ถึงบ้านแล้ว! พลทหารกลับแนวหน้า กราบศพแม่ถูกสาวแทงดับ เผยแค้นผู้ก่อเหตุมาก เกือบสติแตก
ถึงบ้านแล้ว! พลทหารกลับแนวหน้า กราบศพแม่ถูกสาวแทงดับ เผยแค้นผู้ก่อเหตุมาก เกือบสติแตกหลังรู้ข่าวร้าย ลั่นใช้ใจล้วนๆ ไปสนามรบ ชาติหน้ากลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก
จากกรณี น.ส.จารุวรรณ อายุ 32 ปี ลูกค้าสาวเข้ามานั่งร้านอาหารตามสั่งริมแม่น้ำปิง ในพื้นที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร สั่งเบียร์และอาหารมานั่งกินชมวิว ยังไม่ทันหมดขวด เกิดมีปากเสียงกับป้ามีนา วัย 62 ปี เจ้าของร้าน สุดท้ายใช้มีดพกแทงเลือดท่วม ญาติรีบพาส่ง รพ.ก่อนเสียชีวิต จากนั้นตำรวจสามารถจับกุมตัวไว้ได้
โดยบรรยากาศงานศพคืนแรกเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจมีกลุ่มญาติ เพื่อนสนิท คนในหมู่บ้าน และเพื่อนๆ ของลูกชายที่เป็นทหาร เดินทางมาช่วยกันจัดเก้าอี้และเคารพศพด้วย โดยทุกคนต่างรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าป้ามีนาจะจากไปไวขณะนี้ ซึ่งอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าทำไมโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้
สำหรับเรื่องของการเรียกตัวชายเสื้อเหลืองจากในกล้องวงจรปิดที่นั่งดื่มที่ร้านเกิดเหตุ เข้ามาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวยอมรับว่าไปนอนกับ น.ส.จารุวรรณ ด้วยกันจริง
ขณะที่เวลา 20.00 น.วันที่ 21 ส.ค.68 พลทหารนิรัช คงตุ้ม อายุ 22 ปี สังกัด พัน 3 ร.31 รอ. ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี ลูกชายของป้ามีนา หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของแม่ ก็เดินทางกลับจากแนวชายแดนที่ประสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ทันที โดยมีหัวหมู่ขับรถมาส่งถึงวัด เมื่อเดินทางมาถึงก็ได้เข้าไปกอดที่ฝาโลงของแม่ พร้อมกับร้องไห้เสียใจ ก่อนจะจุดธูปไหว้หน้าศพ จากนั้นได้เดินเข้าไปกอดญาติพี่น้อง ต่างพากันร้องไห้เสียใจ โดยจากนี้จะจัดงานศพของแม่ให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะกลับไปทำหน้าที่ทหารแนวชายแดนเหมือนเดิม โดยได้รับการอนุญาตให้ลา 10 วัน
พลทหารนิรัช กล่าวว่า พี่สาวได้โทรมาบอกตนว่าแม่เสียแล้ว ตอนเวลา 17.00 น. วันเกิดเหตุ ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าเกิดเหตุในช่วง 14.00 น. เพราะกลัวจะสะเทือนใจ ซึ่งตนใช้ชีวิตอยู่กับแม่มาตลอดตั้งแต่เด็ก ส่วนพี่สาวก็อยู่ต่างจังหวัด ทราบข่าวตนรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นผู้ก่อเหตุมาก อยากจะบอกกับแม่ว่าหากชาติหน้ามีจริงขอให้กลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก
ที่ผ่านมาแม่ของตนไม่เคยดุว่าและตีตนเลย สอนให้ตนเป็นคนดีเสมอมา อยากให้เรื่องที่เกิดกับแม่เป็นคนสุดท้ายในเรื่องแบบนี้ ซึ่งในสถานการณ์สนามรบไม่รู้ข่าวร้ายแบบนี้ หากตนไม่ควบคุมอารมณ์ก็อาจจะสติแตกเป็นคนบ้าไปแล้ว ตนรู้แค่เพียงว่ามีหน้าที่ปกป้องประเทศ และมีหน้าที่เป็นลูกที่ดีแค่นั้น ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็มาทำเพื่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย
หากพูดถึงเรื่องสิ่งของเครื่องรางที่ติดตัวสนามรบ แม่ของตนไม่ได้ให้อะไรติดตัวไป แต่ให้ใจมาล้วนๆ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับแม่ก็ไม่อยากให้ตนไปสนามรบ เพราะเป็นห่วง จากนี้ต่อไปก็ยังคิดไม่ออกว่าจะวางแผนชีวิตยังไงขอจัดงานศพแม่ก่อน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ถึงบ้านแล้ว! พลทหารกลับแนวหน้า กราบศพแม่ถูกสาวแทงดับ เผยแค้นผู้ก่อเหตุมาก เกือบสติแตก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th