"นิมิตร" จี้วัดพระบาทน้ำพุปิดรับบริจาคช่วยเอดส์ เหตุไม่มีผู้ป่วยหนัก
"นิมิตร" แฉ เคยถูกต้านไม่ให้เข้า วัดพระบาทน้ำพุ พร้อมจี้ปิดรับบริจาคช่วยเอดส์ เหตุไม่มีผู้ป่วยระยะสุดท้าย นอนรอความตาย เอดส์รักษาได้-ป้องกันได้!
วันที่ 19 ส.ค. 68 นาย นิมิตร์ เทียนอุดม ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและกำกับติดตามการเข้าถึงบริการผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และวัณโรค เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ส่วนตัวทำงานเป็นหัวหน้างานรณรงค์ของมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ทำหน้าที่รณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สังคมในเรื่องผู้ป่วยเอดส์ จึงได้เดินทางไปเข้าพบหลวงพ่ออลงกต ที่วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อขอความร่วมมือให้หยุดสื่อสารภาพผู้ป่วยที่น่ากลัว และรันทด ต้องมานอนรอความตายที่หน้าวัด เพราะสิ่งที่ต้องทำมากที่สุดในตอนนั้น คือการสร้างบ้านให้แข็งแรงด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับครอบครัวของผู้ป่วยว่าต้องดูแลผู้ป่วยอย่างไร รวมถึงทำความเข้าใจกับสังคมว่าโรคเอดส์สามารถป้องกันได้ และไม่ได้ติดเชื้อกันง่ายๆ แต่กลับได้รับการปฏิเสธจากหลวงพ่ออลงกต
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในช่วงแรกที่มีการระบาดของโรคเอดส์ แล้วประเทศไทยยังไม่มีแนวทางการรักษา การดูแลผู้ป่วยเอดส์ของวัดพระบาทน้ำพุจึงมีส่วนสำคัญ แต่หลังจากที่ประเทศไทยมียาต้านที่มีประสิทธิภาพ ส่วนตัวมองว่า วัดพระบาทน้ำพุ ไม่ได้มีบทบาทความจำเป็นแล้วในสังคมปัจจุบันนี้ ที่จะมาเปิดรับบริจาคเงินใดๆ เพราะหากผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาโดยเร็วก็จะไม่มีผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ต้องไปนอนพักรักษาตัวที่วัดพระบาทน้ำพุ
ส่วนกรณีที่วัดพระบาทน้ำพุขึ้นทะเบียนเป็นสถานชีวาภิบาล เพื่อดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายนั้นต้องทำความเข้าใจว่า ผู้ป่วยระยะสุดท้ายไม่ได้มีเฉพาะผู้ป่วยของโรคเอดส์ แต่มีในโรคอื่นๆด้วย ซึ่งหากผู้ป่วยเหล่านั้นได้รับการรักษาที่ถูกต้องและรวดเร็วตั้งแต่แรกก็จะไม่มีการเดินทางไปสู่ระยะสุดท้าย
นายนิมิตร์ ยังบอกอีกว่า วัดพระบาทน้ำพุเป็นตัวอย่างของอานิสงส์จากการขู่ให้คนกลัวโรคเอดส์ ที่จะต้องเอาผู้ป่วยไปอยู่ในวัดแล้วไปอยู่ในภาวะระยะสุดท้าย นอนรอวันตาย ไม่มีทางรักษา จนเป็นภาพจำที่ทำให้คนกลัวตั้งแต่ปีแรก และครอบครัวหรือญาติก็ไม่พร้อมจะดูแลผู้ป่วย เพราะกลัวจะติดเชื้อ ตอนนี้จึงต้องหยุดเรื่องของการขู่ให้กลัวได้แล้ว และกลับมาให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่คนในสังคมว่าโรคเอดส์รักษาได้ ป้องกันได้
นายนิมิตร์ บอกอีกว่า ส่วนตัวอยากสื่อสารไปยังคน 4 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มคนที่ป่วยและนอนอยู่ในวัดใดวัดหนึ่ง หรืออาจจะนอนอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุก็ได้ ให้โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1330 หรือ 1663 เพื่อให้ข้อมูลว่าอยู่ที่วัดได้รับการรักษาหรือไม่ กินอยู่อย่างไร เพื่อให้อาสาสมัครได้ติดตามและให้ช่วยเหลือในการรักษา ซึ่งจะทำให้รอดชีวิตกลับมาใช้ชีวิตได้
2. กลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์และคาดว่าจะติดเชื้อ HIV ให้โทรศัพท์ไปที่สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เช่นกัน เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการเริ่มตรวจหาเชื้อ และขอรับบริการการส่งเสริมและป้องกันโรค ซึ่งเบื้องต้นถุงยางอนามัยสามารถป้องกันได้
3. กลุ่มนายจ้าง ฝ่ายบุคคล หรือผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรับคนเข้าทำงาน-เข้าเรียน ส่วนตัวอยากสื่อสารว่า ไม่มีใครติดเชื้อในที่ทำงาน เพราะเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในที่ทำงาน และหากติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถเข้ารับการรักษาจนกลับมาใช้ชีวิตในที่ทำงานได้
4. อย่าตกเป็นเหยื่อโฆษณาอาหารเสริมหลอกลวงกินแล้วหายจากเอดส์ เพราะกำลังถูกหลอกลวงแน่นอน