้นำสหรัฐ โดยอ้างว่า ผู้นำทั้งสองชาติเป็นเหยื่อของการทุจริตการเลือกตั้ง
นอกจากนั้น ในจดหมายฉบับดังกล่าว พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ขอให้สหรัฐลดอัตราภาษีศุลกากรต่อเมียนมา และเสนอส่งผู้แทนการค้าระดับสูงมาเยือนกรุงวอชิงตัน
อนึ่ง การค้าทวิภาคีระหว่างเมียนมากับสหรัฐค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยอยู่ที่ 588.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,095 ล้านบาท) ในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือน มี.ค. 2568 ซึ่งลดลงจากเมื่อปีก่อนหน้าที่ 701.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22,783 ล้านบาท) ขณะที่สหรัฐยังคงขาดดุลการค้าต่อเมียนมา.
เครดิตภาพ : AFP