โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สหรัฐอเมริกากับระเบียบโลกใหม่

ไทยโพสต์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

การขึ้นภาษีนําเข้าของสหรัฐกับทุกประเทศคือการเปลี่ยนระเบียบการค้าโลกจากระบบการค้าเสรีที่มีกฏเกณฑ์ไปสู่การค้าโลกที่ไร้ระเบียบและมีการกีดกันทางการค้ามากขึ้น แต่ที่สำคัญการที่สหรัฐใช้ภาษีนําเข้าเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเงื่อนไขทางการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่าสหรัฐกําลังมองเลยการเปลี่ยนระเบียบการค้าโลกไปสู่ระเบียบโลกใหม่ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือในทุกการเปลี่ยนผ่าน ความวุ่นวายจะมีมาก และในกรณีนี้อาจนําโลกไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองได้ก่อนที่ทุกอย่างจะลงตัวและระเบียบโลกใหม่อุบัติขึ้น วันนี้จึงอยากเขียนเรื่องนี้ โฟกัสเฉพาะระเบียบการค้าโลก นี่คือประเด็นที่จะเขียนให้คิดวันนี้

ช่วงสี่สิบปีแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นยุคความยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกาจริง ๆ สหรัฐเป็นประเทศมหาอํานาจและเป็นประเทศผู้นำประเทศเดียวในโลกทั้งการทหาร การเมืองระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจ ภายใต้ความเป็นผู้นํานี้ สหรัฐได้จัดระเบียบเศรษฐกิจและการเมืองโลกเพื่อรักษาสันติภาพไม่ให้สงครามโลกเกิดขึ้นอีก เช่น จัดตั้งสหประชาชาติและนาโต้ ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ สหรัฐก็เผยแพร่การเมืองแบบประชาธิปไตย สนับสนุนระบบทุนนิยม ระบบการค้าเสรีที่มีกฏเกณฑ์ การใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสกุลหลักในเศรษฐกิจโลก พัฒนาและรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจโลกโดยจัดตั้งองค์กร เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ องค์กรการค้าโลก และธนาคารโลก ขณะเดียวกันก็เผยแพร่ค่านิยมเรื่องสิทธิมนุษย์ชน เสรีภาพทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม รวมถึงวัฒนธรรมอเมริกันผ่านวิถีความเป็นอยู่ของคนอเมริกัน การศึกษา กีฬา ภาพยนตร์ ดนตรี และข่าวสาร ทั้งหมดคือพลังที่เปลี่ยนแปลงสังคมโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ประเทศส่วนใหญ่ยอมรับและพร้อมเดินตามสหรัฐ ผลคือเศรษฐกิจโลกเติบโตต่อเนื่อง ความเป็นอยู่ของคนทั่วโลกดีขึ้น อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบเพราะมีสหรัฐทำหน้าที่เหมือนตํารวจโลกคอยปกป้องประเทศต่างๆจากการรุกรานจากภายนอกรวมถึงลัทธิคอมมิวนิสต์

ช่วงต้นทศวรรษ 1990s ถือเป็นจุดสูงสุดของภาวะผู้นําของสหรัฐทั้งในเศรษฐกิจและการเมืองโลกเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายและจีนเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรการค้าโลก พูดกันว่าเป็นชัยชนะอย่างสมบูรณ์ของโลกเสรีและจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์ แต่หลังจากนั้นต่อเนื่องมากว่าสามสิบปีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ 9/11 สงครามต่อสู้ความชั่วร้าย (War on Terror) ในอิรัก อัฟกานิสถาน และพื้นที่อื่นๆในตะวันออกกลาง วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐปี 2008 วิกฤติโควิด และการเติบโตของการเมืองแบบประชานิยมในสหรัฐ ทั้งหมดบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสหรัฐในความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจ ความเป็นผู้นําในเวทีโลก และความเป็นสถาบันของประเทศที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตย ความเสื่อมถอยเหล่านี้ยิ่งถูกตอกยํ้า เมื่อคนอเมริกันส่วนใหญ่เลือก โดนัล ทรัมป์ กลับเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทรัมป์เป็นคนอย่างไรจากสมัยแรก และจะเข้ามาทําอะไรในสมัยที่สองเรื่องเศรษฐกิจจากนโยบายที่ได้หาเสียงไว้

นโยบายสำคัญที่ทรัมป์ทําถึงขณะนี้ภายใต้ธงหาเสียงว่าจะทําให้ประเทศสหรัฐกลับมายิ่งใหญ่ คือการถอนบทบาทสหรัฐออกจากระเบียบเศรษฐกิจการเมืองโลกที่สหรัฐได้สร้างไว้หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และจะให้ประเทศต่าง ๆ ดูแลเรื่องต่าง ๆ กันเองแทน เช่น ยุติบทบาทสหรัฐในการทําหน้าที่ตํารวจโลกเพื่อรักษาความมั่นคง ลดบทบาทสหรัฐในการดูแลสิ่งที่เป็นสาธารณะในเศรษฐกิจโลก เช่น การค้าระหว่างประเทศ สาธารณสุข ภาวะโลกร้อน รวมถึงลดความช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ และหันมาดูแลผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐแทน การขึ้นอัตราภาษีนำเข้ากับทุกประเทศล่าสุด รวมถึงการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐก็คือตัวอย่างของนโยบายภายใต้แนวคิดนี้ พูดง่าย ๆ คือ รื้อทิ้งแนวคิดเดิม ระเบียบเดิม และความสัมพันธ์ที่มีอยู่เดิม ไปสู่นโยบายและระเบียบโลกใหม่ที่จะให้ประโยชน์กับสหรัฐมากขึ้น โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เป็นการเปลี่ยนนโยบายแบบกลับหลังหันที่ไม่มีประเทศไหนเห็นด้วยและพร้อมทำตาม แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้ต้องยอมสหรัฐไปก่อนเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่มีเอาไว้ ต่างกับเมื่อแปดสิบปีก่อนที่ไม่ว่าสหรัฐจะทําอะไรทุกประเทศจะพร้อมสนับสนุนและยินดีทำตาม

คําถามคือทําไมทรัมป์กลับหลังหันแบบนี้ในเรื่องนโยบาย อะไรคือเหตุผล และทําใมนักการเมืองและนักธุรกิจในสหรัฐยอมให้เกิดขึ้น ไม่ห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา

ในเรื่องนี้สิ่งที่ทีมงานทรัมป์คิด เช่น มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ คือ “ระเบียบโลกปัจจุบันล้าสมัยและถูกใช้เป็นอาวุธกับสหรัฐ พวกเรากําลังสร้างโลกเสรีใหม่จากความวุ่นวาย”

ในแง่เหตุผล มีการวิเคราะห์ว่าระเบียบโลกเดิมในช่วงที่ผ่านมาทําให้อำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารของหลายประเทศในโลกเติบโตขึ้นมาก คือได้ประโยชน์ เช่น จีน อินเดีย และเปลี่ยนดุลอํานาจเศรษฐกิจและการเมืองโลกไปจากเดิม ขณะที่สถานะของสหรัฐอเมริกา แม้ยังเป็นอันดับหนึ่งในทุกเรื่อง แต่ก็อ่อนแอลงโดยเปรียบเทียบ ที่สําคัญ การทําหน้าที่ของสหรัฐในการดูแลความมั่นคงและเสถียรภาพเศรษฐกิจโลกได้สร้างต้นทุนมหาศาลให้กับเศรษฐกิจสหรัฐทั้งการขาดดุลการค้า การขาดดุลการคลัง และปริมาณหนี้ภาครัฐของสหรัฐที่สูง ปัญหาเหล่านี้จะไม่หายไปและจะยิ่งเลวร้ายลงถ้าสหรัฐยังทําหน้าที่เหล่านี้อยู่เหมือนเดิม ดังนั้น สมควรที่ประเทศที่ได้ประโยชน์และมีฐานะควรต้องรับภาระเหล่านี้แทน และในสายตาสหรัฐ ขณะนี้ไม่มีประเทศไหนในโลกที่เข้มแข็งพอที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐถ้าสหรัฐลดบทบาทลง ตรงกันข้ามการลดบทบาทจะทําให้สหรัฐสามารถทุ่มเทให้กับการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจได้เต็มที่ ซึ่งคือหัวใจของความเป็นประเทศมหาอำนาจ

ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นสหรัฐใช้ภาษีนําเข้าต่อรองกับประเทศคู่ค้าแบบตัวต่อตัวในทุกมิติเพื่อให้สหรัฐได้ประโยชน์เต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐ ไม่ว่าลดการขาดดุลการค้า เพิ่มรายได้จากภาษีเพื่อลดการขาดดุลการคลัง เพิ่มการส่งออก ดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสหรัฐเพื่อสร้างงานและยกระดับภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ประเทศคู่ค้าต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถค้าขายกับสหรัฐได้ต่อไป

ในแง่การค้าโลก การขึ้นภาษีของทรัมป์จะทําให้ระเบียบการค้าโลกจากนี้ไปมีสองระบบซ้อนกัน คือ ค้าขายกับสหรัฐในอัตราภาษีที่สูงระบบหนึ่ง ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 9 ของการค้าโลก กับค้าขายระหว่างกันของประเทศที่เหลือในอัตราภาษีที่ตํ่ากว่าอีกระบบหนึ่ง ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 91 ของการค้าโลก ในทางเศรษฐศาสตร์ การค้าในอัตราภาษีที่ตํ่าจะเติบโตได้มากกว่าการค้าในอัตราภาษีที่สูง จึงประมาณได้ว่า การค้าในระบบอัตราภาษีที่ต่ำจะทำให้เศรษฐกิจนอกสหรัฐเติบโตและขยายตัวได้ดีกว่าเศรษฐกิจสหรัฐในที่สุด เพราะภาษีจะทําให้ต้นทุนการผลิตในสหรัฐสูงขึ้น สินค้าที่ผลิตในสหรัฐแข่งขันในตลาดโลกไม่ได้ นํามาสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ที่สำคัญภาษีที่สูงจะทําให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐเพิ่มขึ้น กระทบค่าครองชีพและความเป็นอยู่ของคนในสหรัฐ ดังนั้น เศรษฐกิจที่ชะลอและอัตราเงินเฟ้อที่สูงน่าจะไม่ตรงกับเป้าการสร้างเศรษฐกิจสหรัฐที่เข้มแข็ง

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีข้อยกเว้น คราวนี้ก็เช่นกัน ข้อยกเว้นคือ ถ้าการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรมสหรัฐตามที่หลายประเทศได้สัญญาไว้ในการเจรจากับสหรัฐเกิดขึ้นจริง และเป็นการลงทุนที่เป็นประโยชน์ทำให้ความสามารถหรือผลิตภาพการผลิต (Productivity) ของภาคอุตสาหกรรมสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมสหรัฐก็จะเหนือคนอื่น แม้ต้นทุนสูงขึ้นจากมาตรการภาษี ถึงจุดนั้นสินค้าที่ผลิตในสหรัฐจะแข่งขันได้กับทุกประเทศทั่วโลก นํามาสู่การเติบโตของรายได้ การจ้างงาน และการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจสหรัฐ ปัญหาเศรษฐกิจที่สหรัฐมีก็จะผ่อนคลาย ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของสหรัฐก็จะกลับมา เสริมสร้างสถานะการเป็นประเทศมหาอํานาจและยืนระยะบทบาทสหรัฐในฐานะผู้นำโลกได้ต่อไป

นี่คือสิ่งที่ผู้ทํานโยบายเศรษฐกิจและภาคธุรกิจสหรัฐรออยู่และหวังว่าจะเกิดขึ้นในระเบียบโลกใหม่ ซึ่งเราต้องตามดู

เขียนให้คิด

ดร บัณฑิต นิจถาวร

ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

bandid.n@ppgg.foundation

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

พปชร.หนุนฟ้องพ่อลูกตระกุลฮุนผ่านไอซีซี!

32 นาทีที่แล้ว

‘รองมทภ.2’ ไล่ไทม์ไลน์ ‘ช่องอานม้า’ ความจริงมีหนึ่งเดียว หวังคำกล่าวอ้าง ‘เพื่อมนุษยธรรม’ เป็นบทเรียน

34 นาทีที่แล้ว

รบ.เปิดตัวเลขตั้งแต่เกิดเหตุชายแดนกระทบชาวบ้านแล้ว 7.7 แสนชีวิต

53 นาทีที่แล้ว

ศบ.ทก.ยันคลิปทุ่นระเบิดมัดกัมพูชาแน่นเพราะพูดภาษาเขมร

55 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

มาแล้ว4เลนวิ่งฉิว! ทล.21 ”ร่องจิก –สานตม” อ.ภูเรือ-จ.เลย ทองมาคอนแทรคเตอร์”กวาดเรียบ3สัญญา1,985ล้าน

เดลินิวส์

โบรกฯคาด "กลุ่มค้าปลีก" ฟื้นชัด Q4/68 แม้ผลงาน Q3/68 กดดัน

TNN ช่อง16

แกร็บฟู้ด เสิร์ฟ “สุกี้ช้างเผือก” ร้านอร่อยระดับตำนานจากเชียงใหม่ส่งคนกรุง ประเดิมสาขาแรกบรรทัดทอง หวังปลุกชีพสตรีทฟู้ดฟื้น

BTimes

'จตุพร' ขอบคุณพลัง 'ไทยช่วยไทย' ดันราคาลำไย รูดร่วงเกรด AA ขยับสูงขึ้นแตะ 13 บาท/กก.

VoiceTV

โมดีชูสัมพันธ์อินเดีย-จีนแนบแน่น คาดเดาได้ หลังจีนเปิดทางซื้อแร่หายาก

Amarin TV

ทรูมันนี่ เปิดตัว “THAI BAHT TrueMoney (THBT)

TODAY

พาณิชย์ร่วมกับผู้แทนการค้าไทยจัดเวทีรับฟังความเห็น หนุนการเจรจา FTA ไทย–EU

VoiceTV

Nvidia จ่อแตะ 9 ล้านล้านปี 2030 นักวิเคราะห์ชี้มาจากดีมานด์ AI แต่ไฟจะพอไหม คือโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้

Thairath Money

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...