ขุนคลังเยอรมันเรียกร้อง EU ตอบโต้ หากเจรจาภาษีสหรัฐฯ ล้มเหลว
หนังสือพิมพ์ Sueddeutsche Zeitung ของเยอรมนีรายงานว่า ลาร์ส คลิงเบล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนี เปิดเผยในวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) ว่า สหภาพยุโรป (EU) ต้องดำเนินการอย่างจริงจังกับสหรัฐฯ หากการเจรจาภาษีศุลกากรไม่ประสบความสำเร็จในการผ่อนคลายความตึงเครียดของการค้าโลกที่กำลังร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้อยแถลงดังกล่าวของคลิงเบลมีขึ้น เพื่อตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (12 ก.ค.) ที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 30% จาก EU ในวันที่ 1 ส.ค. หลังยังบรรลุข้อตกลงไม่ได้จนถึงตอนนี้
คลิงเบลกล่าวว่า "ภาษีของทรัมป์จะทำให้มีแต่ผู้แพ้เท่านั้น ภาษีเหล่านั้นคุกคามเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากพอ ๆ กับที่กระทบธุรกิจต่าง ๆ ในยุโรป" พร้อมเรียกร้องให้ยุติความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังร้อนระอุนี้ โดย EU "ไม่ต้องการคำขู่หรือการยั่วยุครั้งใหม่" แต่เป็น "ข้อตกลงที่ยุติธรรม"
นอกจากนี้ คลิงเบลยังเตือนอีกว่า เยอรมนีจะไม่อยู่เฉยหากการเจรจาล้มเหลว โดยกล่าวว่า "หากทางออกที่ยุติธรรมไม่สามารถบรรลุได้ เราจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ขั้นเด็ดขาดเพื่อปกป้องงานและธุรกิจในยุโรป" และเสริมว่า การเตรียมการได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว "เราพร้อมจะให้ความร่วมมือ แต่คงไม่เห็นด้วยกับทุกเรื่อง"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยในปี 2567 เยอรมนีส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 1.61 แสนล้านยูโร (1.88 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเกินดุลการค้าเกือบ 7.0 หมื่นล้านยูโร
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์