เริ่มลงทุน ใครว่ายาก! เปิด 4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุน ระวังประโยคเสี่ยง “การันตีผลตอบแทน”
ในยุคที่รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน การเก็บเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป “การวางแผนการลงทุน” จึงกลายเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ผู้ประกอบการ หรือคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างฐานะ การลงทุนอย่างมีระบบ ไม่เพียงช่วยให้เงินงอกเงย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย
ในงาน Thairath Money Roadshow 2025 กรุงเทพฯ เวิร์กช็อปในหัวข้อ “วิธีการวางแผนการลงทุน” โดย “กาญจนา อ๊อดทรัพย์” นักวางแผนการลงทุน จากสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าใจหลักการลงทุนขั้นพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง โดยมีการให้คำปรึกษาแบบเจาะลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินตัวจริงภายในงานอีกด้วย
หนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ถูกพูดถึงบนเวที คือ “สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มลงทุน” ซึ่ง กาญจนา ได้อธิบายหลักคิดไว้อย่างชัดเจน โดยเน้นย้ำว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว และสามารถเริ่มได้แม้มีเงินไม่มาก หากมีเป้าหมายที่ชัดเจน และเข้าใจสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุน 4 ข้อสำคัญนี้
4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุน
1.เป้าหมายการลงทุน
การลงทุนที่ดีควรเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น ต้องการเกษียณตอนอายุ 60 ปี ต้องการมีเงินเก็บ 3 ล้านบาทในอีก 20 ปี หรืออยากใช้เงินก้อนในอีก 5 ปีเพื่อดาวน์บ้าน การมี “ตัวเลข” และ “กรอบเวลา” ที่ชัดเจนจะทำให้สามารถวางแผนอย่างเป็นระบบ และคำนวณต่อได้
2.ความเสี่ยงในการลงทุน
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ใด ๆ ก็ตาม เช่น อสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวม หุ้น ฯลฯ ซึ่งความเสี่ยงในที่นี้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
- ความเสี่ยงที่ “ตัวเรา” สามารถยอมรับได้ เช่น บางคนอาจรับความผันผวนของราคาหุ้นได้มาก หรือบางคนต้องการความมั่นคง
- ความเสี่ยงของ “สินทรัพย์” ที่เราเลิกจะลงทุน เช่น หุ้นมีโอกาสเติบโตสูง แต่ก็ผันผวนสูงเช่นกัน แต่ในขณะที่พันธบัตรหรือเงินฝากมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนก็ต่ำตาม การประเมินความเสี่ยงสามารถใช้เครื่องมือจำลอง เช่น แบบสอบถาม หรืองานเวิร์กช็อปจำลองการตัดสินใจทางการเงิน
3.ผลตอบแทนของสินทรัพย์นั้น ๆ
การลงทุนแต่ละแบบให้ผลตอบแทนต่างกัน เช่น หุ้นปันผลอาจให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 - 7% ต่อปี ขณะที่เงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 0.5 - 1%
สิ่งสำคัญคือ ไม่มีการลงทุนใด “การันตีผลตอบแทน” ได้แน่นอน หากมีการชวนลงทุนที่ระบุว่าให้ผลตอบแทนสูงโดยไม่มีความเสี่ยง เช่น 10% ต่อปีตลอดเวลา ควรตั้งข้อสงสัยทันทีว่าอาจเป็นการหลอกลวง
4.สภาพคล่องของสินทรัพย์ที่เราจะลงทุน
สภาพคล่องหมายถึงความสามารถในการเปลี่ยนสินทรัพย์กลับมาเป็นเงินสด เช่น หุ้นขายได้ทันที แต่ที่ดินอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน เราควรเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับสภาพคล่องที่เราต้องการ เช่น หากต้องใช้เงินภายใน 1 ปี อาจไม่ควรลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ขายออกได้ยาก
" เมื่อเราเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้แล้ว คำถามสำคัญถัดมาคือ “แล้วเราจะเริ่มลงทุนอย่างไร?” การมีแค่ความรู้ไม่เพียงพอ หากไม่มีแผนที่ชัดเจน การสร้าง “พอร์ตการลงทุน” ที่เหมาะกับตัวเองจึงเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม"
5 วิธีสร้างพอร์ตการลงทุน ฉบับพื้นฐาน
“กาญจนา” ยังได้แนะนำวิธีสร้างพอร์ตการลงทุนอย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มจากการตั้งเป้าหมาย และนำข้อมูลส่วนบุคคลมาคำนวณวางแผนต่อ
1.ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
ระบุให้ชัดว่าเป้าหมายคืออะไร ต้องใช้เงินเท่าไหร่ และเมื่อไหร่เราจะใช้ เช่น “อยากเกษียณในอีก 25 ปี และต้องมีเงินอย่างน้อย 5 ล้านบาท”
2.ประเมินเงินต้นและกระแสเงินสด
ตรวจสอบว่าเรามีเงินเก็บอยู่เท่าไหร่ และสามารถออมเพิ่มได้เดือนละกี่บาท เช่น มีเงินเก็บเริ่มต้น 100,000 บาท และออมได้เดือนละ 5,000 บาท
3.วิเคราะห์ผลตอบแทนที่ต้องการ
คำนวณดูว่า จากเงินต้นและการออมรายเดือน ต้องการผลตอบแทนเฉลี่ยกี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะไปถึงเป้าหมาย เช่น 5% ต่อปี หรือ 7% ต่อปี
4.เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสม และจัดสัดส่วนให้เหมาะกับความเสี่ยงที่เรารับได้
ถ้ารับความเสี่ยงได้สูง อาจเลือกลงทุนในหุ้น 70% และพันธบัตร 30% แต่ถ้ารับความเสี่ยงต่ำ อาจเน้นกองทุนรวมแบบผสม หรือเน้นเงินฝาก นอกจากนี้การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเสี่ยงของพอร์ต
5.ปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
พอร์ตการลงทุนไม่ใช่สิ่งตายตัว เมื่อเป้าหมายเปลี่ยน หรือสภาวะตลาดเปลี่ยน ควรกลับมาทบทวนและปรับพอร์ตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
“การที่เราจะลงทุนในอะไรสักอย่าง คำถามสำคัญที่สุดก็คือ ถ้าลงทุนในสิ่งนั้นแล้ว เราจะสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจไหม” ประโยคนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนแก่นของการวางแผนการเงินได้ดีที่สุด เพราะเป้าหมายของการลงทุน ไม่ได้มีแค่ผลตอบแทน แต่คือความมั่นใจและความสบายใจในอนาคตทางการเงินของเราเอง
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เริ่มลงทุน ใครว่ายาก! เปิด 4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุน ระวังประโยคเสี่ยง “การันตีผลตอบแทน”
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- เริ่มลงทุน ใครว่ายาก! เปิด 4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุน ระวังประโยคเสี่ยง “การันตีผลตอบแทน”
- 7 วิธีคิด ที่คนรวยทำซ้ำทุกวัน แต่คนทั่วไปมักมองข้าม เมื่อ “ความมั่งคั่ง” ไม่ใช่โชคช่วย
- “ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath