อนาคตหุ้นไทยบน 3 ทางเลือกการเมือง แนะจับตาจังหวะเข้าซื้อช่วงเดือนสิงหาฯ"
นักวิเคราะห์ มองทิศทางตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังยังคาดเดายาก ชี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ "การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง" ที่อาจเกิดขึ้นได้ 3 รูปแบบ (ยุบสภา-รัฐประหาร-ลาออก) แนะกลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ "รอ" ดูสถานการณ์ในอีก 2 เดือนข้างหน้า (ก.ค.-ส.ค.) ให้จับตา 2 ปัจจัยสำคัญ คือ การผ่านร่างงบประมาณปี 69 และผลการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ที่อาจฉุด SET หลุด 1,000 จุดได้
คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัดให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE ถึงมุมมองการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ว่า เป็นช่วงที่คาดการณ์ได้ยากมาก แต่เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดและเศรษฐกิจ
การเมือง กำหนดทิศทางหุ้นไทย
คุณประกิตได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสถานการณ์การเมืองออกเป็น 3 เรื่องหลัก ดังนี้
ลาออก: มีความเป็นไปได้น้อยที่สุด เพราะเปรียบเสมือนการยอมแพ้ทางการเมืองและสูญเสียอำนาจถาวร
ยุบสภา: เป็นฉากทัศน์ที่มีความเป็นไปได้สูง แต่แบ่งเป็น 2 กรณี
กรณีเลวร้ายที่สุด (ยุบสภาก่อนงบประมาณปี 69 ผ่าน): หากเกิดการยุบสภาก่อนเดือนสิงหาคม จะทำให้งบประมาณปี 2569 ต้องล่าช้าออกไป เกิดสุญญากาศทางการคลังนานเกือบ 10 เดือน ฉุด GDP ปีนี้ให้โตต่ำกว่า 1% และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงปีหน้า ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงอย่างรุนแรง
กรณีดีที่สุด (ยุบสภาหลังงบประมาณปี 69 ผ่าน): หากรัฐบาลยื้อเวลาจนงบประมาณผ่านสภาในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนได้สำเร็จ แล้วจึงประกาศยุบสภา จะเป็นผลดีต่อตลาดทุน และมีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงปลายปี
รัฐประหาร: อาจเกิดขึ้นหากสถานการณ์การเมืองร้อนแรงจากการชุมนุมที่ยกระดับขึ้น แม้งบประมาณจะผ่านไปแล้วก็ตาม ในกรณีนี้ "ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงหนักก่อนเกิดเหตุการณ์" แต่หลังจากเกิดรัฐประหารแล้วอาจจะหยุดลงหรือฟื้นตัวขึ้นได้ เพราะถือว่าความเสี่ยงสิ้นสุดลงแล้ว
กลยุทธ์ลงทุน: "รอ" คือคำตอบที่ดีที่สุด
จากความไม่แน่นอนดังกล่าว คุณประกิตแนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจนสำหรับ 2 เดือนข้างหน้า (กรกฎาคม-สิงหาคม) ว่า "ควรรอดูสถานการณ์ไปก่อน (Wait and See)" เพื่อประเมินว่าทิศทางการเมืองจะออกมาในรูปแบบใด
ความเสี่ยงใหม่: ภาษีสหรัฐฯ อาจฉุด SET หลุด 1,000 จุด
นอกเหนือจากปัจจัยการเมืองในประเทศ คุณประกิตยังเตือนถึงความเสี่ยงภายนอกที่สำคัญและใกล้เข้ามา คือ การเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในอีกไม่เกิน 10 วันข้างหน้า โดยมีแนวโน้มว่าไทยอาจไม่ได้อัตราภาษีที่ดี และอาจถูกเสนออัตราที่ 15-18%
"หากข่าวนี้ออกมาเป็นจริง จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวม และมีความเป็นไปได้สูงที่ SET Index จะปรับตัว หลุดระดับ 1,000 จุด"
หุ้นเด่นน่าจับตา…เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและถึงจังหวะที่เหมาะสม คุณประกิตแนะนำกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้
กลุ่มปลอดภัย (Safe Haven): หุ้นกลุ่มสื่อสาร (ADVANC) และโรงไฟฟ้า (GULF)
กลุ่มพลังงาน: PTT, PTTEP, BCP เพื่อลุ้นราคาน้ำมันฟื้นตัว
กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT): เป็นกลุ่มที่น่าสนใจมาก แต่ "ควรเข้าซื้อในช่วงเดือนสิงหาคม" เพื่อรอรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ ไม่ควรเข้าซื้อตอนนี้เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะเข้าสู่ช่วง Low Season
ฟันด์โฟลว์ยังไม่มา-แนะมองหาโอกาสใน "หุ้นยุโรป"
คุณประกิตมองว่ากระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ยังไม่มีวี่แววจะกลับเข้ามาในเร็วๆ นี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยอยู่นอกสายตา (Out of Radar) โดยมีน้ำหนักการลงทุนใน MSCI EM ต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กองทุน Thai ESG ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเม็ดเงินใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หุ้นไทยวันนี้ 27 มิถุนายน 2568 ปิดร่วงแรง 24.31 จุด ตลาดกังวลการเมืองในประเทศ
- "หยวนต้า" ชี้ SET ไม่หลุด 1,000 จุด แนะ 3 ปัจจัยหนุนตลาดฟื้นครึ่งปีหลัง
- หุ้นไทยวันนี้ 26 มิถุนายน 2568 ลดลง 0.96 จุด รอลุ้น GDP สหรัฐฯ
- หุ้นไทยวันนี้ 25 มิถุนายน 2568 บวก 7.68 จุด รับสัญญาณบวกจากกนง.
- หุ้นไทยวันนี้ 24 มิถุนายน 2568 ปิดพุ่ง 37.23 จุด ตอบรับตะวันออกกลางสงบศึก