โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กองทัพบกยกระดับรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบการบินสอดแนม

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยออกประกาศเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ห้ามบินหรือบังคับโดรนทุกชนิดในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยล่าสุด กองทัพบกได้ยกระดับมาตรการรับมือกับภัยคุกคามจากโดรนอย่างเป็นระบบ หลังพบความพยายามในการบินตรวจการณ์ในพื้นที่ทางทหาร

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1-4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1-4 ดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เช่น จังหวัด ตำรวจ และภาคเอกชน

พร้อมจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วที่ประกอบด้วยกำลังจากพลเรือน ตำรวจ และสารวัตรทหาร เพื่อสกัดกั้นและจับกุมผู้ที่บังคับโดรนไม่ทราบฝ่าย นอกจากนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดจะมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคจะทำหน้าที่ควบคุมและวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านโดรนไม่ทราบฝ่าย

สำหรับแนวทางการใช้อาวุธเพื่อตอบโต้โดรนได้ถูกแบ่งออกเป็นหลายกรณีอย่างชัดเจน กรณีที่มีการใช้อาวุธก่อน หรือพบว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตกำลังพลและประชาชน รวมถึงอธิปไตยของชาติ หน่วยทหารตามแนวชายแดนสามารถใช้อาวุธเพื่อตอบโต้ได้ทันที

ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และ 2 จะใช้มาตรการ Soft Kill และ Hard Kill ได้ในพื้นที่แนวหน้า ส่วนในพื้นที่ส่วนหลัง ให้ใช้มาตรการ Soft Kill ก่อน และหากจำเป็นจึงจะใช้ Hard Kill ซึ่งต้องเป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูงและไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน

ขณะที่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 และ 4 ให้เน้นใช้มาตรการ Soft Kill ก่อนเป็นหลัก การใช้อาวุธเป็นความรับผิดชอบหลักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหน่วยทหารจะใช้อาวุธได้ในขอบเขตที่ตั้งของหน่วยเท่านั้น และต้องเป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูงเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) และสามารถทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที

อีกทั้งยังออกประกาศเป็น 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ จีน และกัมพูชา โดยมีใจความสำคัญในการห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานไร้นักบินโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำที่เป็นภัยคุกคาม เช่น การบินสอดแนมเหนือพื้นที่ทางทหารหรือพื้นที่ความมั่นคง การบันทึกภาพ เสียง หรือสัญญาณเพื่อส่งให้ต่างชาติ รวมถึงการดัดแปลงและติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถือว่าเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่ออธิปไตยของชาติ และมีบทลงโทษที่รุนแรงถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตได้

กองทัพบกยังได้ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการบังคับโดรนที่อาจฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนความมั่นคง 1374 ตลอด 24 ชั่วโมง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กรมพัฒน์ฯ จับมือ ราชทัณฑ์ ปั้นผู้ทดสอบฯ ช่างไฟฟ้า สร้างอาชีพให้ผู้ก้าวพลาด

18 นาทีที่แล้ว

ชง “นครปฐมโมเดล" คิกออฟโครงการลดโรค NCDs ใน 313 โรงเรียน

29 นาทีที่แล้ว

ประมวลภาพการทำลายจรวด BM-21 กลางถนนสายบ้านน้ำเย็น–บ้านผือ ศรีสะเกษ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จิตอาสาแพทย์แผนไทยผลิตยาหม่อง 1,500 กระปุก ส่งทหาร-ผู้ประสบภัย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ลงพื้นที่เอง ทูตจีน เยี่ยมผู้อพยพเขมร บริจาคเงินช่วยเหลือ 3.2 ล้านบาท

มุมข่าว

“จตุพร” หวังเห็น “ทักษิณ” ขึ้นศาลฎีกา 9 ก.ย.นี้ – กล่าวสั้น ๆ “ขอให้โชคดี”

THE ROOM 44 CHANNEL

'จตุพร' รอศาลรธน.นัดวินิจฉัย คลิปเสียงฮุนเซน ค่อยกำหนดท่าทีชุมนุมทำเนียบ

กรุงเทพธุรกิจ

กห.ยืนยัน สหรัฐฯ-จีน ร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา

Thai PBS

พรรคส้มร้องจ๊าก! โร่แจงข่าวปลอม ‘เท้ง’ ประณามรพ.ไม่รักษาคนกัมพูชา

ไทยโพสต์

ทวี ลงพื้นที่ปัตตานี มอบนโยบาย รพ.ธัญญารักษ์ มุ่งบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม