ไม่ไว้ใจ พท.-ภท.! ปชน.ถก สส.วันแรกไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม สส.นัดพิเศษ เพื่อหาข้อสรุปในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า ในวันนี้ถือว่าจบการประชุม สส.วันนี้แล้ว มี สส.เข้าร่วม 90 กว่าคน หรือ 90% เพราะมี สส.หลายคนติดภารกิจล่วงหน้า ทั้ง กมธ. และในพื้นที่ เพราะเป็นการประชุมพิเศษในวันจันทร์ ความเห็นในที่ประชุมหลากหลายมาก หลายคนแสดงความเห็นด้วยความหนักใจ เราสรุปว่าประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ สส.ตกผลึก แสดงความเห็นเพิ่มเติม และนำความเห็นของ สส.มาประกอบกับความเห็นทุกภาคส่นวของพรรค ทั้งทีมเครือข่าย และอื่น ๆ นี่คือข้อสรุปวันนี้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า มี 2 ประเด็นที่พูดคุยกันค่อนข้างชัดเจนมากคือ 1.เรายืนหยัดจุดยืนเดิมว่า สิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศคือการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว 2.เราเรียกร้องให้ยุบสภาฯโดยตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุคลิปเสียง เพียงแต่ผู้มีอำนาจ ไม่ว่า น.ส.แพทองธาร หรืนายภูมิธรรม ไม่ตอบสนอง วันนี้เรายืนยันว่าการยุบสภาฯ ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกฯ มีอำนาจยุบสภาฯ ก็สอดคล้องกับจุดยืนของเรา เราก็พร้อมเลือกตั้ง และหากสมมติรักษาการนายกฯไม่ยุบสภา และไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง เราต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อนำไปสู่การยุบสภาฯ และเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
“เข้าใจดีว่าทุกคนหนักใจไม่ว่า สส. หรือประชาชน หากไม่มียุบสภาฯก่อนหน้า บางคนมองว่าจำเป็นหรือไม่ หรืองดออกเสียง แต่เราพยายามคิดอีกมุมว่า หากสมมติไม่มีการยุบสภาฯเกิดขึ้นจริง และต้องเลือกนายกฯใหม่ ณ เวลานี้ ไม่มีกลุ่มใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ต้องคิดต่อว่า หากเรางดออกเสียง จะเกิดอะไรขึ้น เราก็มองไปถึงความน่ากังวล 2 ประการด้วยกัน ความน่ากังวล 1. ปัจจุบันที่แดงกับน้ำเงินรวบรวมเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง แดงน้ำเงินไหลกลับไปรวมกัน กังวลเพราะจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก มีแนวโน้มอยู่ครบวาระไปอีกเกือบ 2 ปี ขัดกับจุดยืนของเราที่ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า โดยอีก 2 ปีข้างหน้ากังวลอย่างไร ก็มองย้อนไป 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนมีประสิทธิภาพ ช่วงแดงน้ำเงินเป็นรัฐบาล คดีหลายอย่างถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ยืนยันว่า สิ่งที่เราป้องกันแดงน้ำเงินกลับไปรวมกัน ทำประเทศเสียหาย ทั้งเชิงเลือกตั้งใหม่ช้าออกไป 2 ปี การมีนโยบายไม่ประสิทธิภาพ กระบนการยุติธรรมไม่ตรงไปตรงมา
โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า 2.หากแดงน้ำเงินไม่ไหลไปรวมกัน อาจไหลไปจากนอกระบอบประชาธิปไตย ไม่ส่งผลดีต่อการเมืองไทย เราเข้าใจดีถึงความรู้สึกหลายคนว่า เราอยู่เฉยจะได้หรือไม่ หากสมมติรักษาการนายกฯไม่ยุบสภา หากเราไม่ทำอะไร ก็เสี่ยงว่า 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ
เมื่อถามว่า ในวันที่ 2 ก.ย.จะมีคำตอบเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้
ถามย้ำว่ายังไม่ตกผลึกว่าจะเลือกฝั่งแดง หรือน้ำเงิน หรือยังไม่ตกผลึกว่าจะเลือก หรือไม่เลือก นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้มีการอภิปรายหลากหลายประเด็นมาก ความเห็นหลากหลายในหลายคำถาม คงไม่ได้สรุปเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่พรุ่งนี้ประชุม สส.นัดเป็นปกติอยู่แล้ว คาดว่า สส.มาประชุมเพิ่มมากขึ้นมากกว่าวันนี้ ที่ประชุมกันทุกบ่ายวันอังคาร
เมื่อถามว่า ปชน.จะรอจนถึงกรอบวันโหวตนายกฯวันสุดท้ายเลยหรือไม่ ถึงตัดสินใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่า สภาฯนัดเมื่อไหร่ สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยพิจารณา แม้ไม่มองปัจจัยนั้น ต้องมองว่าความเห็นที่ประชุมแตกต่างหลากหลายมาก
ถามย้ำว่าในวันที่ 2 ก.ย.จะมีมติพรรคเลยหรือไม่ นายพริษ์ฐ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่ตอบได้ว่าประชุมแน่นอน เชื่อว่า สส.มากันเกือบครบ หรือครบ เพราะประชุมประจำสัปดาห์ สส.อาจมีภารกิจในพื้นที่ขยับไม่ได้ อาจไม่ได้มาร่วมอภิปรายในวันนี้
ส่วนมีน้ำหนักหรือปัจจัยให้ขบคิดเข้มข้นคืออะไร โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอภิปรายหลากหลาย สังคมน่าจะพอคาดการณ์ได้ เพราะหลายความเห็นสอดคล้องกับที่สังคมแสดงความเห็นเช่นกัน สส.ต้องเป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ เชิญชวนประชาชน และผู้สนับสนุนพรรค สามารถแสดงความเห็นกับ สส.ของเราได้ เขาก็จะเป็นคนนำความเห็นเหล่านั้นมาในที่ประชุม
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องหารือกับอีก 2 พรรคเพื่อดูเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่มี เราถือว่า 2 พรรคตอบรับเงื่อนไขของเรา
ซักอีกว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ปชน.จะทำข้อตกลงกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ต้องถามพรรคภูมิใจไทย ตนไม่ทราบ ต้องย้ำว่า จะไม่มีรัฐบาลไหนที่ตั้งขึ้นได้จากเงื่อนไขของ ปชน.มี สส. 280 เสียงอยู่แล้ว เราไม่ร่วมรัฐบาลพรรคไหน ตัวเลข สส.เราไม่รวมในรัฐบาลใด ไม่ว่าใครก็ตามอ้างเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ใช่เป็นผลลัพธ์จาก ปชน.แน่นอน ผลลัพธ์เราคือชัดเจน รัฐบาลเสียงข้างน้อย สส.น้อยกว่า 246 เสียง
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยบอกยุบสภาน้อยกว่า 4 เดือน นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไขเราชัด คือการยุบสภาฯใน 4 เดือนกับการทำประชามติ เหตุผลที่ต้องวางไว้ 4 เดือนต้องรอดูว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งว่าทำประชามติกี่ครั้ง ถ้า 3 ครั้ง ก็จัดประชามติครั้งแรกทันที ไม่ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน แต่ถ้าบอกว่าทำ 2 ครั้ง ต้องแก้รัฐธรรมนูญผ่าน 3วาระของสภาฯ คิดว่า 4 เดือนเหมาะสม เป็นตัวแปรที่จะเกิดขึ้น 10 ก.ย. ถ้าพูดถึงเพื่อไทยโดยตรง ไม่ต้อง 4 เดือนอยู่แล้ว ถ้ารักษาการนายกฯ จะยุบสภา ก็ดำเนินการได้เลย
ส่วนออปชั่น MOU43-44 ทำให้ ปชน.พิจารณาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ได้พิจารณาอะไรนอกจาก 3 เงื่อนไข เงื่อนไข MOU43-44 เป็นของแต่ละพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนาที่คุยกับ ปชน. เรายึด 3 เงื่อนไขของ ปชน.
เมื่อถามว่า ปชน.จะมีมติให้โหวตหรือไม่ หรือต้องรอความเห็นกรรมการบริหารพรรค หรือภาพรวม นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความเห็นเราไม่ได้จำกัดแค่ สส.เราไม่ได้เป็นลักษณะ สส.เรารับฟังความเห็นทุกภาคส่วน เราเอาความเห็นทุกภาคส่วนมาตกผลึก
ถามย้ำว่า ใครจะเป็นคนตัดสินใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการภายในของพรรค และกรรมการบริหารต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่เกิดขึ้น ต้องมาจากความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ส่วนจะโหวตไปทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น ยืนยันว่าที่เราคุยเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า อยากให้ยุบสภาฯเท่านั้นหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ข้อเสนอยุบสภาฯ ไม่ใช่ข้อเสนอที่ใหม่ ไม่ใช่เพิ่งพูด 2 วันที่ผ่านมา แต่พูดมา 2 เดือนแล้ว มีคนตั้งคำถามว่าเรียกร้องยุบสภาฯ เพราะคะแนนนิยมดี เป็นประโยชน์กับเราหรือไม่ แต่เรามองสถานการณ์ข้างหน้า ท้ายสุดท้ายถ้ามีรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ต้องมีเสถียรภาพและความชอบธรรมทางการเมือง องค์ประกอบรัฐบาลชุดนี้ ตอบรับคุณสมบัตินี้ได้หรือไม่ วันนี้เรามองว่าถ้าไม่ตอบสนอง ก็ต้องโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อนำไขไปสู่การเลือกตั้งใหม่ โดยยืนยันว่าเราไม่เคยเอาเงื่อนเวลามาเป็นเงื่อนไข ถ้ารักษาการนายกฯจะยุบ ก็ยุบเลย
เมื่อถามถึงการประเมินความจริงใจของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ความจริงใจเป็นสิ่งที่ทั้ง สส.และประชาชนหลายคนใช้ในการประเมินดูแล้ว เรียนว่า หลายคนแน่นอนมองว่าเราจะรักษาทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย รักษาสัญญาอย่างไร เราก็มองว่ามี 2 ปัจจัยสำคัญ ออกแบบกลไกให้เรามีกลไกควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญา ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่เบี้ยวได้ทันที
“ส่วนการไว้เนื้อเชื่อใจไกลกว่านั้น คือไม่ไว้ใจทั้งคู่ เพราะต้องมาประเมินความเสี่ยงกันจากสาระท่าทีที่วัดด้วยหลักฐาน อันไหนเสี่ยงน้อยกว่า เราตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ความแค้นมาตัดสิน บางคนคิดว่าเพื่อไทย ฉีก MOU หรือภูมิใจไทย โหวตนายพิธา ตอนนายกฯ เราใช้เหตุผลให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งของประชาชนโดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หมายความว่าในอดีตรีเซ็ตหมดเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ลืม แต่ไม่เอาอารมณ์มาตัดสิน
ถามย้ำว่าแนวโน้มงดออกเสียงไม่เกิดขึ้น ต้องออกทางใดทางหนึ่ง โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ต้องคุยกัน และหาข้อสรุปวันพรุ่งนี้
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนและเพื่อน สส.จาก ปชน.ตระหนักดีว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้เพราะประชาชน 14 ล้านคนเลือกเราเข้ามา เราสัญญาว่าจะไม่เอาความไว้วางใจไปทำอะไรที่ผิดหลักการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพรรคภูมิใจไทย บอกตัวเลขมาเคลมว่าได้ 280 เสียง ซึ่งรวม ปชน. เพื่อต้องการดูด สส.พรรคอื่น มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และ ปชน.รู้ทันเกมนี้ จึงยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะไปร่วมโหวตนายกฯฝั่งไหน