“ดาวโจนส์” ปิดบวก 404 จุด ลุ้นเฟดหั่นดอกเบี้ย – คลายกังวล “ตะวันออกกลาง”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.68) นำโดยดัชนีดาวโจนส์ที่พุ่งกว่า 400 จุด นักลงทุนตอบรับข่าวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ก่อนกำหนด เพิ่มความคาดหวังต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังแข็งแกร่งต่อเนื่อง สร้างแรงหนุนสำคัญให้กับตลาด
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 43,386.84 จุด เพิ่มขึ้น 404.41 จุด หรือ +0.94%
- ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,141.02 จุด เพิ่มขึ้น 48.86 จุด หรือ +0.80%
- ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 20,167.91 จุด เพิ่มขึ้น 194.36 จุด หรือ +0.97%
เอพี รายงานว่า หุ้นเด่นที่หนุนตลาดในรอบนี้ ได้แก่ Nvidia, Super Micro, Meta, Amazon และ JPMorgan Chase โดยเฉพาะ Nvidia ที่พุ่งขึ้นแล้วกว่า 61% ตั้งแต่ต้นเมษายน จากแรงหนุนการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่ JPMorgan มีแนวโน้มแตะมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) เกิน 8 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
The Wall Street Journal รายงานว่า ทรัมป์อาจประกาศชื่อผู้ที่จะมาเป็นประธานเฟดยุคใหม่ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ร่วงนี้ แม้จะไม่เข้ารับตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026 สิ่งนี้สะท้อนโดยดัชนี WSJ Dollar Index ร่วงลง 1.6% ในสัปดาห์นี้ และในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีแตะระดับต่ำสุดที่ 94.16 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023)
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ดอลลาร์อ่อนโดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อที่ว่าเฟดอาจ ลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ค่าคาดการณ์ปรับขึ้นเป็น 25% จาก 12.5% สัปดาห์ก่อน ตามข้อมูลจาก CME
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 4.24% สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดที่เริ่มกลับมา หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงและแนวโน้มเฟดเปลี่ยนท่าที
นอกจากนี้ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางคลี่คลายลง โดยการหยุดยิง (cease-fire) ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์และทองคำ