SINGER รายได้ครึ่งแรกแตะ 1.7 พันลบ. Lock Phone ดัน

หุ้นวิชั่น - SINGER ควง SGC โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2568 เติบโตแข็งแกร่ง รับแรงหนุนพอร์ตสินเชื่อโทรศัพท์มือถือ “Lock Phone” ภายใต้ SG Finance+ โตทะลุเป้า ดัน SGC กำไรสุทธิครึ่งปี 68 แตะราว 176 ล้านบาท พุ่ง 213% ขณะที่ SINGER ทำรายได้รวม 1,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% ครึ่งปีหลังเตรียมเดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อ “Lock Phone” ต่อเนื่อง เพิ่มช่องทางขาย รับแรงหนุนไฮซีซันธุรกิจมือถือและการเปิดตัวสินค้า Flagship รุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.3% ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 33 ล้านบาท ลดลง 30.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท แม้ลดลงจากปีก่อน แต่รายได้รวมเติบโตโดดเด่นแตะ 888 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.2% (YoY) หนุนจากดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อและเงินให้กู้ยืมที่เพิ่มขึ้นตามการขยายพอร์ตสินเชื่อโทรศัพท์มือถือ “Lock Phone” รวมถึงรายได้อื่นที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 นี้ SINGER มีค่าใช้จ่าย One Time จากการตั้งสำรองคดีความ และการ Write off ปิดสาขาที่ไม่มีศักยภาพ ซึ่งหากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ภาพรวมไตรมาส 2 ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี

อย่างไรก็ดี การเติบโตของรายได้ในครึ่งปีแรก ปัจจัยหนุนหลักมาจากพอร์ต “Lock Phone” ของ SG Capital บริษัทย่อย ที่มีการปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 3,728 ล้านบาท ขณะเดียวกันยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและมือถือเพิ่มขึ้น จากช่องทางขายตรง ดีลเลอร์ และอีเวนต์ พร้อมขยายจุดตั้งตู้เติมน้ำมันเพิ่มเดือนละ 120 ตู้ ควบคุมต้นทุนการเงินลดลงกว่า 80% จากการชำระคืนหุ้นกู้ และปรับโครงสร้างการขาย-คลังสินค้า ปิดสาขาที่ไม่สร้างยอดขาย ปิดคลังสินค้ามือสอง และใช้ผู้ให้บริการ 3rd Party เพื่อลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับครึ่งปีหลัง SINGER ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ไตรมาสละ 20% จากการขยายพอร์ต Lock Phone ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ ปรับปรุงสาขา ขยายจุดตั้งตู้เติมน้ำมันทั่วประเทศ และพัฒนาช่องทางขายร่วมกับพาร์ทเนอร์ พร้อมลดค่าใช้จ่ายบริหารลง 15% จากการปรับโครงสร้างสู่ฐานค่าใช้จ่ายใหม่
เปิดร้านค้าปลีกใหม่อีก 19 แห่ง เพิ่มตัวแทนจำหน่ายมือถืออีก 600 ราย และต่อยอดการขายผ่านแพลตฟอร์ม SG Finance+ Online for Tele Sale ซึ่งจะเริ่มใช้งานในเดือนสิงหาคม เป็นอีกปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตในอนาคต

นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 104.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174% จากปีก่อน และสูงขึ้น 46.6% จากไตรมาสแรก จากรายได้รวม 736.56 ล้านบาท เติบโต 66.9% YoY และ 9.4% QoQ โดยสินเชื่อ “Lock Phone” สร้างรายได้ดอกเบี้ย 334.82 ล้านบาท คิดเป็น 54% ของรายได้ดอกเบี้ยรวม และมีรายได้ค่าสนับสนุนทางการตลาดเพิ่มกว่า 100 ล้านบาท ด้านผลงานครึ่งปีแรก SGC มีกำไรสุทธิ 175.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 213% YoY จากรายได้รวม 1,409.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.6%

การเติบโตดังกล่าวมาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone ควบคู่กับการควบคุมต้นทุน ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income) ลดลง และต้นทุนทางการเงินลดลง จากการชำระคืนเงินกู้แก่บริษัทแม่ พร้อมปรับโครงสร้างทุนและหนี้สิน

ปัจจุบันพอร์ต Lock Phone เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มขยายทั่วประเทศในเดือน มิ.ย. 2567 ไตรมาส 2/2568 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 2,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน และเดือน ก.ค. 2568 ปล่อยแล้ว 890 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ มีลูกค้าสะสมราว 700,000 สัญญา ผ่านพันธมิตร 6 แบรนด์มือถือชั้นนำ ได้แก่ OPPO, VIVO, HUAWEI, XIAOMI, Realme และ Infinix พร้อมเครือข่ายกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ รักษาคุณภาพสินเชื่อด้วยเทคโนโลยีล็อกเครื่องโทรศัพท์มือถือ ทำให้ NPL อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างทดสอบโครงการ Sandbox สินเชื่อ SG Finance+ สำหรับสินค้าในกลุ่ม iPhone โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาโอกาสและความเสี่ยง มุ่งหวังในการสร้างการเติบโตในอนาคต

ขณะที่ พอร์ตสินเชื่อรวมไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 13,836 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อ Lock Phone มีมูลค่า 4,513 ล้านบาท หรือ 33% ของพอร์ต เพิ่มจาก 25% ในไตรมาสแรก ด้านสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) ลดลงเหลือ 7,471 ล้านบาท หรือ 54% ตามกลยุทธ์ลดขนาดพอร์ต และสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า (HP) อยู่ที่ 1,182 ล้านบาท หรือ 8% สินเชื่ออื่น ๆ 670 ล้านบาท หรือ 5% คาดว่าปลายปี Lock Phone จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ของพอร์ต

แนวโน้มครึ่งปีหลัง SGC ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ได้ 8,000 ล้านบาททั้งปี โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 3,728 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47% ของเป้า และช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นไฮซีซันของธุรกิจมือถือ มีการเปิดตัวสินค้าต่อเนื่อง โดยบริษัทจะติดตามมาตรการกำกับดูแลของภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินธุรกิจตามแนวนโยบายของทางการ มั่นใจสิ้นปีมียอดปล่อยสินเชื่อสะสมแตะ 12,000 ล้านบาท พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตรเป็น 7,000 แห่งทั่วประเทศ และเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยผ่านบริการ “SG Shield” คุ้มครองหน้าจอแตกสำหรับลูกค้า Lock Phone เพื่อสนับสนุนการเติบโตของรายได้และกำไรตามเป้าหมาย