ทารกหญิงมีอวัยวะเพศ "คล้ายเพศชาย" เพราะนอนทับอกพ่อ หมอเตือนอาจเกิดจากสิ่งนี้!
ทารกเพศหญิงมีพัฒนาการผิดปกติทางอวัยวะเพศ หลังจากถูกวางให้นอน "บนหน้าอกของพ่อ" เป็นประจำ โดยจุดที่สัมผัสนั้นเป็นบริเวณที่ผู้เป็นพ่อใช้เจลฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งมีฤทธิ์แรงจนส่งผลกระทบต่อร่างกายของลูกน้อยโดยไม่รู้ตัว
รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศสวีเดน เด็กหญิงวัย 10 เดือน เริ่มมีอาการผิดปกติที่อวัยวะเพศ โดยคลิตอริสเริ่มยืดยาวผิดปกติคล้ายอวัยวะเพศชาย และแคมอวัยวะเพศเริ่มเชื่อมติดกันจนดูคล้ายถุงอัณฑะของผู้ชาย เมื่อครอบครัวสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงรีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
ผลตรวจเลือดพบว่า เด็กหญิงมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงเกินปกติอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายดังกล่าว โดยสาเหตุหลักคือการสัมผัสผิวหนังของพ่อที่ทาเจลฮอร์โมนเป็นประจำ
ศ.โจวันนา ดาห์ลเกร็น (Jovanna Dahlgren) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อเด็ก จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซาห์ลเกรนสกา กล่าวกับสื่อ Göteborgs-Posten ว่า "หลายคนไม่รู้ว่าเจลฮอร์โมนพวกนี้มีฤทธิ์รุนแรงแค่ไหน พ่อแม่จำนวนมากกลายเป็นคนสิ้นหวังทันทีเมื่อรู้ว่าการกระทำที่ดูไร้พิษภัยกลับส่งผลถึงลูกแบบนี้"
เธอยังระบุว่า นี่ไม่ใช่เคสเดียวที่เกิดขึ้น เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอพบผู้ป่วยเด็กอีกอย่างน้อย 6 ราย ที่มีอาการผิดปกติจากการสัมผัสฮอร์โมนโดยไม่ตั้งใจ หนึ่งในนั้นคือเด็กชายวัย 10 ปีที่เริ่มมีหน้าอกเติบโตหลังสัมผัสครีมเอสโตรเจนจากแม่ โชคดีที่ในกรณีของเด็กหญิงสวีเดน หลังจากผู้เป็นพ่อหยุดใช้เจลเทสโทสเตอโรน อาการผิดปกติก็ค่อยๆ ลดลง และอวัยวะเพศเริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม
แม้สื่อบางรายจะเรียกกรณีนี้ว่า “ไมโครพีนิส” (micropenis) แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่านิยามนี้ไม่ถูกต้องนัก เพราะคำดังกล่าวหมายถึงอวัยวะเพศชายที่เจริญไม่เต็มที่ ขณะที่กรณีนี้คือ“เพศหญิงที่ได้รับฮอร์โมนเพศชายมากเกิน” จนเกิดลักษณะภายนอกคล้ายเพศชาย ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มอาการที่เรียกว่า“ภาวะเพศกำกวม” หรือ “virilization”
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) คืออะไร? ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญ มักใช้รักษาภาวะฮอร์โมนต่ำ (Hypogonadism) โดยเฉพาะในผู้ชายวัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งอาจมีอาการอ่อนเพลีย สมรรถภาพทางเพศลดลง กล้ามเนื้อลด ความรู้สึกซึมเศร้า หรือไม่มีแรงจูงใจ
ในปัจจุบัน การรักษาด้วยฮอร์โมนเพศชาย (TRT: Testosterone Replacement Therapy) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป โดยมีคนดังจำนวนมากเปิดเผยว่าใช้ฮอร์โมนนี้ เช่น Josh Duhamel, Sylvester Stallone และ Joe Rogan แม้จะมีข้อดีในการเสริมพลังงานและฟื้นสมรรถภาพ แต่ก็มีความเสี่ยง เช่น สิว บวมน้ำ อัณฑะฝ่อ ภาวะมีบุตรยาก หรือทำให้นอนกรนหนักขึ้น
เตือนข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้เจลฮอร์โมนเพศชาย เจลเทสโทสเตอโรนเป็นหนึ่งในรูปแบบยอดนิยมของ TRT เพราะใช้สะดวก แต่มักถูกเข้าใจผิดว่า “ไม่อันตราย” ทั้งที่ในความเป็นจริงสามารถส่งผ่านฮอร์โมนได้ง่ายผ่านการสัมผัสผิวหนัง
คำแนะนำจาก Mayo Clinic คือ ควรล้างมือทันทีหลังทาเจล, หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่นบริเวณที่ทา โดยเฉพาะเด็ก แลัล้างบริเวณที่ทาก่อนจะมีการสัมผัสผิวกับคนอื่น เช่น การกอด อุ้มลูก หรือนอนกับเด็ก
แม้การให้ลูกน้อยนอนบนอกจะเป็นกิจกรรมที่ดีต่อพัฒนาการและความผูกพัน แต่หากผู้ปกครองใช้ฮอร์โมน หรือยาทาเฉพาะที่ใดๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้างบนผิวหนัง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ดังนั้น หากคุณเป็นพ่อแม่ที่กำลังใช้ฮอร์โมน หรือยาทาเฉพาะที่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย และอย่าลืมว่าการดูแลตัวเองควรมาควบคู่กับความปลอดภัยของคนในครอบครัว