“พรหมินทร์” ฝ่า 2 วิกฤต ย้ำศัตรูของไทยไม่ใช่คนในประเทศ
"เลขาธิการนายกฯ" มองไทยฝ่า 2 วิกฤตหัวเลี้ยวหัวต่อ "ชายแดน-ภาษีสหรัฐฯ" เชื่อ GBC เป็นจุดเริ่มต้นแก้ปัญหา ขณะที่ "ภาษีทรัมป์" ไทยไม่เสียเปรียบประเทศคู่แข่ง แจงรัฐบาลสื่อสารซ้ำ จะได้เข้าหู เหตุ "กัมพูชา" ฉวยโอกาสสร้างข่าวปลอมบ่อย
นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 19 % ถือว่าคณะรัฐมนตรีหมดหน้าที่แล้วหรือไม่ หลังมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ ประเทศไทยได้ผ่านพ้นวิกฤตเบื้องต้น 2 เรื่องใหญ่คือ การสู้รบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเราหยุดยิง และได้พูดคุยกัน เชื่อว่าความสงบสุขก็เริ่มกลับมา เห็นได้จากประจักษ์พยานที่อยู่ในภาคสนาม และทุ่นระเบิดที่ยังทำลายไม่หมด ความสงสัยหวาดระแวงกันอยู่ก็ยังมี แต่เชื่อว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC ที่เราส่งผู้แทนเข้าไปร่วมประชุมดังกล่าว จะเป็นการเริ่มต้นที่เราจะได้พูดคุยกัน โดยแก้ไขปัญหากันด้วยการเจรจา
เรื่องที่ 2 คือ วิกฤติเรื่องการเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ใช่วิกฤตของประเทศไทยประเทศเดียว และขณะนี้ไทยได้ข้อยุติที่สำคัญ และถือว่า เป็นประโยชน์ในการดำเนินการของภาคเศรษฐกิจ ซึ่งอุปสรรคเหล่านี้ ถามว่า หน้าที่ของรัฐบาลจบหรือยัง ต้องตอบว่า "ยัง" เพียงแต่ผ่านพ้นจุดวิกฤตไปแล้ว ซึ่งหมายถึงได้คำตอบที่ชัดเจน และประเทศไทยสามารถดำเนินการค้า เปิดตลาดให้กว้างขึ้น
อีกทั้งที่สำคัญที่สุดคือ การส่งออกเราสามารถเทียบเคียงกับประเทศคู่แข่งได้ ไม่มีอะไรเสียเปรียบ และหากดูให้ดีได้เปรียบ บางประเทศเสียอีก แม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่า เสมอกัน ในภูมิภาคนี้ที่จะส่งออกในตลาดเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปดูแล และแก้ไขปัญหาเรื่องโครงสร้าง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงไว้อย่างชัดเจน ซึ่งนาทีนี้เป็นจุดเปลี่ยน (Turning point) ที่จะพาประเทศมองไปข้างหน้า และเมื่อฝ่าวิกฤตตรงนี้ไปได้แล้ว โดยที่เราต้องร่วมใจกันของประชาชนทั้งประเทศที่ต้องรวมกันเป็นหนึ่งอย่างที่หลายฝ่ายเรียกร้อง และแน่นอนที่สุดว่า วันนี้ศัตรูของไทยไม่ใช่คนในประเทศ เราต้องรวมใจกันเพื่อจะฟันฝ่า และมองอนาคต
โดยพูดง่าย ๆ ว่า เราฝ่าฟันวิกฤต 2 เรื่อง ซึ่งจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะพาประเทศ ร่วมกันเดินทางไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
เมื่อถามว่า เรื่องหัวเลี้ยวหัวต่อ 2 เรื่องใหญ่ รัฐบาลควรมีการปรับแผนเรื่องการประชาสัมพันธ์ หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการให้ข่าวซ้ำซ้อน บางข่าวก็ผิดบ้าง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มองว่า
เรื่องการให้ข่าวหน้างาน ในสถานการณ์ที่มีการสู้รบไม่มีใครรายงานได้ดี แม้กระทั่งภาคสนามก็ยังมีปัญหา ซึ่งหมายความว่า ข่าวยังมาไม่ถึง ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ในเมื่อมีความเห็นว่า
เราช้าไม่ทันการณ์ ก็ได้มีการกลับแล้ว
ซึ่งจะเห็นได้ว่า 2-3 วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยความสำคัญของหน่วยงานราชการทั้งหมดเป็นรัฐบาล ไม่ได้แยก ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมาย และแต่งตั้ง ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก.ไว้ เ!1พื่อเป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่อง โดยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้อำนวยการ ศบ.ทก. และตลอดเวลามีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
ซึ่งทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพ และกระทรวง การต่างประเทศ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นภาพที่เห็นชัด แต่ก็มีความเข้าใจ และความพยายามที่จะชี้ว่า ไม่ใช่อันเดียวกัน ตนขอยืนยันว่า ไม่ใช่ และหลาย ๆ เรื่องไม่ได้ซ้ำซ้อน แต่ที่ต้องซ้ำ เพราะเขาพูดซ้ำ ๆ จากหลายเรื่อง หลายฝั่งที่เป็นคนละข้าง ในการฉวยโอกาส สร้างข่าวไม่เป็นจริงก็ต้องออกมาพูดซ้ำหลายครั้ง จะได้เข้าหูกันถ้วนหน้า
ส่วนเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ที่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการประสานไปแล้วหรือไม่ นายแพทย์ พรหมินทร์ ระบุว่า ในเรื่องนี้เมื่อได้ผ่านที่ประชุม ครม. นัดพิเศษแล้ว และได้มีมติมีการทำความเข้าใจเนื้อหา และกรอบในการเจรจา ซึ่งกรอบการเจรจาคือ บอกว่า เราต้องมีการเจรจาต่อไปแน่นอน เมื่อถึงขั้นตอนทางกฎหมายก็ต้องผ่านรัฐบาล ผ่านสภาฯ ก็จะมีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฏหมาย"
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews