“บิ๊กเต่า” มอบหลักฐานพระผิดวินัยให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ ลั่นเอาผิดทุกมิติ
เมื่อเวลา 16.25 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) แถลงถึงความคืบหน้าหลังเข้าพบ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) พระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อหารือแนวทางจัดการพระสงฆ์ที่กระทำผิดวินัยร้ายแรงถึงขั้นปาราชิก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมดำเนินการภายใต้คำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการสอบสวนกลาง โดยยึดหลักพยานหลักฐานเป็นสำคัญ เพื่อจัดการกับพระสงฆ์ที่กระทำผิดให้ตรงไปตรงมา และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อพระพุทธศาสนา
“ในระยะแรกเราให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องตัดสินใจสึกด้วยตัวเอง แต่ยังมีบางรูปปฏิเสธ หรือปล่อยข่าวลวงอ้างว่าสึกแล้ว ตำรวจจึงต้องดำเนินการร่วมกับคณะสงฆ์ ทั้งมหานิกายและธรรมยุติก ควบคู่กับกระบวนการสอบสวนคดีอาญา” รอง ผบช.ก. กล่าว
“บิ๊กเต่า”ให้กำลังใจ “ทิดแหล่”หลังร่ำไห้ บอกสึกมาแล้วยังทำอาชีพอื่นได้…
สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่ามีพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องกว่า 20 รูปนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปฏิเสธที่จะยืนยันจำนวน โดยขอให้สังคมมุ่งเน้นที่การสร้างความเป็นธรรมและการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบมากกว่า
“วันนี้เราได้นำส่งรายชื่อและหลักฐานทั้งหมดให้สมเด็จพระพุฒาจารย์แล้ว หากพระรูปใดไม่ยอมสึก แม้มีหลักฐานชัดเจน ตำรวจพร้อมดำเนินคดีจนถึงที่สุด แม้จะมีการอ้างว่าเป็นภาพตัดต่อ หรือตั้งทนายสู้ ตำรวจก็ไม่กังวล เพราะหลักฐานเพียงพอ”
ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ “สีกากอล์ฟ” รอง ผบช.ก. ยืนยันว่า อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบการโอนเงินจากบัญชีวัด หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงินหรือทุจริต จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงกรณีอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ที่เดินทางมาให้ปากคำในวันนี้ว่า ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และข้อมูลที่ให้สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่
“บางท่านไม่ได้ตั้งใจจะผิดศีลหรือก้าวล่วง แต่ก็อาจถูกล่อลวงหรือตกเป็นเหยื่อ ท่านเองก็เคยอยากเป็นพระที่ดี แต่บางกรณีก็อาจมีผู้หญิงมากระทำการจนเสียหาย เราไม่ได้บังคับให้พูดทันที แต่ให้กลับไปคิด และพร้อมให้กลับมาให้การเพิ่มเติมได้” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย