โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ไปต่อไม่รอแล้ว! ‘มาริษ’ ลั่นไทยลุยเก็บกู้ทุ่นระเบิดเอง หลัง ‘กัมพูชา’ ปัดร่วมมือแก้ปัญหา

เดลินิวส์

อัพเดต 16 สิงหาคม 2568 เวลา 22.28 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
กต.-ทบ. พาคณะทูต-องค์กรระหว่างประเทศ บรรยายสรุป ชี้กัมพูชาดื้อใช้ทุ่นระเบิด 'มาริษ' ลั่นไทยลุยเก็บกู้ทุ่นระเบิดเอง ประสานประชาคมโลกกดดันกัมพูชามาแก้ปัญหาด้วย เหตุทำทหาร-ชาวบ้านในพื้นที่บาดเจ็บขาขาด

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. เวลา 12.00 น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะกระทรวงการต่างประเทศ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย คณะผู้แทนจากกองทัพบก นำคณะทูตต่างประเทศ ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงคณะสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีนายมาริษ และนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวิสาร และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เป็นผู้บรรยายสรุป

อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะเดินทางมาถึง นายมาริษได้ทักทายพูดคุยกับชาวบ้าน 6 คน ที่ได้รับผลกระทบจากทุนระเบิด ซึ่งเป็นเกษตรกร โดยทางคณะทูตได้เข้ามาร่วมพูดคุยสอบถามข้อมูลและสาเหตุที่ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ส่วนใหญ่เป็นผู้พิการขาขาดและต้องใส่ขา และยังพบว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ นายมาริษได้พยายามอธิบายถึงปัญหาทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ที่มีปัญหามายาวนานกับคณะทูต และยังกล่าวอีกว่า หวังว่าทางกัมพูชาจะให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุนระเบิด ก่อนที่นายมาริษจะกล่าวแสดงความเสียใจกับชาวบ้านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแล เพื่อไม่ให้ทุ่นระเบิดเป็นปัญหาอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทุ่นระเบิดเก่า หรือทุ่นระเบิดใหม่ ตนจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น และจะไม่ยอมให้มีผลกระทบกับประชาชน

จากนั้น นายมาริษได้นำคณะทูตรับฟังการบรรยาย โดยกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ครั้งนี้คือการสังเกตการณ์ และรับทราบข้อมูลจากผลกระทบของการมีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่อยู่ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตย และบูรณภาพในดินแดน การที่เราได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนี้มี 2 เรื่อง คือ ทางไทยถูกละเมิดอำนาจอธิปไตย และบูรณภาพในดินแดน และคือการที่กัมพูชาละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ

นายมาริษ กล่าวอีกว่า ตนเองขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ ที่อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ วันนี้นำทูต เจ้าหน้าที่ จากสถานทูตมารับฟังการชี้แจง และเห็นหลักฐานในเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชา มีผลกระทบขนาดไหนกับประเทศไทย ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ตนเองพยายามเรียกร้องมาตลอดกับกัมพูชาว่าเราต้องการเห็นความจริงใจ และร่วมมือกันเก็บกู้ระเบิด ตั้งแต่ในการประชุม GBC ที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เราอยากให้ยอมรับทั้งสองประเทศ แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ

นายมาริษ ยังกล่าวถึงตอนที่ตนเองเดินทางไปประชุมลุ่มน้ำโขงล้านช้าง ซึ่งในช่วงการประชุมตนเองได้ยกตัวอย่างปัญหาเรื่องทุ่นระเบิดพูด ที่ทางจีนเป็นเจ้าภาพ โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบมาก ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ และเกิดขึ้นแล้วถึง 5 ครั้ง ทางจีนก็เห็นด้วย และช่วงที่ตนเองพบกับประเทศต่าง ๆ ในการหารือทวิภาคี ก็เห็นด้วย โดยเฉพาะจีนที่ได้เสนอให้ความช่วยเหลือมาทางฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะเทคโนโลยี แต่ทั้งหมดนี้ ก็ยังมีปัญหาเล็กน้อยคือกัมพูชา ยังไม่จริงใจที่จะเก็บกู้ ตนเองได้ชี้แจงให้ทุกประเทศ และตระหนักว่า แม้กัมพูชาจะยังไม่พร้อม แต่ไทยจะไม่ยอมแล้ว สิ่งที่กัมพูชาบอกว่าเป็นระเบิดเก่านั้น จะเก่า จะใหม่ ตนเองไม่ได้สนใจ จากภาพจะเห็นเหยื่อที่ได้รับผลกระทบมากว่า 30 ปีแล้ว ทุกภาคส่วนมีการเรียกร้องให้เก็บกู้ทุ่นระเบิด ทั้งเก่าทั้งใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เป็นไปตามข้อตกลงตามอนุสัญญาออตตาวา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ต้องมองข้ามอุปสรรคใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะปัญหาจากทุ่นระเบิด เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนโดยแท้ ไทยเคารพในกฎหมายระหว่างประเทศ เราไม่ต้องการให้มีทุ่นระเบิดอยู่ในไทย ต้องขอบคุณกองทัพที่ให้ข้อมูลว่าได้ทำลายระเบิดส่วนนี้มาตลอด และไม่มีอยู่ในคลังของเราแล้ว ซึ่งเป็นระเบิดที่ทำลายชีวิตมนุษย์ และระเบิดชนิดนี้ที่พบ เป็นระเบิดที่ทำมากจากพลาสติก

หลังจากวันนี้ ตนเองจะเรียกร้องให้กับประชาคมโลกและประเทศรัฐภาคีในอนุสัญญาออตตาวา เพื่อกดดันกัมพูชาให้มาร่วมมือกับไทย ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยไทยมี TMAC พร้อมร่วมมือกับทุกประเทศทั่วโลก พร้อมทำเพื่อมนุษยธรรม

แม้สถานการณ์ชายแดนจะมีการหยุดยิง จะมีการประชุม GBC และ RBC ในอนาคต เราหวังว่าการแก้ปัญหาและข้อตกลงหยุดยิงจะได้พูดกันมากขึ้น พูดถึงความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และไทยยังคงกังวลเรื่องสงครามข่าวสารในการตอบโต้ จึงอยากเรียกร้องให้มิตรประเทศทุกประเทศ ช่วยกันผลักดันให้กัมพูชาที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ เฟคนิวส์ เพื่อให้บรรยากาศในการสร้างสันติภาพเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของทั้งสองประเทศ และเพื่อประโยชน์ตามแนวชายแดน

จากนั้นได้มีการเปิดวีดิทัศน์ของทางจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปไทม์ไลน์สถานการณ์เหตุปะทะ และการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงสภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2568 มีประชาชนชาวศรีสะเกษที่ได้รับผลกระทบ กว่า 260,000 ครัวเรือน รวมกว่า 780,000 คน มีพลเรือนเสียขีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 19 ราย และยังมีกระสุนอีกจำนวนมากตกใส่บ้านเรือนประชาชน โรงเรียน ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ อีกทั้ง สัตว์เลี้ยงของประชาชนต้องล้มตาย แม้เสียงระเบิดจะสงบลงแล้ว แต่ยังพบจรวด BM-21 และกระสุนปืนใหญ่ รวม 58 นัด กระจายครอบคลุม 45 พื้นที่ ซึ่งตรวจสอบแล้ว 35 จุด ยังเหลืออีก 10 จุด ที่ยังไม่ปลอดภัย และอีก 2 จุด รอการเก็บกู้ทำลาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียซ้ำรอย

ต่อมา พล.ต.วินธัย และผู้แทนกองทัพบก กล่าวบรรยายสรุป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญคณะผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

เตือนชาวบ้าน อย่าหลงเชื่อ เลขหลุด-เลขล็อก ผ่าน TikTok สลากแจ้งจับ แอบอ้างรูป-คลิป โทษคุก 20 ปี

27 นาทีที่แล้ว

“มาริษ”ร้องประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ทบทวนบริจาคเงินช่วยกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด

28 นาทีที่แล้ว

งวดนี้ รวยกระจาย 14 คน สลากดิจิทัลแตก 162 ล้าน รับสูงสุด 30 ล้าน

33 นาทีที่แล้ว

ผู้นำอินโดนีเซียย้ำเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ หวังดันประเทศให้เป็นมหาอำนาจ

35 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ทบ. ทำถึง! เตรียมนำสื่อต่างประเทศตัวจริง ลงพื้นที่สัปดาห์หน้า งานนี้ไม่มีล็อบบี้ยิสต์

ไทยโพสต์

อิ๊งค์ ยันไม่ลาออก ปมคลิปเสียง ฮุน เซน มั่นใจในความบริสุทธิ์

News In Thailand

"มาริษ-วิสาร" พาทูต 33 ประเทศลงพื้นที่ศรีสะเกษ ชี้ "กัมพูชา" จงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องประชาคมโลกร่วมประณาม

สยามรัฐ

“มาริษ”ร้องประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ทบทวนบริจาคเงินช่วยกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด

เดลินิวส์

‘พุทธะอิสระ’ ชี้เปรี้ยง สาเหตุนักการเมืองไทย ไม่กล้าหือ ‘ฮุนเซน’

ไทยโพสต์

ระวังข่าวปลอม! ทภ.2 แฉกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดทำร้ายฝ่ายไทย พร้อมสร้างเฟคนิวส์หวังเบี่ยงเบนความสนใจ

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘โอปอล สุชาตา’ ดีใจกลับไทยใช้เวลากับครอบครัว เติมพลังใจพร้อมลุยต่อเพื่อสังคม!

เดลินิวส์

วุฒิสภาลงพื้นที่สหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย รับฟังปัญหานมล้นตลาด พร้อมเสนอแนวทางแก้ไข

เดลินิวส์

‘Stronger Together’ ตร.พัทยา คว้าชนะเลิศ แก้ไขปัญหาสาธารณะเร่งด่วน-ตรงจุด

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...