สทนช. เตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ช่วง 24 - 28 ส.ค.
สทนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา จากการคาดการณ์สภาพอากาศที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ช่วง 24 - 28 ส.ค. 68 เช็กจังหวัดเตรียมรับมือ
วันที่ 21 สิงหาคม 2568 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 18/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยระบุว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่ามีพื้นที่บางส่วนเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 24 - 28 สิงหาคม 2568 ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ดังนี้
1.1 ภาคเหนือ บริเวณ
- จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย เชียงของ เชียงแสน เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง พญาเม็งราย เทิง แม่จัน และดอยหลวง)
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปาย ขุนยวม แม่สะเรียง และสบเมย)
- จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอฝาง แม่อาย และอมก๋อย)
- จังหวัดลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน แม่ทา และบ้านธิ)
- จังหวัดลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง แม่ทะ ห้างฉัตร และเมืองปาน)
- จังหวัดพะเยา (อำเภอเมืองพะเยา ปง และเชียงคำ)
- จังหวัดน่าน (อำเภอทุ่งช้าง แม่จริม และเวียงสา)
- จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอท่าปลา และน้ำปาด)
- จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด และอุ้มผาง)
- จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอเมืองพิษณุโลก ชาติตระการ นครไทย บางระกำ เนินมะปราง และวังทอง)
- จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ วังโป่ง และศรีเทพ)
1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ
- จังหวัดเลย (อำเภอเมืองเลย เชียงคาน นาแห้ว และวังสะพุง)
- จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย ท่าบ่อ และสระใคร)
- จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ)
- จังหวัดอุดรธานี (อำเภอเมืองอุดรธานี บ้านดุง กุดจับ น้ำโสม บ้านผือ และเพ็ญ)
- จังหวัดสกลนคร (อำเภอวานรนิวาส และอากาศอำนวย)
- จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอคอนสาร จัตุรัส และหนองบัวแดง)
- จังหวัดนครราชสีมา (อำเภอคง ครบุรี ชุมพวง ด่านขุนทด โนนสูง บัวใหญ่ ปากช่อง พิมาย วังน้ำเขียว สีคิ้ว และสูงเนิน)
- จังหวัดยโสธร (อำเภอไทยเจริญ และเลิงนกทา)
- จังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ เสนางคนิคม และชานุมาน)
- จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี เขมราฐ นาตาล เดชอุดม นาจะหลวย นาเยีย น้ำยืน บุณฑริก พิบูลมังสาหาร วารินชำราบ และสำโรง)
1.3 ภาคตะวันออก บริเวณ
- จังหวัดนครนายก (อำเภอเมืองนครนายก และปากพลี)
- จังหวัดปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี กบินทร์บุรี นาดี ประจันตคาม และศรีมหาโพธิ)
- จังหวัดสระแก้ว (อำเภอเมืองสระแก้ว โคกสูง ตาพระยา และวัฒนานคร)
- จังหวัดชลบุรี (อำเภอบางละมุง และศรีราชา)
- จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง บ้านค่าย ปลวกแดง และนิคมพัฒนา)
- จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ โป่งน้ำร้อน มะขาม สอยดาว แหลมสิงห์ และขลุง)
- จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง คลองใหญ่ บ่อไร่ แหลมงอบ เกาะกูด และเกาะช้าง)
1.4 ภาคใต้ บริเวณ
- จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร พะโต๊ะ และหลังสวน)
- จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง สุขสำราญ กะเปอร์ ละอุ่น และกระบุรี)
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอบ้านตาขุน)
- จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี และกะปง)
- จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกักบริเวณ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี และกระบี่
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม บริเวณอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำแควน้อย บริเวณอำเภอนครไทย และบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
4. เฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วม รวมถึงพื้นที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน
2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำ
ถึงปลายน้ำและอิทธิพลของการขึ้น - ลงของระดับน้ำทะเล โดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสาร เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการขนของขึ้นสู่ที่สูงหรืออพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สทนช. เตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ช่วง 24 - 28 ส.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "แม่ทัพภาคที่ 2" เผยเหตุเสียงระเบิดที่ปราสาทตาควาย ยืนยันไม่เคยไว้ใจกัมพูชา
- สทนช. เตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ช่วง 24 - 28 ส.ค.
- ย้อนคลิป กาย-ฮารุ กินไข่เจียวปูเจ๊ไฝเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ราคา 1 พัน แต่จ่ายจริงอีกราคา
- คดีฆ่า "ป้ามีนา" เปิดพฤติการณ์สาวมือแทง โมโหปล่อยไปกับผู้ชายตอนเมาหนัก
- "วัดพระบาทน้ำพุ" จัดสถานที่เตรียมฌาปนกิจศพผู้ป่วยโรคเอดส์ ในวันที่ 23 ส.ค. นี้
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath