KGI ชี้ไทยได้ภาษี 19% สร้างแต้มต่อแข่งอาเซียน
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 17.36 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเทศไทยบรรลุข้อตกลงทางการค้าด้วยอัตราภาษีที่แข่งขันได้ ประเทศไทยได้ข้อสรุปอัตราภาษีตอบโต้ที่ 19% จากความพยายามที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งใน ASEAN
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะลดอัตราภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยลงจาก 36% เหลือ 19% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศในกลุ่ม ASEAN โดยประเทศส่วนใหญ่ถูกเก็บภาษีในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ที่ถูกเก็บภาษีในอัตรา 19% ขณะที่เวียดนามถูกเรียกเก็บสูงกว่าที่ 20%
ไม่กระทบประมาณการเศรษฐกิจ เพราะใช้สมมติฐานภาษีไว้แล้ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจของเรา เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์ได้ใช้สมมติฐานอัตราภาษีที่ 20% ในแบบจำลองไว้แล้ว และคาดการณ์ GDP ปี 2568 ไว้ที่ 1.9% ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการทางเศรษฐกิจไว้เท่าเดิม อย่างไรก็ตาม หลังมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2568 ในวันที่ 18 สิงหาคม อาจมีการทบทวนประมาณการอีกครั้ง โดยพิจารณาจากข้อตกลงทางการค้า, สถานการณ์การเมืองล่าสุด และข้อมูลเศรษฐกิจครึ่งปีแรกที่ปรากฏจริง
ตลาดโดยรวมได้รับผลกระทบจำกัด แต่บวกกับกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม
เรามองว่าผลกระทบต่อดัชนี SET จะอยู่ในระดับกลาง ๆ (Neutral) เนื่องจากนักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าไทยจะได้รับอัตราภาษีเท่ากับประเทศอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนนี้น่าจะช่วยสร้างบรรยากาศบวกให้กับหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เช่น AMATA และ WHA จากความมั่นใจของนักลงทุนในการตัดสินใจระยะยาว
ขณะเดียวกัน ยังมองบวกต่อหุ้นบางตัวในกลุ่ม F&B และ IT / ร้านขายสมาร์ตโฟน โดยมีการเก็งกันว่า ไทยอาจนำเข้าถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อัตรากำไรของธุรกิจแปรรูปเนื้อสัตว์ เช่น BTG และ TFG ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากโมเมนตัมกำไรของหุ้นเหล่านี้ในครึ่งปีหลังอาจชะลอลงอย่างชัดเจน
สำหรับหุ้นกลุ่ม IT เรามองว่ามีโอกาสให้เก็งกำไรในหุ้นของบริษัทที่ขายสมาร์ตโฟน เช่น COM7 และ SYNEX
ปัจจัยการเมืองภายในอาจกลับมาเป็นจุดสนใจในเดือน ส.ค.
เราระบุไว้ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์พอร์ตหุ้นประจำเดือนสิงหาคมว่า ดัชนี SET ในปัจจุบันเหลือ Upside ถึงเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ระดับ 1,283 จุดไม่มากแล้ว และมีโอกาสน้อยที่จะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของหุ้นกลุ่มหลัก นอกจากนี้ ตลาดดูเหมือนจะตอบรับปัจจัยบวกหลัก ๆ ไปแล้ว เช่น
i) อัตราภาษีที่แข่งขันได้มากขึ้น
ii) แนวโน้มนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายหลังจากนายวิทัย รัตนากร จะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2568
เรายังเชื่อว่า สถานการณ์การเมืองไทยจะกลับมาร้อนแรงในเดือนสิงหาคม โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงระหว่างนายกฯ แพทองธาร และผู้นำกัมพูชา ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดมากขึ้น