เริ่ม 1 ส.ค. “รฟม.” เปิดขายบัตร “Mangmoom EMV” ลงทะเบียนรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทได้
นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้โครงการบัตรอิเล็กทรอนิกส์ร่วมธุรกิจ (EMV Contactless) จัดทำบัตร Mangmoom EMV เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า และเพิ่มทางเลือกในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว โดยสามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ทุกสายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ รฟม. ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง และรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู รวมทั้งยังสามารถใช้กับระบบขนส่งอื่นๆ และร้านค้าที่รองรับการชำระเงินผ่านระบบ EMV Contactless
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิตามโครงการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายได้อีกด้วย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยบัตร Mangmoom EMV มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ บัตรบุคคลทั่วไป บัตรผู้สูงอายุ และบัตรนักเรียนนักศึกษา ซึ่งผู้ถือบัตรยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากส่วนลดค่าโดยสารตามหลักเกณฑ์ที่ รฟม. กำหนด ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถซื้อบัตรดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ที่ห้องออกบัตรโดยสารภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ทั้ง 16 สถานี โดยมีราคาจำหน่ายช่วงโปรโมชั่น วันที่ 1 ส.ค.-31 ต.ค. 2568 เพียงใบละ 150 บาท (ค่าธรรมเนียมออกบัตร 50 บาท และมูลค่าในบัตร 100 บาท) จากราคาปกติ 250 บาท (ค่าธรรมเนียมออกบัตร 150 บาท และมูลค่าในบัตร 100 บาท) และยังสามารถสมัครและออกบัตรได้ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” มีค่าธรรมเนียมรวม 92 บาท (ค่าธรรมเนียมออกบัตร 50 บาท และค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ 42 บาท) สำหรับบัตรทุกประเภท ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
นายกาจผจญ กล่าวต่อว่า ผู้ถือบัตร Mangmoom EMV สามารถเติมเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือผ่านการสแกน QR Code ที่อยู่ด้านหลังบัตร รวมถึงยังสามารถดูประวัติรายการใช้จ่าย และแจ้งระงับการใช้งานกรณีบัตรสูญหาย ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย นอกจากนี้ บัตร Mangmoom EMV ยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือบัตรสามารถรับสิทธิพิเศษจากแคมเปญ “ติ๊ดได้…ไม่มีติด” ของธนาคารกรุงไทย และสิทธิประโยชน์จากพาร์ทเนอร์ชั้นนำ อาทิ Lazada, Shopee, GrabFood, LINE MAN และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่เชื่อมต่อการเดินทางและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไว้อย่างไร้รอยต่อ.