สองหญิงแสบ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ วัย 80 ปี ค้นข้าวของกระจุย ก่อนฉกมือถือหนีลอยนวล
สองหญิงแสบ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ วัย 80 ปี ค้นข้าวของกระจุย ก่อนฉกมือถือหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 กรกฎาคม สืบเนื่องจากนายมนูญ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดบางมดโสธราราม ได้ร้องสื่อให้ช่วยตามหา หลังสองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิหลวงตาทองสุข เสือคำราม หรือหลวงตาสุข อายุ 80 ปี ซึ่งได้ป่วยเป็นโรคประจำตัวประกอบกับอายุที่มากแล้ว จึงไม่สามารถที่จะเดินเหินได้เหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไป
หลวงตาสุข เสือคำราม อายุ 80 ปี เป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดบางมดโสธราราม แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยพักอาศัยอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ภายในวัดดังกล่าว ต่อมาปี พ.ศ.2567 พระทองสุขได้มีอาการป่วยต้องพักรักษาตัวอยู่ภายในกุฏิจนไม่สามารถเดินและใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปได้
ล่าสุดวานนี้ (11 ก.ค.) เวลาประมาณ 13.45 น. ขณะที่พระทองสุขกำลังพักผ่อนอยู่ที่เตียงนอนภายในกุฏิ ได้มีหญิงสาวรูปร่างอ้วน 2 คน ซึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เข้ามาภายในวัดและเข้าไปในห้องของพระทองสุข จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 13.43 น. หญิงคนที่สวมเสื้อเอี้ยมสีเขียว ผมสั้น ได้ลงมือรื้อค้นหาสิ่งของบนหัวเตียงของพระทองสุข โดยมีหญิงอีกคนที่มาด้วยกัน (สวมใส่เสื้อแขนยาวสีแดง) ได้เป็นคนดูต้นทาง
ต่อมาหญิงคนร้ายคนที่รื้อหาสิ่งของได้มองเห็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระทองสุข ซึ่งวางไว้บนหัวเตียง จึงได้หยิบเอามาแล้วทำทีว่าเอามาดูเล่น จากนั้นเมื่อเห็นว่าพระทองสุขหลับตาอยู่จึงได้เอาโทรศัพท์ของหลวงตาสุขใส่ใว้ในเอี้ยมที่สวมมาแล้วพากันหลบหนีไป
ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดภายในห้องของหลวงตาสุขสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ จึงได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และต่อมาหลานชายของเจ้าอาวาสได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
พระทองสุขกล่าวว่า ตนป่วยมานานแล้ว ไม่สามารถเดินเหินไปไหนได้ และไม่ได้รับกิจนิมนต์มานานแล้ว ตอนเกิดเหตุตนกำลังนอนพักอาศัยอยู่ภายในกุฏิ แล้วมีหญิง 2 คนเดินเข้ามาในกุฏิ ทำทีว่ามาเยี่ยม แล้วมาพูดคุยนู่นนี่นั่น สักพักก็เอ่ยปากยืมเงินแล้วก็บอกกับอาตมาว่า วันนี้จะนำราดหน้ามาถวาย อาตมาก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแถวนี้หรือเปล่า ตอนนั้นอาตมาก็รู้สึกเพลียแล้วก็เลยเผลอหลับไป แล้วเขาก็ลงมือก่อเหตุตามคลิปกล้องวงจรปิด
ด้าน พระโสรพล (พระในวัด) กล่าวว่า ตนติดกล้องไว้ที่ห้องหลวงปู่เพื่อจะดูพฤติกรรม เพราะหลวงปู่ท่านไม่สบาย เป็นโรคลมชักมาตั้งแต่เมื่อพรรษาที่แล้ว ตอนนั้นหลวงปู่ชักแล้วล้มลงตอนกลางคืน มารู้อีกทีก็เช้า ตั้งแต่นั้นมาเลยติดกล้องไว้เผื่อเป็นอะไรไปอีก
พระโสรพลกล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาก่อน เรื่องมีคนเข้ามาหาหลวงปู่ นั่งรถเก๋งมาเข้าไปหาหลวงปู่ หันไปหันมาเห็นกล้องวงจรปิดเลยทำทีเข้าไปบีบนวดที่ขา แล้วกระซิบพูดเบาๆ เพื่อไม่ให้กล้องได้ยินเสียง ใจความว่า มาทำบุญที่วัดแล้วจะขอค่ารถกลับ หลวงปู่ก็หยิบกระเป๋าตังค์มาเปิดดู บอกมีแค่นี้แหละ หลวงปู่ไม่สบายไม่ได้ออกไปกิจนิมนต์ แต่ก็หยิบให้ไป 200 บาท หลังจากนั้นก็มีอีก แต่เป็นรายนี้แหละ ตอนนั้นมาคนเดียว มาขอยืมเงิน หลวงปู่ก็หยิบกระเป๋าแบบพับขึ้นมาเปิด มี 2 ฝั่ง ฝั่งนึงมี 500 อีกฝั่งมี 400 แต่เปิดเห็นแค่ฝั่ง 400 เลยรีบหยิบเงินจากมือไป ได้ไปแค่ 400 แล้วก็กลับออกไป ครั้งนั้น ไม่ได้ไปแจ้งความอะไร แต่พอมาเห็นพฤติกรรมในครั้งนี้ก็คิดว่าไม่ได้แล้ว จะปล่อยไปแบบครั้งก่อนไม่ได้ มันอันตรายเกินไป
พระโสรพลกล่าวว่า ช่วงเมื่อวันเกิดเหตุ เวลาประมาณบ่าย 2 ตนเข้ามาย้อนดูกล้องว่าหลวงปู่ฉันข้าวกลางวันหรือยัง ตนก็เห็นว่ามีคนมาหาหลวงปู่ ดูไปดูมา อ้าว มาหยิบโทรศัพท์หลวงปู่ไป เลยรีบออกมาหาหลวงปู่ที่กุฏิ ถามว่ารู้ไหมว่าโทรศัพท์โดนขโมยไปแล้ว หลวงปู่ถึงได้รู้ตัว จากนั้นตนจึงโทรตามหลานหลวงปู่แล้วพากันไปแจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สองหญิงแสบ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ วัย 80 ปี ค้นข้าวของกระจุย ก่อนฉกมือถือหนีลอยนวล
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th