"จตุพร" จับตาศาล รธน.ชี้วันตัดสินคดี "นายกฯอิ๊งค์" จวกเสถียรภาพรัฐบาลอึมครึม - ชายแดนเดือด
วันที่ 13 ส.ค.68 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อนว่า จับตา ศาล รธน.ประชุม กำหนดวันตัดสินคดีอุ๊งอิ๊งหรือไม่ ชี้รัฐบาลเสถียรภาพอึมครึม ชายแดนทหารเหยียบระเบิดขาขาดรายวัน ลั่นเป็นสัญญาณเตือนภัย ก่อแรงกระเพื่อมประชาชนหมดความอดทน ฟาดยืดเวลาตัดสินอุ๊งอิ๊ง 6 ด. ภาวะพวกกระโถนละเมอ
เมื่อ 12 ส.ค. 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่า การทำหน้าที่ด้วยความอึมครึมของรัฐบาลและปล่อยให้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาดขาเป็นรายวัน อาจจะนำไปสู่อารมณ์ประชาชนหมดความอดทนกันได้
อีกทั้งกล่าวว่า ข้อเสนอให้ศาล รธน.ชะลอพิจารณาคดีนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร อีก 6 เดือนและเพิกถอนคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อนายกฯ จะได้มานำทัพแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชานั้น เป็นข้อเสนอหมกปัญหาของประเทศและยืดสถานการณ์อีหลักอีเหลื่อให้เนินนานไปอีก
“ถามจริง คนไทยเชื่ออย่างนั้นหรือเปล่าว่า ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ อุ๊งอิ๊งเหมือนเป็นผู้นำที่จะออกศึก หย่าศึก หรือจะนำศึก ซึ่งไม่มีใครรู้สึกเช่นนั้น แม้ตัวอุ๊งอิ๊งเองยังมีอาการเธอเต็มทีแล้ว"
อย่างไรก็ตาม แม้ ศาล รธน. ประชุมในวันพุธที่ 13 ส.ค. นี้ และจะกำหนดวันวินิจฉัยคดีอุ๊งอิ๊งหรือไม่ คงเป็นไปตามดุลพินิจของศาล แต่หวังว่า จะเอาอย่างไรก็ควรเอากัน ถ้าอุ๊งอิ๊งรอดหรือไม่รอดคดี คนไทยจะได้รู้ว่า จะทำกันอย่างไร แต่ไม่ควรให้ประเทศอยู่ในสภาพอึมครึมแล้วทหารเสียขากันเป็นรายวันแบบนี้ เพราะประชาชนอาจทนไม่ไหว
"ผมไม่ต้องการรัฐประหาร แต่อุปสรรคของไทยดูเหมือนปัญหามาจากภายในประเทศเช่นกัน ถ้าทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก ก็มีการประท้วงกันแบบนี้ นานวันเข้าคนไทยจะถามว่า มีรัฐบาลไว้ทำไม สักพักอาจจะมีคนมาขับไล่จนเป็นเรื่องเป็นราวกัน"
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้ายังปล่อยให้ทหารขาขาดกันแบบรายวัน เมื่อรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นคงหนีไม่พ้นที่ไทยกับกัมพูชาต้องเปิดศึกกันอีก เพราะการรบไม่ได้ยุติกันจริง และกัมพูชาคงต้องการใช้กำลังทหารมายึดพื้นที่ที่เคยครอบครองไว้ทั้ง 11 จุดอีก ซึ่งสันติภาพคงไม่เกิดขึ้นกันฝ่ายเดียว แต่ควรระวังอารมณ์สังคมจะปะทุมากขึ้น แล้วรัฐบาลยากรับมือไหว
สิ่งสำคัญ ระดับแม่ทัพจะเจรจาอาร์บีซีกันอีกรอบนั้น เชื่อว่า คงตึงเครียด เพราะหลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ ไปตกลงหยุดยิงตั้งแต่ 28 ก.ค. เป็นต้นมานั้น ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดกันหลายขาแล้ว ดังนั้น เหตุการณ์ต่างๆ อาจใกล้ปะทุขึ้น ยกเว้นได้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล
ส่วนกัมพูชายึดปั้มน้ำมัน ปตท. แต่ไทยนิ่งเงียบนั้น นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลคงหวั่นกลัวจะถูกยึดทรัพย์สินของใครบางคนในกัมพูชาเป็นการตอบโต้ก็ได้ อีกอย่างต้องไม่ลืมว่า คลิปพาดพิงสถาบันที่สมเด็จฮุนเซนขู่ไว้ ยังไม่ได้นำมาเปิดเผย
พร้อมทั้งย้ำว่า เมื่อรัฐบาลเอาแต่เงียบ แก้ปัญหาโดยหมกปัญหานั้น ปัญหาก็แก้ไขไม่ได้ อีกอย่างกระดานการเมืองเริ่มตีบตันกันตามลำดับ เพราะ ปปช.ไม่เร่งพิจารณาคำร้องฝ่าฝืน ม.144 และส่วนหนึ่งมาจาก กกต.ล่าช้ากับข้อหาครอบงำพรรคการเมือง ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างรอให้สถานการณ์มาถึงจุดต่ำกันทั้งนั้น แต่ประเทศเสียหาย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั้งหมดของรัฐบาลและประชาชนนั้น อยู่ที่ศาล รธน.จะกำหนดวันตัดสินคดีอุ๊งอิ๊ง แม้ปลายทางจะได้รับรู้ถึงวันตัดสินคดีของทักษิณ ชินวัตร กรณีคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ โดยผลลัพธ์ของคดีจะออกมาบวกหรือลบ ยอมเกิดแรงกระเพื่อมของประชาชนและประเทศทั้งสิ้น ยิ่งรัฐบาลสร้างสถานการณ์อึมครึมมาซ้ำเติมอีก ประชาชนอาจหมดความอดทนกัน
"เราหวังว่า บ้านเมืองจะได้มีการปกครองที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางกันจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงเอาประชาชนไว้เป็นคำอธิบายเท่านั้น พอมีอำนาจแล้วตัวเองก็ทำตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาล บ่งการในทุกเรื่อง และพาประเทศมาติดกับดักอยู่ในขณะนี้"