มหัศจรรย์แกงไทย
“ขี่จรวด” พรวดมาอย่างนี้..
ก็..เป็นธรรมดาที่ผู้คนจะตั้งคำถาม-นินทา ว่า “ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์” ที่เพิ่งจะได้เป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์สมัยแรก ทำความชอบอะไรหนา..
ถึงได้ตำแหน่ง “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” มาเชยชม?
และบางคนช่างขุด-ช่างค้น จนไปเจอเอารูปของ ดร.ลิณธิภรณ์ที่ถ่ายคู่กับนายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยแบบแนบชิด แทบหัวชนกันมาให้ได้ดู-ได้เห็น
เมื่อประจักษ์ตา “ก็..อ๋อ มันเป็นพรรค์นี้เอง”บางคนว่า ซึ่งจะหมายความอย่างไร ผมก็ออกจะงงๆ อยู่ เพราะ “รูปคู่” ใกล้ชิดสนิทแนบแบบนี้..
คนดัง-ดารา เขา-เธอถ่ายกันเป็นปกติทั่วไป แต่ในใจจะคิดอะไรกันหรือเปล่านั้น ใครก็ไม่อาจจะหยั่งใจรู้ได้!
เหมือนกับเรื่องต่อไปนี้จะมีใครคิดเห็นประการใดไม่รู้ สำหรับผมต้องบอก..แพทองธาร ชินวัตร “ผีซ้ำกรรมซัด” โดยแท้!
ขออนุญาตลอกข่าวจาก “ผู้จัดการออนไลน์” ที่รายงาน (6 ก.ค.).. “สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า ดร.ผึ้ง สกุณา (Phoeurng Sackona) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ กัมพูชา
ได้ส่งหนังสือเตือนถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทย ให้ทำตามสัญญาที่จะส่งคืนโบราณวัตถุ 20 ชิ้นให้แก่กัมพูชา
หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชา อ้างว่า
ในระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่กรุงพนมเปญ
รัฐบาลของทั้งสองประเทศ (กัมพูชาและไทย) ได้ประกาศข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการส่งคืนโบราณวัตถุเขมร 20 ชิ้น ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าของชาวเขมรให้แก่กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชา ได้รับทราบด้วยความสนใจอย่างยิ่งต่อคำแถลงของ น.ส.แพทองธาร เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568
เกี่ยวกับการระงับการส่งคืนโบราณวัตถุเขมร 20 ชิ้น โดยอ้างถึงการขาดงบประมาณในการขนส่ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่เหมาะสมและยอมรับไม่ได้
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังระบุด้วยว่า กลุ่มงานด้านเทคนิคของทั้งสองกระทรวงได้ตกลงกันเรื่องวันและขั้นตอนการส่งมอบอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยพิธีส่งมอบจะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนกรกฎาคม 2568 และการขนส่งจากประเทศไทยไปกัมพูชาจะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม 2568
โดยกัมพูชาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งทั้งหมด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาระงบประมาณของกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย
ในเรื่องนี้ ดร.ผึ้ง สกุณา ได้ขอให้กระทรวงวัฒนธรรมของไทยดำเนินการตามข้อตกลงและกรอบเวลาที่กำหนดไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าเพิ่มเติม
ฝ่ายกัมพูชาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งกลับทั้งหมด”
เอ้า..พรรค์นี้เอง ไปตกลง-สัญญิงสัญญากับเขมรเอาไว้ตั้งแต่เมษา. แล้วแพทองธารจะเล่นแง่-ยึกยักไปทำไม? สัจจะน่ะไม่ได้มีแต่สุภาพบุรุษหรอก สตรีเพศก็ต้องมี
ยิ่งเป็น “ผู้นำประเทศ” ด้วยแล้ว การอ้าง “ขาดงบประมาณในการขนส่ง” มันคล้ายเด็กเล่นขายของ-ไม่ดี ประเทศจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ผู้นำจักต้อง..คำไหน-คำนั้น!
จะต้องเหนียม ต้องอาย ต้องกลัวโดนประณามด่าอยู่อีกทำไม ในเมื่อก็รู้ๆ.. “อังเคิลอยากได้อะไรให้บอกมา” ถูกแฉ-ประจาน เปลือยล่อนจ้อนหมดแล้ว
อีกอย่าง ในเมื่อ “โบราณวัตถุ” พิสูจน์แล้วไม่ใช่ของเรา ก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้หาพระแสงของ้าวอะไร ถ้าจะเล่นแง่ก็ต้อง.. “ประสาทตาเมือนธม” นู้น!
และเล่นแง่ไม่พอ ต้อง “เล่นแรง” ด้วย จะปล่อยให้เขมรจ้องเคลมหน้าด้านๆ ไม่ได้ หรือหากในคลิปนั้นยังมีบทสนทนาอื่นที่ร้ายแรงกว่า กลัวจนตัวสั่น..
ก็..ช่วยทำตามที่ประชาชนขับไล่ไสส่ง.. “ลาออกไปเสีย” เพื่อผู้อื่นที่เขามีความรู้ ความปรีชาสามารถ ความเข้มแข็ง เด็ดขาด และที่สำคัญ..
มี “สมอง” เข้ามาเป็นผู้นำประเทศชาติต่อไป!
ครับ..ไหนๆ ก็พูดถึงกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว ขอแถมนิด ด้วยวานนี้ได้เดินเข้าไปในงาน “อร่อยทั่วไทย มหัศจรรย์แกงไทย มรดกแห่งวัฒนธรรม” ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
ตั้งใจ..จะไปสัมผัสและลิ้มชิมรสชาติ “แกงไทยโบราณหากินยาก” ที่กระทรวงฯ และเอกชนได้จัดขึ้น นัยว่าเพื่อขานรับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์รัฐบาล
ซึ่งเท่าที่ได้ซื้อติดไม้-ติดมือกลับมาก็ต้องบอกว่า “ไม่ผิดหวัง” กับรสชาติของอาหารทั้ง 4 ภาค แต่แทนที่จะได้ “มหัศจรรย์แกงไทย” กลับให้รู้สึก “มหัศจรรย์ใจ”..
ทำไม“ร้านแกง” โหรงเหรงจัง?.
สันต์ สะตอแมน