ไปต่อไม่ไหว! “กูลิโกะ” ประกาศยุติขาย “ไอศกรีม” ในประเทศไทย
วันนี้ (3 กรกฎาคม 2568) บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ได้ประกาศยุติการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ไอศกรีมภายใต้แบรนด์กูลิโกะในประเทศไทย โดยผู้บริโภคยังคงสามารถหาซื้อไอศกรีมกูลิโกะได้จากทุกช่องทางจำหน่ายจนถึงประมาณสิ้นปี 2568 นี้
ประกาศดังกล่าวเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Glico ice TH ระบุถึงการตัดสินใจยุติการจำหน่ายไอศกรีม เพื่อเป็นการแจ้งให้ลูกค้าและผู้บริโภคทราบล่วงหน้า แม้จะยุติการจำหน่ายไอศกรีม แต่บริษัทยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าทำตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ได้แก่ ขนมและเครื่องดื่มน้ำนมอัลมอนด์ ซึ่งจะยังคงมีจำหน่ายตามปกติ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต
โดยเนื้อหาดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้ ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ทางบริษัท ไทยกูลิโกะ จํากัด ได้มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ “ไอศกรีม” ในประเทศไทย บริษัทฯรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าทุกท่านมาโดยตลอด
บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า เราจะยุติการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ไอศกรีมภายใต้แบรนด์กูลิโกะ” ในประเทศไทย
โดยท่านยังสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าวได้จนถึงประมาณสิ้นปี 2568 ในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายบริษัทฯ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ความไว้วางใจ และการสนับสนุนจากลูกค้าทุกท่าน ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของเรามาโดยตลอด
แม้เราจะยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอศกรีม แต่สินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งได้แก่ ขนมและเครื่องดื่มน้ำนมอัลมอนด์ยังคงมีจำหน่ายเช่นเดิม เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพให้แก่ลูกค้าทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านอย่างต่อเนื่องต่อไป
บริษัท ไทยกูลิโกะ จํากัด
อย่างไรก็ดี ปีนี้ถือเป็นปีที่ “กูลิโกะ ประเทศไทย” ครบรอบ 55 ปี และตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ภายใต้การนำของนายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย กูลิโกะ จำกัด ที่มีเป้าหมายรุกขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน ยังมองไปถึงตลาดใหม่ ๆ ทั้งกลุ่ม Gen Z, Gen Alpha กลุ่มคนรักสุขภาพ ตลอดจนกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มองผลิตภัณฑ์กูลิโกะที่จำหน่ายเฉพาะในไทยเป็นของฝาก
กลยุทธ์การดำเนินงาน
ผลิตภัณฑ์ขนม
ภายใต้แบรนด์ ต่างๆ อาทิ พีจอย, ป๊อกกี้, เพรทซ์ มุ่งเน้นการเพิ่มทางเลือกเรื่องสุขภาพผ่านแท่งบิสกิตโฮลวีต ตลอดจนการสร้างความแปลกใหม่และสีสันให้ตลาด ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อีกราว 8-10 รายการในปีนี้
พร้อมสร้างการรับรู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านกิจกรรมคิวอาร์โค้ดหน้ากล่อง อาทิ เกมส่งเสริมการเรียนรู้, กิจกรรมพาร์ตเนอร์กับแบรนด์เกมหรือศิลปินรุ่นใหม่ จัดงานออนกราวด์ต่อเนื่องอย่าง ป๊อปอัป สโตร์ ป๊อกกี้ คาเฟ่ (Pocky Café) พร้อมเตรียมเปิดตัวกูลิโกะรสชาติโลคอล เพื่อเจาะกลุ่มทั้งตลาดในประเทศ ตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อเป็นของฝาก
ผลิตภัณฑ์ Health & Wellness
มุ่งขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม B2C สู่การบุกตลาด B2B มากยิ่งขึ้น ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ โคกะรสชาติต่าง ๆ ไปยังร้านคาเฟ่และคอฟฟี่เชน ที่มีสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องใช้นมอัลมอนด์เป็นส่วนผสม รวมถึงพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมทั้งจัด Event Marketing เข้าถึงฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่
ขณะที่ด้านการตลาดจะเห็นการจับมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างสีสันกระตุ้นยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น “ป๊อกกี้” จับมือ “Butterbear” เปิดตัวแคมเปญ “I Pocky U” จัดพรีเมียมเซ็ทกระเป๋า-ผ้าห่มขนนุ่ม “หมีเนย” สุดคิวท์ Limited Edition เจาะตลาดแฟนด้อม, “เพรทซ์” ผนึกเกมมือถือ “ROV” มอบ 500,000 ไอเท็มเจาะกลุ่มเกมเมอร์ และการเปิดตัว 2 รสชาติใหม่สไตล์ไทยสุดสร้างสรรค์ “ต้มข่าไก่” และ “แกงเขียวหวานไก่” เป็นต้น