ชัวร์ก่อนแชร์ UPSKILL : รู้จัก 14 ประเภทคดีออนไลน์
บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence : AI)โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ
15 สิงหาคม 2568
คดีออนไลน์ทั้ง 14 ประเภท มีอะไรบ้าง รู้จักให้ครบ รู้ทันทุกอุบาย ติดตามใน ชัวร์ก่อนแชร์ อัปสกิล-สกัด-สแกม
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(สัมภาษณ์เมื่อ 3 ธันวาคม 2567)
เปิดตำรา 14 กลโกงออนไลน์ รู้ทันก่อนตกเป็นเหยื่อ
โลกออนไลน์ที่มอบความสะดวกสบายให้เรา กลับแฝงไปด้วยอันตรายจากมิจฉาชีพที่พัฒนารูปแบบการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา การรู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนเกราะป้องกันที่ดีที่สุด บทความนี้ได้รวบรวม 14 รูปแบบคดีออนไลน์ที่พบบ่อยที่สุด เพื่อให้คุณระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
14 รูปแบบกลโกงที่ต้องระวัง
กลุ่มคดีที่พบบ่อยที่สุด
- หลอกซื้อ-ขายสินค้าบริการ : คดีอันดับหนึ่งที่พบมากที่สุด คือการหลอกขายของออนไลน์แต่ไม่ส่งของ หรือของไม่ตรงปก มักมาในรูปแบบเพจปลอม หรือร้านค้าที่ไม่มีตัวตนจริง
- หลอกให้ทำงานเสริม : ล่อลวงด้วยข้อเสนอรายได้ดี ๆ ผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย ให้ทำงานง่ายๆ เช่น กดไลก์ กดแชร์ โดยให้ลงทุนก่อนเล็กน้อยและได้ผลตอบแทนจริงในตอนแรก จากนั้นจะหลอกให้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
- หลอกให้กู้เงิน : พุ่งเป้าไปที่คนที่ต้องการเงินด่วน โดยสร้างแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์เงินกู้ปลอม หลอกให้จ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าค้ำประกันก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินกู้ตามที่ตกลง
กลุ่มคดีที่สร้างความเสียหายสูง
- หลอกลงทุน (Investment Scam) : สร้างความเสียหายทางการเงินสูงที่สุดรูปแบบหนึ่ง มิจฉาชีพจะสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนปลอม ชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (ข่มขู่) : แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สรรพากร หรือพนักงานบริษัทขนส่ง โทรมาข่มขู่ว่าคุณพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย และหลอกให้โอนเงินเพื่อเคลียร์คดี
- หลอกให้ติดตั้งแอปดูดเงิน (Remote Control App) : หลอกล่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมโทรศัพท์จากระยะไกลได้ เมื่อติดตั้งแล้ว มิจฉาชีพจะเข้าไปควบคุมและโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของคุณจนหมด
กลโกงรูปแบบอื่น ๆ ที่ต้องรู้ทัน
- หลอกให้รักแล้วลงทุน (Hybrid Scam) : เป็นการผสมผสานระหว่าง Romance Scam และ Investment Scam โดยจะเข้ามาสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวจนเหยื่อไว้วางใจ จากนั้นจึงชักชวนให้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มปลอม
- หลอกให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) : สร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นชาวต่างชาติหน้าตาดี เข้ามาตีสนิทและสร้างความสัมพันธ์ จากนั้นจะกุเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อขอเงินจากเหยื่อ
- ปลอมแปลงเป็นคนรู้จักเพื่อยืมเงิน : แฮกบัญชีโซเชียลมีเดียของเพื่อนหรือคนในครอบครัว แล้วทักมายืมเงิน โดยอาศัยความเกรงใจและความไว้เนื้อเชื่อใจ
- หลอกรางวัล : ส่ง SMS, อีเมล หรือโทรศัพท์มาแจ้งว่าคุณคือผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่ แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าจัดส่งก่อน
- แฮกข้อมูลเพื่อขู่กรรโชก : แฮกเข้าระบบคอมพิวเตอร์เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลลับ จากนั้นจะข่มขู่เพื่อเรียกค่าไถ่ โดยขู่ว่าจะนำข้อมูลไปเผยแพร่
- หลอกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล : สร้างโปรไฟล์หรูหราน่าเชื่อถือ ชักชวนให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มปลอมที่ไม่มีอยู่จริง
- แชร์ลูกโซ่ออนไลน์ : ชวนลงทุนในกลุ่มแชร์ต่าง ๆ โดยอ้างผลตอบแทนสูง แต่สุดท้ายคือการนำเงินของสมาชิกใหม่มาจ่ายให้สมาชิกเก่า และจะปิดกลุ่มหนีไปในที่สุด
- Ransomware (มัลแวร์เรียกค่าไถ่) : หลอกให้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์ที่มีไวรัส ทำให้ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ถูกเข้ารหัสทั้งหมด และต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับการถอดรหัส
โลกออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็มาพร้อมกับหลุมพรางมากมายเช่นกัน การตระหนักรู้และระมัดระวังตัวอยู่เสมอคือสิ่งสำคัญที่สุด อย่าหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงิน โปรดแบ่งปันข้อมูลนี้ให้กับคนรอบข้างเพื่อป้องกันไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : จิรัชยา นวลนิ่มน้อย และ จิราภา อ่อนเกลี้ยง
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส